ศึกเลือกตั้ง2554 ทำธุรกิจสิ่งพิมพ์คึกคัก คาดเงินสะพัดประมาณ 1,060 ล้านบาท 
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า ธุรกิจสิ่งพิมพ์ เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับอานิสงส์จากการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 โดยคำสั่งซื้อสิ่งพิมพ์เฉพาะเพื่อการหาเสียง อาทิเช่น แผ่นป้ายโฆษณา โปสเตอร์ แผ่นพับ เป็นต้น เริ่มทยอยเข้าสู่โรงพิมพ์อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจากที่มีการกำหนดวันเลือกตั้ง และวันประกาศรับสมัครส.ส.อย่างชัดเจน
โดยสื่อสิ่งพิมพ์ยังได้รับความนิยมในการโฆษณาหาเสียงจากผู้สมัครรับเลือกตั้ง และพรรคการเมืองต่างๆ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า การเลือกตั้งส.ส.ในปี 2554 จะช่วยเพิ่มเม็ดเงินเข้าสู่ธุรกิจสิ่งพิมพ์ประมาณ 1,060 ล้านบาท โดยเม็ดเงินที่เพิ่มขึ้นมาจากการที่ผู้สมัครส.ส.และพรรคการเมืองใช้สิ่งพิมพ์เพื่อการหาเสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แผ่นป้ายโฆษณา และแผ่นพับใบปลิว นอกจากนี้ ธุรกิจสิ่งพิมพ์ยังได้รับอานิสงส์จากการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ใช้สื่อสิ่งพิมพ์ เพื่อรณรงค์และประชาสัมพันธ์ รวมถึงการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกตั้งแก่ประชาชน
สำหรับการเลือกตั้งส.ส.ในปี 2554 สื่อสิ่งพิมพ์ยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญในการหาเสียงของผู้สมัครและพรรคการเมือง โดยเม็ดเงินสะพัดในธุรกิจสิ่งพิมพ์ช่วงการเลือกตั้งในปี 2554 เพิ่มขึ้นจากการเลือกตั้งครั้งก่อนในปี 2550 ทั้งนี้เนื่องจากสภาพการหาเสียงมีการแข่งขันเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของพรรคการเมืองที่ต้องการช่วงชิงที่นั่ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ประกอบกับข้อจำกัดที่เข้มงวดของกกต.ในการใช้สื่อวิทยุ และโทรทัศน์เพื่อการหาเสียง ซึ่งเป็นแรงหนุนให้สื่อสิ่งพิมพ์ถูกใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งส.ส.ครั้งนี้มากขึ้น
แม้ว่าการหาเสียงเลือกตั้งในปี 2554 ผู้สมัครและพรรคการเมืองได้ขยายช่องทางการหาเสียงผ่านทางสื่ออินเทอร์เน็ต แต่คาดว่าจะไม่มีผลกระทบต่อความต้องการใช้สิ่งพิมพ์ในการหาเสียง เนื่องจากสื่อทั้งสองประเภทมีเป้าหมายในการสื่อสารถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ต่างกัน โดยสิ่งพิมพ์เน้นสร้างการจดจำ และความเข้าใจต่อนโยบายพรรคไปสู่ประชากรในวงกว้าง ส่วนสื่ออินเทอร์เน็ต จะเน้นความรวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์ และการสื่อสารสองทางระหว่างพรรคและผู้มีสิทธิเลือกตั้ง