เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2565 เกมรอบ 8 ทีมสุดท้าย คู่แรกแข่งเวลา 22.00 น. บราซิล อดีตแชมป์โลก 5 สมัย ที่ถูกยกให้เป็นเต็งหนึ่งในสายตาสื่อแทบทุกสำนัก พบกับ โครเอเชีย ซึ่งเกมนี้มีเรื่องที่ต้องกังวลในตำแหน่งแบ็คซ้าย เมื่อทั้ง อเล็กซ์ เตลเลส และ อเล็กซ์ ซานโดร มีปัญหาบาดเจ็บ โค้ชอาจต้องปรับแผน หรือส่ง ดานิโล่ แบ็คขวา รับบทแบ็คซ้ายจำเป็นอีกนัด
ส่วนโครเอเชียพร้อมทุกตำแหน่ง และพกความมั่นใจมาด้วย หลังชนะดวลจุดโทษญี่ปุ่น 3-1 ในแมตช์ก่อนหน้านี้ ส่งญี่ปุ่นกลับบ้านในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
ก่อนหน้านี้บราซิล กับ โครเอเชีย เคยพบกันในการแข่งขันฟุตบอลโลกมาแล้ว 2 ครั้ง ในรอบแบ่งกลุ่ม และเป็นบราซิลที่เก็บชัยชนะได้ทั้งหมด เริ่มจาก ชนะ 1-0 ในบอลโลก ปี 2006 ที่เยอรมัน และ ชนะ 3-1 ในฟุตบอลโลก ปี 2014 ที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพ
สำหรับเกมนี้ ครึ่งแรกทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้ เริ่มครึ่งหลังแม้บราซิลจะมีโอกาสตีไข่แตกหลายครั้ง แต่ก็ยังจบสกอร์ไม่ได้ หมดเวลา 90 นาที ยังเสมอกัน 0-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษนาทีที่ 105+1 เนย์มาร์ หลุดเข้ากรอบเขตโทษยิงตุงตาข่าย พาบราซิลขึ้นนำก่อน 1-0
ก่อนที่นาทีที่ 116 โครเอเชียมาได้ประตูตีเสมอจากบรุโน เพทโควิช จบเกมด้วยสกอร์ 1-1 แต่เป็นโครเอเชียที่แม่นกว่ายิงจุดโทษชนะบราซิลไป 4-2 ตีตั๋วผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 ได้เป็นทีมแรก
ทั้งนี้ โครเอเชีย เจอทีมจากทวีปอเมริกาใต้ ในฟุตบอลโลกมา 5 ครั้ง ชนะ 1 และแพ้ไปถึง 4 ขณะที่บราซิล เองนับตั้งแต่คว้าแชมป์โลกในปี 2002 พวกเขาตกรอบน็อกเอาต์ในฟุตบอลโลกอีก 4 สมัยต่อมา ด้วยน้ำมือของชาติจากทวีปยุโรปทั้งหมด