วันนี้ (2 พ.ค.2565) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคไข้มาลาเรียชนิด “โนวไซ” (Plasmodium knowlesi) เป็นโรคไข้มาลาเรียที่ติดต่อจากลิงสู่คน โดยยุงก้นปล่องกัดลิงที่มีเชื้อแล้วมากัดคน ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาที่ชัดเจนว่ายุงสามารถนำเชื้อจากคนสู่คนได้
ลิงที่เป็นสัตว์รังโรคในไทย ได้แก่ ลิงกัง ลิงวอก ลิงเสน ลิงแสม และลิงอ้ายเงี๊ยะ พบรายงานผู้ป่วยในไทยครั้งแรกเมื่อปี 2547 และพบปีละประมาณ 10 คนมาตลอด แต่ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2564 - 31 มี.ค.2565 พบผู้ป่วยไข้มาลาเรียจากเชื้อชนิดนี้แล้ว 70 คน จังหวัดที่พบผู้ป่วยสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ จ.ระนอง สงขลา และตราด
ดังนั้น ผู้ที่มีประวัติสัมผัสลิงในป่าในพื้นที่จังหวัดดังกล่าว แล้วมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะ หนาวสั่น เหงื่อออกมาก ขอให้รีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อเจาะเลือดตรวจหาเชื้อมาลาเรีย และแจ้งประวัติเข้าป่า เพื่อให้การรักษารวดเร็ว หากช้าอาจมีอาการแทรกซ้อนร้ายแรงและเสียชีวิตได้
สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง หรือผู้ทำงานในป่า นักท่องเที่ยว ควรป้องกันตนเองไม่ให้ยุงกัด โดยการสวมเสื้อผ้าให้มิดชิด ทายากันยุง และนอนในมุ้ง
ขณะที่ นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเสริมว่า กองโรคติดต่อนำโดยแมลง กรมควบคุมโรค ได้ใช้เทคโนโลยีการรายงานผู้ป่วยผ่านระบบมาลาเรียออนไลน์ในการเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมแจ้งเตือนภัยทุกสัปดาห์ และเมื่อพบผู้ป่วยแต่ละคน มีการใช้มาตรการ 1-3-7 คือ รายงานผู้ป่วยภายใน 1 วัน ติดตามสอบสวนการป่วยภายใน 3 วัน และดำเนินการควบคุมกำจัดการแพร่เชื้อโรคไข้มาลาเรียอย่างมีประสิทธิภาพภายใน 7 วัน รวมถึงมียารักษาที่เพียงพอ
นอกจากนี้ ได้ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระนองและสงขลา สอบสวนโรคผู้ป่วยไข้มาลาเรียโนวไซที่พบเพิ่มมากขึ้นอย่างละเอียด เพื่อวางแผนป้องกันควบคุมโรร รวมทั้งประสานกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช สำรวจและควบคุมโรคในลิงที่เป็นรังโรค พร้อมขอให้หน่วยงานสาธารณสุขและผู้นำชุมชนประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการป้องกันตนเองจากโรคไข้มาลาเรียชนิดนี้ด้วย ทั้งนี้หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422