วันนี้ (1 ส.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพราะถูกทิ้งร้างมานานเกือบ 10 ปี ทำให้บ้านเอื้ออาทร จำนวน 288 หลัง กลางเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส บนเนื้อที่กว่า 25 ไร่วันนี้ กลายสภาพเป็นหมู่บ้านร้าง บ้านทุกหลังมีสภาพชำรุด เพราะการก่อสร้างที่ไม่แล้วเสร็จ พื้นที่โดยรอบของโครงการก็เต็มไปด้วยวัชพืชและเศษซากบ้านที่ผุพัง โครงการที่เป็นเคยเป็นความหวังของคนจน จึงกลายเป็นเพียงซากปฏิมากรรมกลางเมือง
แม้อาจจะถูกดำเนินคดีในข้อบุกรุก แต่สำหรับนางวิยะดา จุ้ยทิม ชาวอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ก็ไม่มีทางเลือก นางวิยะดา เล่าว่า เมื่อ 3 ปีก่อน เธอเเละครอบครัว รวม 9 ชีวิต ที่มีอาชีพเก็บขยะขาย เริ่มเข้ามาอาศัยในบ้านเอื้ออาทรที่ก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ เพราะไม่มีที่อยู่ แม้การอยู่ที่นี่อาจยากลำบาก เพราะไม่มีไฟฟ้า จึงต้องหุงหาอาหารด้วยฟืน หรือต้องรองน้ำฝนดื่ม แต่ก็ไม่มีทางเลือก เพราะความหวังที่จะได้อาศัยในบ้านแห่งนี้อย่างถูกต้อง ต้องพังทลายลง หลังได้จ่ายเงินจองล่วงหน้าไปแล้ว 500 บาท เเต่โครงการกลับถูกทิ้ง
บริษัทเอกชนขาดทุน ขาดแคลนแรงงาน
โครงการบ้านเอื้ออาทรสุไหงโก-ลก ดำเนินการตั้งแต่เดือน ก.ย.2550 โดยได้ทำสัญญาซื้อขายที่ดิน ในลักษณะบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เนื้อที่ประมาณ 21 ตารางวา ในราคาประมาณ 390,000 บาท โดยผู้ซื้อได้วางเงินมัดจำนวน 9,000 บาท ก่อนจะแบ่งชำระเป็น 18 งวด งวดละ 500 บาท และส่วนที่เหลือทั้งหมด 381,000 บาท ต้องชำระภายในวันที่กำหนดส่งมอบทรัพย์สินตามสัญญา
แต่หลังการเคหะแห่งชาติได้จัดซื้อที่ดินในราคา 73 ล้านบาท และได้ว่าจ้างผู้รับเหมา ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนในท้องถิ่นเข้ามาดำเนินก็ประสบปัญหาขาดทุน และขาดแคลนแรงงาน จึงทิ้งงานก่อนการกำหนดส่งมอบที่กำหนดไว้ในเดือน เม.ย.2562 ทำให้บ้านในโครงการ 288 หลัง กลายเป็นฝันค้างสำหรับผู้จอง
การเคหะฯ เร่งตรวจสอบบ้านเอื้ออาทรร้าง
ทันทีที่ไทยพีบีเอส นำเสนอข้อเท็จจริง นายณัฐพงศ์ พันธเกียรติไพศาล ประธานคณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ และนายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ์ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ บินด่วนลงพื้นที่ โดยผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ ระบุว่า ได้ดำเนินการฟ้องร้องผู้รับเหมา และคดีเป็นที่สิ้นสุดแล้ว โดยได้ยึดทรัพย์ 11 ล้านบาท ส่วนการตรวจสอบผู้จองตามระบบ พบว่ามีเพียง 50 ราย และขอเงินคืนไปแล้ว 21 ราย เหลือเพียง 29 ราย ที่ได้ผ่อนจ่ายจนครบตามสัญญา ส่วนข่าวว่ามีผู้จองล้วงหน้าเกือบ 2,000 ราย ไม่ทราบข้อเท็จจริงว่ามีกระบวนการหลอกขายหรือไม่ แต่จะตรวจสอบเรื่องนี้ และหลังจากนี้จะการเข้ามาก่อสร้างบ้านใหม่ให้แล้วเสร็จให้เร็วที่สุด
ด้านประธานคณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า การเคหะฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมเข้ามาแก้ปัญหา โดยจะผลักดันให้การแก้ไขโครงการบ้านเอื้ออาทรสุไหงโก-ลก กลายเป็นต้นแบบในการแก้ปัญหาโครงการบ้านเอื้ออาทรที่ถูกปล่อยทิ้งร้างทั่วประเทศ
ส่วนการช่วยเหลือครอบครัวนางวิยะดา เบื้องต้น ประธานคณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ ได้สั่งการให้การเคหะชุมชน จ.นราธิวาส จัดหาพื้นที่ก่อสร้างบ้านใหม่ โดยให้ผ่อนจ่ายเดือนละ 500 บาท และให้เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เข้ามาดูแลเรื่องบุตรหลานทั้ง 8 คน ก่อนให้รายงานภายใน 7 วัน สร้างความดีใจแก่นางวิยะดาและครอบครัวอย่างมาก เพราะถือเป็นปาฏิหาริย์ครั้งแรกในชีวิต