วันนี้ (6 พ.ย.2564) ศูนย์ข้อมูล COVID-19 เผยไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 8,467 คน แบ่งเป็นผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังฯ 7,385 คน ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 189 คน ผู้ป่วยภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 880 คน ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 13 คน ผู้ป่วยตั้งแต่ 1 เม.ย.สะสม 1,931,176 คน หายป่วยเพิ่ม 8,288 คน หายป่วยสะสม 1,815,592 คน กำลังรักษา 97,410 คน เสียชีวิต 69 คน
ขณะที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า มีผู้ป่วยอาการหนัก 2,054 คน ใส่ท่อช่วยหายใจ 447 คน ส่วนการตรวจหาเชื้อด้วย Antigen Test Kit (ATK) พบผลเป็นบวก (ติดเชื้อ) เพิ่ม 3,300 คน ยอดสะสม 289,181 คน ส่วนการได้รับวัคซีนสะสม 79,072,396 โดส เข็มที่ 1 สะสม 43,388,561 คน เข็มที่ 2 สะสม 33,119,247 คน เข็มที่ 3 สะสม 2,564,588 คน
นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยแนวทางการฉีดวัคซีนตามมติการประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ดังนี้ ฉีดวัคซีนโควิดทางผิวหนัง ใช้เฉพาะกรณีที่มีปริมาณวัคซีนจำกัด, วัคซีนไข้หวัดใหญ่สามารถฉีดพร้อมกับวัคซีน COVID-19 ได้, หลังได้รับแอสตราเซเนกาครบ 2 เข็ม สามารถกระตุ้นเข็ม 3 ด้วยไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นา ระยะห่างประมาณ 6 เดือนขึ้นไป หรือภายใต้ดุลยพินิจของแพทย์ และกรณีแพ้วัคซีน การเปลี่ยนชนิดวัคซีนอยู่ภายใต้ดุลยพินิจของแพทย์