ครั้งนี้ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ขยับขึ้นเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ตามแคมเปญใหม่ “ครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม” ประเดิมแห่งแรก ที่จ.อุดรธานี ฐานเสียงที่เข้มแข็งอีกแห่งหนึ่งของพรรคเพื่อไทย
หลังจากการเปิดตัวครั้งแรก ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค ด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมสังคม เมื่อปลายปี 2564 ก็มีขึ้นที่ภาคอีสานเช่นกัน แต่เป็นที่ จ.ขอนแก่น
ถือเป็นการส่งสัญญาณสำคัญจากพรรคเพื่อไทย และจากคนแดนไกล นายทักษิณ ชินวัตร สำหรับบทบาทที่น่าจับตาอย่างยิ่ง
นับจากนี้ไปของลูกสาวคนสุดท้อง ซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตจากคอการเมืองมาก่อนหน้านี้แล้วว่า จะเป็นตัวตายตัวแทนผู้เป็นพ่อ บนเส้นทางสายการเมือง
หลังจากก่อนหน้านี้ เพาะบ่มและซึมซับวิธีคิดทางการเมืองของนายทักษิณมาตลอด ในฐานะลูกสาวคนเล็ก ที่จะผูกพันใกล้ชิดกับพ่อมาตั้งแต่เด็ก โดยสะท้อนผ่านข้อความทางอินสตาแกรมมากมาย
โดยเฉพาะเมื่อเกิดคดีความและคำตัดสินคดี ที่นายทักษิณเข้าไปเกี่ยวข้อง เช่น เป็นลูกนายทักษิณ ต้องโดนจัดหนักกว่าคนอื่นอยู่แล้ว หรือสิ่งเดียวที่ไม่เคยทำใจได้เลย คือการต้องห่างพ่อ และรอวันที่จะได้กอดกันอีก
เมื่อพรรคเพื่อไทย ประกาศความมั่นใจว่า เลือกตั้งครั้งหน้า จะเกิดแลนด์สไลด์ ทั้งแผ่นดิน ทำให้การนำทัพเพื่อไทยสู้ศึกในสนามเลือกตั้งครั้งนี้ ต้องไม่ธรรมดา โดยเฉพาะการสกัดกั้นและดับความหวัง “การเป็นนายกฯอีกสมัย” ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
การเปิดตัว “อุ๊งอิ๊ง” เป็นที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทยจึงเกิดขึ้น เพื่อทำหน้าที่เป็น “คนกลาง” ระหว่างคนรุ่นใหม่ที่อยากมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนงานด้านการเมือง สามารถเข้าถึงและจับต้องได้ ในฐานะคนรุ่นใหม่
เช่นเดียวกัน ก่อนจะตามมาด้วยแคมเปญใหม่ล่าสุด “ครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม” ที่ถือเป็นความต่อเนื่อง โดยดึงมวลชนทุกเจนเนเรชั่น เข้ามามีส่วนร่วมขับเคลื่อนไปกับพรรคเพื่อไทย ตามเป้าหมายแลนด์สไลด์ ชนะทั้งแผ่นดิน
คนที่นั่งเก้าอี้หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ..อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร นั่นเอง
ยุทธศาสตร์หลักจึงหนีไม่พ้น คนรุ่นใหม่ เจน y วัย 35 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีมากที่สุดในประเทศไทยขณะนี้ (ประมาณ 20 ล้านคน) เปิดตัวชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีกับ พล.อ.ประยุทธ์ คน เจน เบบี้ บูมเมอร์ ในวัย 68 ปี ให้ประชาชนตัดสิน จะเลือกใคร ในยุคสมัยปัจจุบันที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง เทคโนโลยีและการสื่อสารสมัยใหม่
โดยมั่นใจว่า จะชนะได้ยาก ยิ่งเลือกตั้งตามกติกาใหม่ บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ที่พรรคเพื่อไทย ชำนาญและเคยเอาชนะมาได้โดยตลอด
“อุ๊งอิ๊ง” และเสียงประชาชน 14 ล้านเสียงเดิม (ที่เคยเป็นสมาชิกพรรคตั้งแต่สมัยไทยรักไทย) จะเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ฝ่ายขั้วอำนาจปัจจุบัน จะมองข้ามไปไม่ได้เลย