คู่ชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกระหว่าง อาร์เจนตินา กับ ฝรั่งเศส นอกจากการโฟกัสว่าใครจะคว้าแชมป์โลกได้เป็นสมัยที่ 3 แล้ว ซูเปอร์สตาร์ของทีมยังถูกจับตาว่าใครจะแผลงฤทธิ์ได้คงเส้นคงวามากกว่ากัน ระหว่าง ลิโอเนล เมสซี กับ คีเลียน เอ็มบัปเป
ถึงแม้ว่าเมสซี ในวัย 35 ปี จะเฉิดฉายในฟุตบอลโลกครั้งนี้ และถือว่าเล่นในแต่ละนัดได้ท็อปฟอร์ม ถ้าไม่นับนัดแรกที่พลิกล็อกแพ้ซาอุดีอาระเบีย แต่ เมสซี ก็น่าจะมีความกดดันอย่างมาก เพราะเขากำลังถูกเปรียบเทียบกับนักเตะระดับตำนานอย่าง ดิเอโก มาราโดนา ว่าใครดีกว่ากัน
สิ่งเดียวที่เขาด้อยกว่า มาราโดนา คือ เมสซี ที่คว้ามาแล้วทุกแชมป์ รวมถึงเป็นรางวัลบัลลงดอร์ 7สมัย ยังไม่เคยพาทีมคว้าแชมป์โลก ในขณะที่ มาราโดนา ประสบความสำเร็จไปแล้วในปี 1986
ในสถานการณ์ที่กดดันมาก ๆ อย่างนัดชิงชนะเลิศ จะเป็นการพิสูจน์ว่า เมสซี จะก้าวข้ามความคาดหวังของคนทั้งประเทศ รวมถึงแฟนบอลที่อยากให้เขาประสบความสำเร็จในฟุตบอลครั้งนี้ได้หรือไม่ และหากเมสซี ไม่สามารถเล่นได้ตามมาตรฐานของตัวเอง หมายความว่า อาร์เจนตินา จะต้องเจอปัญหาใหญ่ในสนามแน่นอน เพราะระบบของอาร์เจนตินาสร้างขึ้นมาเพื่อสนับสนุนการเล่นของเมสซี
ด้านฝรั่งเศส มี 3 ประสานที่เป็นตัวอันตรายพอ ๆ กัน ทั้ง คีเลียน เอ็มบัปเป อองตวน กริซมันน์ และโอลิวิเย ชิรูด์ หากอาร์เจนตินาคิดจะหยุดฝรั่งเศส ก็ต้องหยุด เอ็มบัปเปให้ได้ แต่ก็ยากที่จะจับทั้ง 3 คน รวมถึงการจัดการกับเดมเบเล ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
ฝรั่งเศสภายใต้การคุมทีมของ ดิดิเย่ เดชองส์ เป็นทีมที่มาตรฐานสูงเช่นกัน แม้จะโดนวิจารณ์ว่าเกมที่ชนะอังกฤษ 2-1 ในรอบ 8 ทีม พวกเขาเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน
อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสปราบอาร์เจนตินามาล่าสุดในรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลกเมื่อ 4 ปีที่แล้ว แต่เดชองส์ ยอมรับว่า การประกบ เมสซี ไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งเดชองส์ คาดหวังว่าเมสซีจะเล่นทางฝั่งขวาแต่เขากลับเล่นเป็นศูนย์หน้า และในฟุตบอลโลกครั้งนี้ เมสซี มาเล่นเพลย์เมกเกอร์ ซึ่งมีอิสระมากขึ้น และยากต่อการหยุดเมสซี
จุดเด่นของฝรั่งเศส คือ การเปิดบอลข้ามไลน์ที่แม่นยำ และการเล่นแนวลึกของอองตวน กริซมันน์ แต่จุดแข็งของอาร์เจนตินา คือ การผสมผสานของ 3 มิดฟิลด์ ซึ่งมีความโดดเด่นมากในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ถ้า 3 มิดฟิลด์ของอาร์เจนตินาติดเครื่อง กองหลังฝรั่งเศสจะจับทางได้ยาก
คู่นี้แม้ฟอร์มจะสูสี ทำให้ยากต่อการคาดเดาได้ว่าแชมป์จะตกอยู่ในมือของใคร เพราะทั้ง 2 ทีมมีความโดดเด่นทั้งกองกลาง และความคมของแดนหน้า นอกจากแชมป์โลกที่คว้าได้ 2 สมัยเท่ากัน สถิติการยิงประตูของทั้งเอ็มบัปเป กับ เมสซี ก็ยังเท่ากัน 5 ประตู และถ้าฝรั่งเศสสามารถกลับมาป้องกันแชมป์ได้ พวกเขาจะเป็นทีมที่ 3 ต่อจากบราซิล และ อิตาลี ที่คว้าแชมป์โลกได้เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกันได้