เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.2565 การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย เริ่มคู่แรกในเวลา 22.00 น. ญี่ปุ่น พบ โครเอเชีย รองแชมป์โลกจาก 4 ปีก่อน สภาพทีมของญี่ปุ่น ไม่มีโค อิตาคุระ เซนเตอร์ฮาล์ฟตัวหลัก ที่ลงเล่นครบทุกนาที ใน 3 เกมรอบแรก เนื่องจากโดนแบนจากการสะสมใบเหลืองครบ 2 ใบ และน่าจะเป็นโอกาสของ ทาเคฮิโระ โทมิยาซุ กองหลังร่างใหญ่จาก อาร์เซนอล เข้ามาอุดรูรั่วแทน แต่เจอข่าวร้ายเล็กน้อยเมื่อทาเคฟูสะ คุโบะ พลาดลงซ้อมเพราะอาการบาดเจ็บ ต้องเช็กฟิตก่อนลุ้นส่งลงสนาม
ขณะที่ โครเอเชีย สภาพสมบูรณ์พร้อม ไม่มีตัวเจ็บและติดโทษแบน และจาก 3 เกมในรอบแรกที่มีการเปลี่ยนแปลง 11 ตัวจริงแค่ตำแหน่งเดียว ทำให้โครเอเชียน่าจะใช้ผู้เล่นเดิมลงสนามอีกครั้ง นำทีมโดย 3 กำลังสำคัญในแผงมิดฟิลด์อย่าง ลูก้า โมดริช กัปตันทีมเจ้าของถ้วย บัลลงดอร์ ปี 2018 , มาร์เซโล่ โบรโซวิช และ มาเตโอ โควาซิช
เปิดเกมมาครึ่งแรก เป็น ไดเซน มาเอดะยิงให้ญี่ปุ่นขึ้นนำก่อนในนาทีที่ 43 แต่ครึ่งหลังโครเอเชียมาตีเสมอได้ในนาทีที่ 55 จากอีวาน เปริซิช ก่อนจบเกมด้วยสกอร์ 1-1 ตัดสินกันที่ดวลจุดโทษ
แม้ว่าญี่ปุ่นจะขึ้นนำก่อนในเกมนี้ แต่การดวลจุดโทษกลับไม่เข้าเป้า เพราะญี่ปุ่นยิงติดเซฟผู้รักษาประตูโครเอเชียถึง 3 จาก 4 ครั้ง ทำให้โครเอเชียชนะไปด้วยสกอร์ 3-1
ก่อนหน้านี้โครเอเชีย เคยพบทีมจากเอเชียในศึกฟุตบอลโลกมาแล้ว 2 ครั้ง และเป็นการพบญี่ปุ่นทั้ง 2 เกม โดยโครเอเชีย มีผลงานที่ดีกว่า จากการเอาชนะ 1-0 ในปี 1998 และ เสมอ 0-0 ในปี 2006 ส่วนญี่ปุ่น เคยผ่านเข้ามาถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายมาแล้ว 3 ครั้ง แต่ยังไม่เคยไปไกลกว่ารอบนี้ โดยโอกาสใกล้เคียงที่สุดเกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อนในบอลโลกที่รัสเซีย เมื่อพวกเขาเป็นฝ่ายออกนำ เบลเยียม ไปก่อนถึง 2 ลูก แต่กลับโดนยิงแซงจนแพ้ 3-2 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
อาร์เจนตินา ชนะ ออสฯ 2-1 ลิ่ว 8 ทีมสุดท้ายบอลโลก
บราซิลซัด 4-1 ส่งเกาหลีใต้ตกรอบ 16 ทีมฟุตบอลโลก 2022