ในวงการสงฆ์ 2-3 วันที่ผ่านมามีเรื่องฮือฮา กรณีพระศาสนมุนี พระผู้ช่วยสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์หรือสมเด็จช่วง วัดปากน้ำภาษีเจริญ ท่านสึกไปแล้วและก็มีรูปถ่ายคู่กับสีกาคนหนึ่งในต่างประเทศ
สึกแล้วไปต่างประเทศทันทีทำให้มีคำถามท่านสึกทำไม จะเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ตำรวจกองปราบกำลังตรวจสอบโครงการรักษาศีล 5 ที่วัดปากน้ำได้รับงบประมาณ 30 ล้านบาทจากสำนักพุทธหรือไม่
ภาพของอดีตพระศาสนมุนี หรือ หลวงพี่แป๊ะ ผู้ช่วยสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือ สมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ที่ถูกเผยแพร่ออกมา และระบุว่าเป็นการสึกไปอยู่กับสีกา ที่เคยทำงานอยู่ในวัดปากน้ำ สร้างความสับสนให้กับสังคมไม่น้อย
ไทยพีบีเอส เดินทางไปที่วัดปากน้ำ สอบถามพระครูพิศาลสังฆพินิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัด ยอมรับว่าอดีตหลวงพี่แป๊ะสึกจริง แต่เป็นการสึกปกติไม่มีความขัดแย้งใดๆ และเป็นการสึกนอกวัด เนื่องจาก 1 เดือนที่ผ่านมาอดีตหลวงพี่แป๊ะเดินทางไปต่างประเทศ
พระครูพิศาลสังฆพินิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำฯ กล่าวว่า ไม่รู้ว่าจะสึกแต่เขาก็ต้องนัดแนะ กับพระปกครองที่จะสึก ต้องทำพิธี และท่านไม่ได้สึกที่วัดนี้ ไม่ได้เจอหลายเดือนแล้ว และไปต่างประเทศหลายเดือน และท่านก็ไม่เคยมีงานอะไรในวัด
ในอดีตภาพที่ปรากฎทั่วไปจะเห็นอดีตหลวงพี่แป๊ะ สนองงานสมเด็จช่วงอย่างดี โดยเฉพาะโครงการรักษาศีล 5 เพราะเป็นถึงกรรมการโครงการ ขัดแย้งกับข้อมูลพระครูพิศาลสังฆพินิจ ที่ยืนยันว่าอดีตหลวงพี่แป๊ะ ไม่ได้รับตำแหน่งสำคัญภายในวัด
พระครูพิศาลสังฆพินิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำฯ
พระครูพิศาลสังฆพินิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำฯ
พระครูพิศาลสังฆพินิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำฯ ยืนยันไม่มีประเด็นเหล่านี้ และมูลนิธิเราตรวจสอบกันเอง และตรวจแล้วส่งให้หน่วยงานของรัฐด้วย แล้วจะไปขโมยเงินตรงไหน หลวงพี่แป๊ะไม่ได้มีตำแหน่งสำคัญอะไรในวัด ถึงจะมีภาพใกล้ชิดกับสมเด็จช่วง ได้เท่านั้น
หากเทียบกับช่วงเวลาที่อดีตหลวงพี่แป๊ะหายไปจากวัด เป็นห้วงเวลาเดียวกับที่ กองปราบปรามฯตรวจสอบทุจริตเงินทอนวัด 3 วัดดัง ล็อตที่ 3 และก่อนหน้านี้ปีที่ผ่านมา วัดปากน้ำเคยถูก ตำรวจ ปปป.ตรวจสอบเงินทอนวัด
โดยเฉพาะโครงการรักษาศีล 5 เพราะข้อมูลจากหน่วยงานตรวจสอบ พบว่า วัดปากน้ำเคยได้รับเงินอุดหนุนจากพศ.ตั้งแต่ปี 2557 ถึง 2558 จำนวน 30 ล้านบาท
ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของตำรวจ ปปป. ซึ่งก็พบว่าอดีตหลวงพี่แป๊ะเป็นกรรมการของโครงการ การสึกไปของอดีตของหลวงพี่แป๊ะ จึงทำให้เกิดการตั้งคำถามว่า จะเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบทุจริต หรือเป็นเรื่องส่วนตัว