วันนี้ (30 พ.ค.2562) ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) นำเจ้าหน้าที่ตรวจสอบคลินิกเสริมความงาม ย่านจตุจักร หลังมีการแจ้งเหตุผู้รับบริการสลบคาห้องผ่าตัด ระหว่างศัลยกรรมเสริมความงาม พร้อมย้ำให้โรงพยาบาลและคลินิกทุกแห่งกวดขันมาตรฐานสถานพยาบาลของตน โดยเฉพาะผู้ให้บริการต้องเป็นแพทย์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนและใบอนุญาตจากแพทยสภาจึงมีสิทธิให้บริการทางการแพทย์หรือเสริมความงามได้
ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดี สบส. กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตนเองและเจ้าหน้าที่จากสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะและกองกฎหมาย สบส. ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่คลินิกดังกล่าว โดยมุ่งตรวจสอบในประเด็นสำคัญตามที่กฎหมายสถานพยาบาลกำหนด 3 ประเด็น คือ คลินิกดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่, ผู้ให้บริการเป็นแพทย์ที่ขึ้นทะเบียน และมีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมอย่างถูกต้องจากสภาวิชาชีพหรือไม่, มาตรฐานด้านสถานที่ การบริการ ยาและเวชภัณฑ์ และความปลอดภัยของสถานพยาบาล ว่าเป็นไปตามที่กฎมายกำหนดหรือไม่
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าคลินิกดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลอย่างถูกต้อง และมีการดำเนินการตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด แต่ยังพบการกระทำผิดมาตรฐานบ้างในเรื่องของการขาดการชำระค่าธรรมเนียมรายปี เปิดให้บริการสถานพยาบาลเกินระยะเวลาที่ขออนุญาต และแพทย์ผู้ให้บริการมิได้ยื่นแบบแสดงความจำนงเป็นผู้ปฏิบัติงานในสถานพยาบาล (ส.พ.6) กับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ซึ่งจะมีการเรียกตัวผู้รับอนุญาตและผู้ดำเนินการสถานพยาบาลมาทำการเปรียบเทียบปรับ พร้อมสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไปว่าแพทย์ผู้ให้บริการในช่วงที่เกิดเหตุนั้นเป็นแพทย์จริงหรือไม่
หากพบว่าคลินิกใช้บุคคลอื่นที่มิใช่แพทย์มาให้บริการ ผู้ให้บริการจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ฐานเป็นหมอเถื่อนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ดำเนินการจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ฐานปล่อยปละละเลยให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่ผู้ประกอบวิชาชีพทำการประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ