วันนี้ (17 ก.ย.2565) ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส รายงานบรรยากาศการใช้เครนยกตู้คอนเทนเนอร์ที่มาจากรางรถไฟของไทย ซึ่งมีขนาดความกว้าง 1 เมตร เพื่อยกไปใส่รางของจีนที่มีขนาด 1.435 เมตร ซึ่งเป็นแนวทางบริหารจัดการระยะสั้น หลังจากจีนและลาวลงทุนสร้างระบบรางที่ยังไม่เชื่อมต่อกันประมาณ 4 กิโลเมตร จากสถานีเวียงจันทน์ใต้ เชื่อมมายังสถานีท่านาแล้ง
การเปิดรถไฟลาวจีนเมื่อปลายปี 2564 ทำให้สินค้าจากไทยหันมาส่งทางรางมากขึ้น ปัจจุบันมีการขนส่งสินค้าระหว่างไทย-ลาว-จีน วันละ 7 เที่ยว ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 1 หนองคาย-เวียงจันทน์ ซึ่งอาจทำให้สะพานรับน้ำหนักไม่ไหว
รัฐบาลทั้ง 3 ประเทศได้หารือที่จะสร้างสะพานรถไฟแห่งใหม่ ซึ่งเป็นสะพานคู่ขนานกับสะพานมิตรภาพเดิม ห่างไปประมาณ 30 เมตร รูปแบบเบื้องต้นจะสร้างระบบรางไป-กลับ ทั้งขนาดรางกว้าง 1 เมตร และ 1.435 เมตร เพื่อให้สะพานแห่งใหม่รองรับการขนส่งทางรางได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สิริมา วัฒโน รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย คาดหวังว่าจะเกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจใน จ.หนองคาย รวมถึงในระดับภูมิภาคและประเทศ ซึ่งที่ตั้งของ จ.หนองคาย ถือเป็นประตูสู่อินโดจีน และคนหนองคายจะได้ประโยชน์ในเรื่องอุตสาหกรรมระบบโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมการเกษตร รวมถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ
ส่วนสถานีรถไฟนาทา ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟหนองคายราว 3 กิโลเมตร จุดนี้มีแผนที่จะสร้างเป็นย่านศูนย์เปลี่ยนถ่ายทางการค้า และลานขนถ่ายสินค้าทางราง มีแผนติดตั้งเครนสำหรับยกตู้และวางตู้ เพื่อนำเข้าและส่งออกสินค้าผ่านระบบราง ซึ่งโครงการนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทยอยู่ระหว่างจัดทำแผนเพื่อของบประมาณจัดทำรายงานการร่วมทุนนะหว่างภาครัฐและเอกชน
คาดว่าจะสอดคล้องกับรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ระยะทางประมาณ 170 กิโลเมตร ซึ่งคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 2566 และจะแล้วเสร็จราวปี 2569 หากรถไฟทางคู่แล้วเสร็จตามกรอบเวลาที่กำหนด จะทำให้ผู้ประกอบการลดต้นทุนและลดระยะในการขนส่งสินค้า ให้สามารถส่งออกสินค้าไปจีน ที่จากเดิมใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ ก็เหลือเพียง 3 วันเท่านั้น