วันนี้ (10 ธ.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อายัดรถยนต์หรู 7 คัน มูลค่ารวม 43 ล้านบาท ได้แก่ รถยนต์ยี่ห้อมาเซราติ SUV สีดำ ราคา 7 ล้านบาท จำนวน 1 คัน, รถยนต์ยี่ห้อพอร์ช Porch Boxter ราคา 5 ล้านบาท จำนวน 1 คัน, รถยนต์ยี่ห้อเฟอร์รารี่ สเดอร์ ราคา 18 ล้านบาท จำนวน 1 คัน, รถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด มัสแตง ราคา 10 ล้านบาท จำนวน 3 คัน และรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า เวลไฟร์ ราคา 3 ล้านบาท จำนวน 1 คัน เพื่อตรวจสอบหลังพบว่าอยู่ในความครอบครองของผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง ที่กระทำควาผิดในคดีแชร์ฟอร์เร็กซ์ทรีดี
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า การตรวจยึดทรัพย์สินครั้งนี้เป็นการยึดทรัพย์ครั้งที่ 3 ก่อนหน้านี้ยึดทรัพย์มาได้กว่า 700 ล้านบาท รวม 3 ครั้งยึดทรัพย์สินมาได้แล้ว 743 ล้านบาท เชื่อว่าเป็นทรัพย์สินดังกล่าวได้มาจากการกระทำความผิดของผู้ที่เกี่ยวข้องในคดี และอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายเรียก หรือหมายจับกับบุคคลใด
ผู้เสียหาย 1.1 หมื่นคน มูลค่า 1.5 พันล้านบาท
สำหรับผู้เสียหายในคดีลงทะเบียนกับดีเอสไอแล้ว 11,565 คน มูลค่าความเสียหาย 1,585 ล้านบาท แต่ปัจจุบันมีผู้เสียหายมาให้ปากคำแล้ว 1,739 คน และจะสิ้นสุดการให้ปากคำในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ หากไม่มีผู้มาแสดงตัวให้ปากคำอีก ดีเอสไอจะปิดรับผู้เสียหายไว้ก่อน เพื่อดำเนินการในขั้นต่อไปและเฉลี่ยทรัพย์สินที่ยึดมาได้ให้กับผู้เสียหายก่อน
ขณะนายปิยะศิริ วัฒนวรางกูล ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ คาดว่าภายในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ จะมีผู้เสียหายมาพบเจ้าหน้าที่รวม 3,000 คน และจะสามารถยึดทรัพย์ได้อีกรวมกว่า 1,500 ล้านบาท ส่วนผู้เสียหายที่เหลือสามารถไปยื่นแจ้งความเสียหายได้ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพราะดีเอสไอต้องสรุปสำนวนส่งดำเนินคดีแล้ว