วันนี้ (27 ธ.ค.2565) เวลา 14.00 น. ตำรวจ สภ.บางสะพาน นำวัตถุพยานของลูกเรือหลวงสุโขทัยทั้ง 8 นาย ที่ผ่านการพิสูจน์อัตลักษณ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว มาให้กับญาติและครอบครัวรับกลับไป โดยวัตถุพยานของลูกเรือบางคนคนละไม่กี่ชิ้น เช่น มีตะกรุดพร้อมสายเชือก โทรศัพท์มือถือ ภาพถ่าย
ส่วนบางรายมีชายผ้าถุงของแม่ที่นำมาติดหลังโทรศัพท์ไว้เพื่อเป็นของขลังติดตัว รวมทั้งโทรศัพท์มือถือและบัตรประจำตัวที่ติดมากับศพของลูกเรือ ของ จ.ต.สถาพร สมเนื้อ
นอกจากนี้ ยังพบมีลูกเหล็กแบบแบนขนาดเท่าฝ่ามือ ซึ่งยังไม่ขัดว่าเป็นลูกเหล็กออกกำลังกายหรือไม่ ตำรวจแนะนำให้ฝากไว้ที่มูลนิธิสว่างราษฎร์ศรัทธาธรรมสถาน เพื่อนำไปพร้อมกับพิธีเคลื่อนร่างไปกองบิน 5 ในวันพรุ่งนี้ (28 ธ.ค.)
นายบัญชา ทิวาลัย พ่อของของ จ.ต.ศุภกิจ ทิวาลัย กล่าวว่า ช่วง 7 วันที่ผ่านมา เฝ้าติดตามภารกิจการค้นหาทุกวัน มีความหวังตลอด จนกระทั่งค่อยๆ หรี่ลงไป
บัญชา ทิวาลัย พ่อของของ จ.ต.ศุภกิจ
ครั้งสุดท้ายที่ได้คุยกับลูกชายคือคืนวันเสาร์ก่อนเกิดเหตุ ลูกชายไม่ได้บอกอะไรบอกแค่ "จะรีบทำงาน เดียวพรุ่งนี้หนูโทรกลับ ไปราชการ" พอเช้าวันรุ่งขึ้นตนโทรกลับไปแต่ไม่มีสัญญาณ จึงส่งข้อความไปว่า "กลับมาสัตหีบโทรมาหาพ่อด้วย"
พ่อบัญชา กล่าวว่า ลูกชายเป็นคนดี ชอบช่วยเหลือคน รู้สึกภูมิใจในตัวเขาที่ได้ทำหน้าที่จนนาทีสุดท้าย พอได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ให้มารับร่างลูกชายก็รีบเดินทางมาจากสัตหีบทันที
เหตุการณ์แบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แค่ต้องยอมรับ
นายวรรณชัย สาพิราช พี่ชายของ จ.ท.ธวัชชัย สาพิราช ตนเองเดินทางมาจาก จ.อุบลราชธานี ตั้งแต่รู้ข่าวว่าเรืออับปาง วันเกิดเหตุ เวลา 19.00 น. น้องชายโทรศัพท์มาหาแม่ บอกว่า เรือกำลังจะจม โดยเสียงที่ได้ยินคือความอลหม่าน และก็ขาดการติดต่อไปเลย น้องชายตะโกนบอกให้คนอื่นสวมเสื้อชูชีพ โดยไม่ทราบว่าน้องชายได้สวมเสื้อชูชีพหรือไม่
วรรณชัย สาพิราช พี่ชายของ จ.ท.ธวัชชัย
หลังจากที่มาติดตามการค้นหา ยังหวังอยู่เสมอว่าให้น้องชายรอดชีวิต และเท่าที่ตนเองรู้ น้องเป็นทหารมา 3 ปี และการขึ้นเรือครั้งนี้เป็นการขึ้นเรือครั้งแรกของเขา
นายวรรณชัย กล่าวว่า ตนเองอยากจะบอกน้องชายว่าขอให้หลับให้สบายพี่ภูมิใจในตัวน้อง ส่วนตัวไม่ได้ติดใจอะไรในกองทัพ เชื่อว่าเป็นเรื่องอุบัติเหตุ
ขอบคุณทุกฝ่าย ที่พาน้องชายผมกลับมาได้ มาแบบไหนผมก็ภูมิใจ