วันนี้ (7 มี.ค.2563) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกาหลีใต้ เป็นหนึ่งในประเทศที่ทรงอิทธิพลทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย แต่การระบาดของ COVID-19 ทำให้เศรษฐกิจของเกาหลีใต้ กำลังสั่นคลอนอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นภาคการส่งออกและธุรกิจขนาดเล็ก ต่างได้รับผลกระทบ ซึ่งขณะนี้ยังเกิดขึ้นในระยะสั้น แต่หากการระบาดยืดเยื้อออกไปอีกนาน การส่งออกของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นตัวหลักในขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จะได้รับผลกระทบอย่างหนัก และนำไปสู่การลดลงอย่างแรงของภาคการผลิตและความต้องการทั่วโลก
นอกจากนี้ หากเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาและจีน ซึ่งเป็น 2 ชาติมหาอำนาจเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ เกิดการหยุดชะงัก ก็จะส่งผลกระทบต่อเนื่องกับเกาหลีใต้ ที่ต้องพึ่งพาการค้ากับทั้ง 2 ประเทศ ขณะที่การระบาดของ COVID-19 ยังทำให้เกาหลีใต้ขาดแคลนหน้ากากอนามัย หลังสต๊อกลดลงอย่างรวดเร็วจากความตื่นตระหนก รัฐบาลเกาหลีใต้ต้องออกฎใหม่ จำกัดการซื้อหน้ากากอนามัย ให้ประชาชนซื้อได้คนละ 2 ชิ้นต่อสัปดาห์
ผู้ติดเชื้อทั่วโลกพุ่งทะลุแสนคน
ส่วนสถานการณ์การระบาดในภาพรวม ล่าสุด ตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกพุ่งสูงกว่า 100,000 คนแล้ว และประเทศที่พบผู้ติดเชื้อรายแรก เพิ่มขึ้นอีกหลายประเทศ รวมทั้งบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา, เซอร์เบีย, ยิบรอลตาร์, ฮังการี, สโลวีเนีย, นครรัฐวาติกัน, เปรู, แคเมอรูนและโตโก
"อิตาลี" เสียชีวิตวันเดียว 49 คน
ขณะที่อิตาลี เมื่อวานนี้เพียงวันเดียว มีผู้เสียชีวิตเพิ่มถึง 49 คน นับเป็นตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดการระบาด ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตจาก COVID-19 ในอิตาลีเพิ่มเป็น 197 คน สูงสุดนอกจีน ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อ พุ่งสูงกว่า 4,600 คน
สหรัฐฯ พบลูกเรือสำราญติดเชื้อ
ขณะที่ในสหรัฐฯ รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ซึ่งเป็นแม่ทัพในการต่อสู้กับ COVID-19 ได้แถลงในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ถึงความคืบหน้าการตรวจหาเชื้อบนเรือสำราญแกรนด์ ปรินเซส ที่ถูกห้ามเทียบท่าในนครซานฟรานซิสโก ว่า มีคนบนเรือ 21 คน จากจำนวนทั้งหมด 46 คนที่เข้ารับการตรวจหาเชื้อ ปรากฏผลออกมาเป็นบวก ในจำนวนนี้เป็นลูกเรือ 19 คน และผู้โดยสาร 2 คน
นายเพนซ์ เปิดเผยอีกว่า เรือสำราญลำนี้มีลูกเรือและผู้โดยสารทั้งหมด 3,400 คน จะถูกนำไปที่ท่าเรือ ซึ่งไม่ใช่ท่าเรือพาณิชย์และคนบนเรือทั้งหมด จะได้รับการตรวจหาเชื้อ