เมื่อวันที่ 15 ต.ค.2562 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินยังเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ เขตปทุมวัน ในการพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 3 ปี 2562 และทรงเปิดการประชุมวิชาการนานาชาติ รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 2
มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี กระทรวงศึกษาธิการของไทยและแต่ละประเทศ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจัดขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเชิดชูครูดีเด่น ผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงแก่ชีวิตศิษย์และมีคุณูปการต่อวงการศึกษา ซึ่งได้คัดเลือกครูเข้ารับพระราชทานรางวัลทุก ๆ 2 ปี จาก 11 ประเทศ ในอาเซียนและติมอร์-เลสเต
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชดำรัสชื่นชมยินดีที่ครูทั้ง 11 คน ได้ผ่านการคัดเลือกอย่างรอบคอบ จากคณะกรรมการระดับชาติของแต่ละประเทศ นับเป็นครูรุ่นที่ 3 ที่มีความโดดเด่นและอุทิศตนอย่างไม่ย่อท้อ ในวิชาชีพการสอน ด้วยความรู้ความสามารถอย่างเต็มที่ ครูทุกคนที่สมควรกับรางวัลนี้ ได้รับการยกย่อง ไม่เฉพาะในระดับชาติ แต่รวมถึงการยอมรับในระดับนานาชาติ เนื่องจากเป็นผู้สร้างผลกระทบให้เกิดขึ้นต่อชีวิตของลูกศิษย์ และมีบทบาทอย่างยิ่งในการพัฒนาการศึกษา
"ปี 2562 นี้ เป็นปีที่ประเทศไทยได้เป็นประธานอาเซียน ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่าความเป็นหุ้นส่วนที่ก้าวหน้าเพื่อความยั่งยืนในประเทศสมาชิกอาเซียน รวมทั้งประเทศติมอร์-เลสเต จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้ทุกประเทศก้าวไปข้างหน้าเพื่อการเจริญเติบโตที่ยั่งยืนด้วยกัน ขอให้พวกเราทำงานไปด้วยกัน เพื่อส่งเสริมครูให้เป็นแรงกระตุ้นเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ครู คือ ปัจจัยสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
ครู คือ มนุษย์ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กนักเรียนที่จะพัฒนาคุณลักษณะของตนเองและสร้างค่านิยมต่าง ๆ ให้เกิดขึ้น
ไม่มีเทคโนโลยีใด ๆ สามารถมาแทนที่ครูได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าว นั่นคือว่าทำไมครูที่ดีจึงสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตลูกศิษย์ได้ ด้วยการพัฒนาพวกเขาให้เป็นพลเมืองที่ดีและมีความสามารถ ทั้งในระดับชาติและระดับเป็นพลเมืองของโลกด้วย"
พระราชดำรัส สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 3 ปี 2562
ปี 2562 มีผู้เข้ารับพระราชทานรางวัล ได้แก่ นางฮาจะฮ์ บินติ ฮาจี อัสปาร์ ประเทศบรูไนดารุสซาลาม, นายลอย วิรัก ประเทศกัมพูชา, นายสาดัท บี มินันดัง ประเทศฟิลิปปินส์, นางสาวลูร์เดส รันเจล กอนซัลเวซ ประเทศติมอร์-เลสเต, นายเล ทัน เลียม ประเทศเวียดนาม, นางแองจิลิน ชาน สิ่วเวิ่น ประเทศสิงคโปร์, นายรูดี ฮาร์ยาดี ประเทศอินโดนีเซีย, นายไพสะนิด ปันยาสะหวัด ประเทศลาว, นางเค เอ ราซียะฮ์ ประเทศมาเลเซีย, นายหม่อง จ๋าย ประเทศเมียนมา และนายสุเทพ เท่งประกิจ ประเทศไทย