วันนี้ (6 พ.ย.2560) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมสมาพันธ์เครื่องประดับโลก ที่โรงแรมแชงกรี-ล่า โดยกล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง "ทิศทางของไทยสู่การเป็นศูนย์กลางอัญมณีและเครื่องประดับโลก" ว่า ประเทศไทยมีความพร้อมและมุ่งมั่นพัฒนายกระดับสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง (ฮับ) ของอุตสาหกรรมภายใน 5 ปีนับจากนี้ พร้อมจะดูแลกลุ่มแรงงานช่างฝีมือ ซึ่งนับว่าเป็นมรดกทรงคุณค่าและรักษาคุณภาพสินค้าไทยให้โดดเด่นระดับโลก
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้สนับสนุนผู้ประกอบการให้เพิ่มขีดความสามารถครบวงจร พัฒนาด้านการตลาด และเติบโตไปพร้อมทุกประเทศ แนะให้นำเรื่องเร่งด่วนมาดำเนินการก่อน เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนโดยเร็ว และมอบให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการต่อไป ด้วยการคิดใหม่ทำใหม่วางวิสัยทัศน์ทำงานตามนโยบายรัฐบาลไทยแลนด์ 4.0 และต้องปลดล็อกการทำธุรกิจต่างๆ พร้อมเชิญชวนผู้ร่วมประชุมมาท่องเที่ยวในประเทศไทย เพราะเชื่อสถานการณ์พายุจะคลี่คลายกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยให้คำมั่นในการดูแลรักษาความปลอดภัย
ทั้งนี้ ก่อนปาฐกถา นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปเยี่ยมชมนิทรรศการ "ทับทิม ราชาแห่งอัญมณี" ของไทยจำนวน 10 ชุด ซึ่งการประชุมครั้งนี้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม โดยการประชุมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 13 โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งประเทศอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ ถือว่าเป็นภาคส่วนสำคัญของเศรษฐกิจไทย มีแรงงานภาคอุตสาหกรรมนี้จำนวนกว่า 1 ล้านคน ตั้งแต่คนคัดพลอย ช่างเจียระไน โดยมุ่งหวังให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอัญมณีและเครื่องประดับโลกภายในปี 2564 โดยภาครัฐได้ส่งเสริมอุตสาหกรรมด้วยการเว้นอากรขาเข้าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ส่งเสริมการแสวงหาพันธมิตรด้านแหล่งวัตถุดิบ ยกระดับฝีมือแรงงาน
ในงานนี้มีผู้ประกอบการอัญมณีเข้าร่วมจาก 42 ประเทศทั่วโลก ปัจจุบันประเทศไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกอันดับ 10 ของโลก ซึ่งในในปี 2559 ประเทศไทยส่งออกอัญมณีและเครื่องประกับ รวมทั้งทองคำ มูลค่า 501,107.38 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.49 ของจีดีพี ที่สำคัญอัญมณีและเครื่องประดับเป็นสินค้าส่งออกอันดับที่ 3 ของประเทศ