วันนี้ (6 มี.ค.2563) นายกิตติ รัตนสมบัติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลท่าศาลา ออกแถลงการณ์จากกรณีกรมควบคุมโรค แถลงพบชาย อายุ 20 ปี ติดเชื้อ COVID-19 ซึ่งเดินทางกลับจากประเทศอิหร่าน เข้ารักษาที่โรงพยาบาลใน จ.นครศรีธรรมราช โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 4 มี.ค.ที่มีการแถลงว่าไม่พบผู้ติดเชื้อนั้น เนื่องจากผลการตรวจเชื้อยังไม่ออกมา แต่ผลได้มาออกวันที่ 5 มี.ค. ยืนยัน ไม่ได้มีการปกปิดข้อมูลอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลท่าศาลา ยังระบุว่า การจะแจ้งผลการตรวจของผู้ป่วยบางกรณีต้องถือเป็นความลับและต้องคำนึงถึงสิทธิของผู้ป่วยด้วย อีกทั้งการเปิดเผยข้อมูลเช่นนี้ จะเป็นอำนาจของผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น
ผู้ป่วยคนนี้ขณะรอผลยืนยัน โรงพยาบาลไม่ได้นิ่งดูดาย ได้ประสานทีมสอบสวนโรคในการติดตามผู้ใกล้ชิดผู้ป่วย หรือมีความเสี่ยงมาตรวจคัดกรอง ติดต่อทีมผู้เชี่ยวชาญในการดูแลรักษาโรค COVID-19 เพื่อให้ผลออกมาดีที่สุด และเมื่อมีผลยืนยันออกมาจึงได้เริ่มงานตามแผนที่ได้วางไว้ทันที
สำหรับผู้ป่วยชายอายุ 20 ปี คนนี้ หลังเดินทางกลับจากอิหร่าน ได้เดินทางกลับภูมิลำเนาที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 29 ก.พ. โดยเข้าปรึกษาแพทย์และต่อมาตรวจสอบพบเชื้อในช่วงเช้า จนมีการแถลงจากผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขไปแล้วนั้น โดยเดินทางถึงประเทศไทย และกลับไป จ.นครศรีธรรมราช โดยรถบัสโดยสาร และขณะนี้พบรถโดยสารคันดังกล่าวแล้ว พร้อมงดการใช้รถและทำการฆ่าเชื้อภายในห้องโดยสารแล้ว
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่แจ้งให้ผู้ที่โดยสารรถประจำทางสายกรุงเทพ-นครศรีธรรมราช ค่ำวันที่ 28 ต่อเนื่อง ถึงวันที่ 29 ก.พ. และมีผู้โดยสารลงจากรถที่อำเภอท่าศาลา ให้เข้าไปปรึกษาแพทย์เพื่อความไม่ประมาท ส่วนการสืบสวนโรคของชายผู้ติดเชื้อในพื้นที่อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช พบว่า มีการเดินทางไปรับประทานอาหารที่ร้านแห่งหนึ่ง รวมทั้งกิจกรรมทางศาสนาที่มัสยิดในช่วงวันที่ 29 ก.พ.
นอกจากนั้น ยังพบว่ามีการเดินในแหล่งชุมชนหนาแน่น ไปซื้ออาหารในตลาดชุมชนที่อาศัย ซึ่งเป็นตลาดที่คับคั่งไปด้วยประชาชนจำนวนมาก โดยทีมสืบสวนโรคได้ติดตามอย่างใกล้ชิด ขณะนี้ยังมีการกักตัวแม่ของชายคนนี้และญาติที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันอย่างน้อย 3 คน เฝ้าระวังการติดเชื้อโดยมีการตรวจเพาะเชื้อทุกวัน