วันนี้ (31 ต.ค.2565) นายอธิป พีชานนท์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวถึงมติ ครม.ที่ให้คนต่างชาติสามารถเข้ามาซื้อที่ดินได้คนละไม่เกิน 1 ไร่ เพื่อการอยู่อาศัย โดยหวังดึงเงินทุนเข้าประเทศ ในรายการ Newsroom Daily รายการออนไลน์ไทยพีบีเอสว่า เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว เพราะเป็นเรื่องที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย แต่มีบางอย่างที่เห็นต่างคือ รัฐยังไม่มีกรอบราคาที่อยู่อาศัยอย่างชัดเจน มีเพียงกรอบการลงทุน
เงินลงทุน 40 ล้านบาทไม่ได้หมายความว่าเอามาซื้อที่อยู่อาศัย แต่เอามาลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล กองทุนต่าง ๆ ที่รัฐกำหนดไว้
อ่านข่าวเพิ่มเติม : ครม.ไฟเขียว ต่างชาติซื้อที่ดิน 1 ไร่ แลกลงทุนไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท
นายอธิป มองว่าการไม่กำหนดกรอบราคาของที่อยู่อาศัย เป็นเหตุทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ และเกิดความกังวลถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับคนไทย ซึ่งการกำหนดกรอบราคาจะทำให้คนไทยมั่นใจ ขณะเดียวกันการกำหนดกรอบพื้นที่ จำเป็นต้องมีความชัดเจนมากกว่านี้ ควรกำหนดให้ชัดเจนว่า พื้นที่นั้นเป็นพื้นที่ที่คนไทยไม่ซื้อไว้อยู่แล้ว เช่น พื้นที่ตากอากาศ
นายอธิป ระบุว่าการให้คนต่างชาติมีสิทธิ์ซื้อที่ดินในไทย ไม่ใช่เรื่องใหม่ มีมานานแล้ว แต่ที่ดูเหมือนจะไม่ได้รับความสนใจ อาจเป็นเพราะขั้นตอนการขออนุมัติมีความยุ่งยากสำหรับคนต่างชาติ ต้องขออนุมัติหลายขั้นตอน
คนต่างชาติจำนวนหนึ่งมีทางออกอื่น ในการซื้อที่อยู่อาศัย จึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องทำตามขั้นตอนที่ยุ่งยาก
ทั้งนี้ เห็นว่ารัฐควรเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หรือภาษีที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัยของคนต่างชาติให้สูงกว่าคนไทย ประมาณร้อยละ 20-30 ซึ่งการเก็บภาษีดังกล่าว ในหลาย ๆ ประเทศก็ปฏิบัติกัน
อย่างไรก็ตามประเมินว่าน่าจะมีคนต่างชาติเข้ามาลงทุนกว่า 1,000 รายต่อปี ซึ่งจะสร้างรายได้กว่า 40,000 ล้านบาท หากรัฐกำหนดกรอบราคาที่อยู่อาศัยไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ไทยจะสามารถดึงดูดเงินเข้ามาได้อีกไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท รวมทั้งยังได้รายได้จากการหมุนเวียนค่าครองชีพของคนภายในครอบครัว เชื่อว่าจะมีเงินหมุนเวียนในไทยประมาณหลักแสนล้านบาท ซึ่งสามารถช่วยเศรษฐกิจไทยได้พอสมควร
ท่ามกลางกระแสต่อต้านในขณะนี้ นายอธิปเห็นด้วยหากรัฐบาลจะทบทวนและนำมาพิจารณา ถ้าคนส่วนใหญ่หรือคนจำนวนหนึ่งเห็นว่ามันไม่เป็นประโยชน์ ก็ไม่จำเป็นต้องไปผลักดันให้เกิดขึ้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม : จับตาท่าที ครม.ทบทวนเปิดทางต่างชาติซื้อที่ดิน