วันนี้ (16 ก.พ.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ปัญหาไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 จ.เชียงใหม่ เพื่อพิจารณารับทราบการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งร้องขอเข้ามาล่วงหน้า 3 วัน ก่อนการดำเนินการบริหารจัดการเชื้อเพลิง ซึ่งช่วงเวลานี้ยังส่วนใหญ่ยังเป็นพื้นที่อำเภอโซนใต้ของ จ.เชียงใหม่ ร้องขอเข้ามาเพื่อการบริหารจัดการเชื้อเพลิง
นายชาคริต โชติอมรศักดิ์ หัวหน้าคณะทำงานด้านวิชาการเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยภายหลังจากการประชุมคณะทำงานฯ ว่า การคาดการณ์ลักษณะอากาศในวันที่ 17-18 ก.พ.นี้ มีโอกาสที่จะเกิดฝนในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ กระจายเป็นแห่งๆ ซึ่งจะไม่ครอบคลุมพื้นที่มากเช่นฝนในช่วงวันที่ 7-8 ก.พ.ที่ผ่านมา ฝนที่เกิดขึ้นนี้ก็จะมีทั้งด้านดีและอาจจะส่งผลให้จุดความร้อนในพื้นที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อไปอีก เรื่องนี้ก็ต้องระวังในพื้นที่ที่ต้องใช้ไฟหากเกิดฝนในพื้นที่ดังกล่าว
นายชาคริต โชติอมรศักดิ์
ใช้ข้อมูลหลายแหล่งบูรณาการป้องกันฝุ่น PM2.5
อย่างไรก็ตาม การเฝ้าระวังฝุ่นละอองขนาดเล็กของ จ.เชียงใหม่ ได้มีการใช้ข้อมูลจากหลายแหล่งทั้งของกรมควบคุมมลพิษ เครือข่ายดัชท์บอยของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รวมถึงเครือข่ายอื่น เพื่อนำมาประมวลผลถึงสถานการณ์ของฝุ่นควันในแต่ละอำเภอทั้ง 25 อำเภอของ จ.เชียงใหม่ เพื่อใช้เป็นข้อมูลสนับสนุนการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่
ทั้งนี้ จากข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและข้อมูลที่ได้จากการคาดการณ์ล่วงหน้า พบว่าในแง่ของการระบายอากาศในช่วง 3 วันข้างหน้า การระบายอากาศอยู่ในระดับที่ไม่ดี ทางศูนย์บัญชาการฯ จึงตัดสินใจว่า ในวันที่ 19-20 ก.พ. ให้งดการบริหารจัดการเชื้อเพลิงทุกชนิดในทุกพื้นที่ของ จ.เชียงใหม่
พบจุดความร้อนมากกว่า 50% ในพื้นที่ไม่ได้ร้องขอ
หัวหน้าคณะทำงานด้านวิชาการฯ กล่าวอีกว่า สำหรับจุดความร้อนที่ตรวจพบในช่วงนี้ยังพบว่ามีบางส่วนที่เกิดขึ้นในพื้นที่ที่ไม่ได้มีการร้องขอการบริหารจัดการเชื้อเพลิงมากกว่า 50% ของจุดความร้อนที่เกิดขึ้น ดังนั้น ช่วงนี้จึงต้องช่วยกันเฝ้าระวังจุดความร้อนที่เกิดขึ้นนอกพื้นที่ที่มีการร้องขอบริหารจัดการเชื้อเพลิง
นอกจากนี้ ยังรวมถึงจุดความร้อนที่เกิดขึ้นบริเวณรอบๆ จ.เชียงใหม่ ด้วย เพราะเมื่อนำการประเมินทิศทางลมมาเปรียบเทียบกับจุดความร้อนที่เกิดขึ้นทั้งในพื้นที่นอกการร้องขอการบริหารจัดการเชื้อเพลิงและพื้นที่รอบ จ.เชียงใหม่ จึงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษในช่วงนี้ เนื่องจากเป็นช่วงนี้เอื้อต่อการสะสมมลพิษทางอากาศ