พิรุธ! ป.ป.ท.ชี้ น.ส.3 ก ชื่อ “แอ๊ด คาราบาว” พิกัดในเขตป่าสงวน

การเข้าตรวจสอบที่ดินของนักร้องดัง นายยืนยง โอภากุล หรือ แอ๊ด คาราบาว นักร้องชื่อดัง โดยเจ้าหน้าจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน มีข้อมูลที่เชื่อมโยงให้เห็นการครอบครองที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าได้มาโดยถูกต้องหรือไม่

ข้อมูลการตรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญด้านที่ดิน พบว่า ที่ดินที่สามารถออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก) ได้ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 2 และฉบับที่ 5 ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 มีหลักเกณฑ์คือ “ต้องมีการครอบครองและทำประโยชน์แล้ว”

แต่กรณีที่ดินของ แอ๊ด คาราบาว มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก) จำนวน 2 แปลง ซึ่งมีการออกหนังสือ น.ส.3 ก เมื่อปี พ.ศ.2535 ดังนี้

หนังสือ น.ส.3 ก เลขที่ 2107 

หนังสือ น.ส.3 ก เลขที่ 2107 เลขที่ดิน 17 ต.ท่าคล้อ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เนื้อที่ 9 ไร่ ออกจากจาก ส.ค.1 เลขที่ 166 หมู่ที่ 2 ต.ท่าคล้อ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เนื้อที่ 9 ไร่ มากกว่าเดิม 4 ไร่ และเมื่อมีการนำมาขอออกโฉนดที่ดิน นายยืนยง ได้นำชี้ที่ดินแนวเขตที่ออกโฉนดที่ดิน ได้เนื้อที่เพิ่มเป็น 10 ไร่เศษ

ข้อสังเกต ส.ค.1 เลขที่ 166 หมู่ที่ 2 ต.ท่าคล้อ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เป็นใบแทน ส.ค.1 ไม่ใช่ฉบับจริง แต่ไม่พบเรื่องราวการสอบสวน เพื่อออกใบแทนของสำนักงานที่ดิน ซึ่งจะต้องสอบสวนเจ้าของที่ดินผู้แจ้ง ส.ค.1 เลขที่ 166 หรือทายาท เพื่อจะได้ทราบว่าตำแหน่งที่ดิน ส.ค.1 เลขที่ 166 อยู่ที่ใด ข้างเคียงติดทั้ง 4 ด้าน ติดกับบุคคลใด ในขณะนั้นเพื่อออกใบแทน และส.ค.1 พิมพ์ว่านางใหม่ คำภิรานนท์ ได้ครองครองมาก่อนปี พ.ศ.2498 มาประมาณ 80 ปี ซึ่งน่าจะเป็นการพิมพ์ล้อตาม ส.ค.1 เลขที่ 143

หนังสือ น.ส.3ก.เลขที่ 2108

หนังสือ น.ส.3 ก. เลขที่ 2108 เลขที่ดิน 18 ต.ท่าคล้อ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เนื้อที่ 24 ไร่ ออกจากจาก ส.ค.1 เลขที่ 143 หมู่ที่ 2 ต.ท่าคล้อ  อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เนื้อที่ 16 ไร่ มากกว่าเดิม 8 ไร่  เมื่อมีการนำมาขอออกโฉนดที่ดิน นายยืนยง ได้นำชี้ที่ดินแนวเขตที่ออกโฉนดที่ดิน ได้เนื้อที่ เพิ่มเป็น 25 ไร่

ผิดขั้นตอนใช้พื้นที่ตั้งแต่ปี 2534

จากการตรวจสอบสารบบที่ดิน พบว่าการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก ) ทั้ง 2 แปลง พบถึงความไม่ถูกต้องในกระบวนการออกออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก)

1.ไม่พบต้นร่างผลการรังวัดเพื่อออก น.ส.3 ก แต่อย่างใด ซึ่งต้นร่างจะมีการระบุระยะทุกด้านของหนังสือรับรองน.ส.3 ก ว่ายาวกี่เมตร การออกหนังสือ น.ส.3 ก ทั้งแปลงต้องครอบครองต่อเนื่องจากผู้แจ้งการครอบครอง

กรณีของนักร้องดัง ไม่พบว่าซื้อมาจากใครไม่มีการระบุในสารบบการออกหนังสือรับรอง น.ส.3 ก ทั้ง 2 แปลง ซึ่งสภาพพื้นที่ไม่มีถนนเข้าถึงการเดินทางก่อนปี 2550 ต้องเดินทางด้วยทางเรือเท่านั้น และไม่มีการลงระวางในระวางรูปถ่ายทางอากาศ จึงน่าเชื่อว่าไม่มีการรังวัดจริง แต่เขียนรูปแปลงขึ้นเอง (เหมือนที่เกิดขึ้นที่อ.ภูเรือ จ.เลย ซึ่งเกิดขึ้นในห้วงเวลาเดียวกัน)

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นจากกรมป่าไม้ พบว่าที่ดินของนายยืนยง อยู่ในเขตป่าไม้ถาวร ตามบันทึกข้อตกลงระหว่างกรมที่ดินและกรมป่าไม้ พ.ศ.2534 จ.สระบุรี จะต้องมีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจพิสูจน์ที่ดินไม่น้อยกว่า 3 คน ตามข้อ 5 ประกอบด้วย ป่าไม้จังหวัดหรือผู้แทน เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดหรือผู้แทน นายอำเภอหรือผู้แทน และกรรมการอื่นตามสมควร เพื่อตรวจสอบว่ามีการครอบครองและทำประโยชน์จริงหรือไม่ แล้วสรุปข้อเท็จจริงเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ว่าสมควรออกหนังสือ น.ส.3 ก หรือไม่ และไม่พบการรับรองแนวของของเจ้าหน้าที่ป่าไม้

แต่กรณีดังกล่าว มีการปกปิดเรื่องที่ดินอยู่ในเขตป่าไม้ถาวร เพื่อหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลงระหว่างกรมที่ดินและกรมป่าไม้ พ.ศ.2534 ย่อมถือว่าไม่บริบูรณ์ตามกฎหมาย ทำให้การออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์นั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีเช่นนี้กรมที่ดินจะต้องเพิกถอนหนังสือรับรอง น.ส.3 ก ตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน

“พิรุธ” ไม่เข้าเงื่อนไข-สภาพป่าสมบูรณ์

จากการรายงานของเจ้าหน้าที่ที่ดินในการออกหนังสือรับรองน.ส.3 ก ทั้ง 2 แปลงว่า ได้ปลูกกล้วย มะม่วง ข้าวโพด แต่จากการตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศ เมื่อมี 2498 ที่ดินมีสภาพเป็นป่าผลัดใบ ไม่มีการทำประโยชน์ ขัดแย้งกับ ส.ค.1 เลขที่ 166 ที่อ้างว่าครอบครองมาก่อน พ.ศ.2498 เป็นเวลา 80 ปี ซึ่งไม่สามารถออกหนังสือ น.ส.3 ก ได้เนื่องจากไม่มีการครอบครองทำประโยชน์อยู่จริง ไม่เข้าเงื่อนไขที่จะออกหนังสือ น.ส.3 ก ได้ แต่มีการปกปิดข้อเท็จจริงดังกล่าว

ต่อมาปี พ.ศ.2565 นายยืนยง ได้นำหนังสือ น.ส.3 ก ทั้ง 2 แปลงมายื่นขอออกโฉนดที่ดิน และระหว่างการพิจารณาออกโฉนดที่ดิน

นายธนวัฒน์ สนิทศักดิ์ดี ผอ.สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต 1 ระบุว่า สำนักงาน ป.ป.ท. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านบ้านท่าสบก ตำบลท่าคล้อ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ได้ทำกินหาหน่อไม้ หาของป่าในพื้นที่นี้มาเป็นเวลาช้านานแต่บรรพบุรุษ ต่อมาที่ดินแปลงนี้ได้มีผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว (ปีนหน้าผา) และนายยืนยง หมู่ที่ 2 บ้านท่าสบก ต.ท่าคล้อ ได้กีดกันไม่ให้ประชาชนเข้าไปในพื้นที่ อ้างว่าตนเองมีเอกสาร น.ส.3 ก ทั้งที่ที่ดินมีสภาพเป็นป่าสมบูรณ์ และเป็นป่าสงวนฯ จึงได้ตรวจสอบ

อ่านข่าวเพิ่ม "วีระ" พร้อม ป.ป.ท. ตรวจพิกัด "นักร้องดัง" อ้างครอบครองที่ดินป่าสงวน 35 ไร่

พบเตรียมขอออกโฉนดที่ดิน

ผลการตรวจสอบพบว่าสภาพที่ดิน จากการอ่านแปลภาพถ่ายทางอากาศ พบว่า ปี พ.ศ.2498 สภาพเป็นป่าผลัดใบ ไม่มีการทำประโยชน์ ซึ่งถึงแม้จะมีการแจ้งการครอบครอง ส.ค.1 ไม่ก่อให้เกิดสิทธิกับผู้แจ้งการครอบครองแต่อย่างใด คือไม่มีสิทธินำไปออก น.ส.3 ก หรือโฉนดที่ดินได้

เหตุผลเพราะมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2498 บอกว่า การแจ้งการครอบครองไม่ก่อให้เกิดสิทธิขึ้นใหม่กับผู้แจ้ง ซึ่งหมายความว่า ถ้าตนเองไม่มีการครอบครองครองหรือทำประโยชน์ ก็ไม่ก่อให้เกิดสิทธิใดๆ จึงไม่สามารถออก น.ส.3 ก หรือโฉนดที่ดินได้

มีการนำ น.ส.3 ก ทั้ง 2 แปลงไปยื่นออกโฉนดที่ดิน สำนักงาน ป.ป.ท. ได้มีหนังสือขอเอกสารเรื่องราวการรังวัดออกโฉนดที่ดินทั้งหมด รวมทั้งรายงานการรังวัดว่ามีการรายงานตามความเป็นจริงหรือไม่ ตั้งแต่ต้นเดือนพ.ย.2656 แต่ยังไม่ได้รับหนังสือตอบกลับ

หากการตรวจสอบพบว่ามีการรายงานไม่ตรงตามข้อเท็จจริง ว่ามีการทำประ โยชน์ทั้งแปลง ป.ป.ท. จะต้องดำเนินคดีกับนายช่างรังวัดที่ดิน 

กรณีมีการทำรั้วเหล็กกั้น ทำถนนเข้าที่ดินโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งถือว่าเป็นการเข้ายึดถือครอบครองอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 สำนักงาน ป.ป.ท. จะติดตามการดำเนินคดี ตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

"ป่าไม้" รับลูกตรวจที่ดิน "แอ๊ด คาราบาว" สแกนเขาทับกวาง

"วีระ" แจ้งความนักร้องดัง ร้องตรวจสอบการครอบครองที่ดิน อ.แก่งคอย จ.สระบุรี