จากกรณีนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ออกมาเปิดเผยข้อมูล "ส่วยรถบรรทุก" ในรูปแบบสติกเกอร์ เมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา ทั้งรูปแบบทั้งวิ่งเฉพาะจังหวัด วิ่งระหว่างภาค และวิ่งทั่วประเทศ ต้องจ่ายค่าผ่านทางรายเดือนหลักพันถึงหมื่นบาทต่อคัน คาด 1 ปี รถบรรทุกอย่างน้อย 500,000 คัน ต้องจ่ายส่วยสติกเกอร์นี้ มูลค่าการคอร์รัปชันทะลุหมื่นล้าน
วันนี้ (31 พ.ค.2566) นายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าวถึงข้อเสนอของนายวิโรจน์ในการใช้เทคโนโลยี Weight In Motion (WIM) หรือการตรวจวัดน้ำหนักรถบรรทุกขณะรถวิ่ง ว่า ไทยควรใช้เทคโนโลยีแทนดุลยพินิจของคนในการตรวจสอบน้ำหนักรถบรรทุกเกิน 50 ตันเมื่อต้องเข้าด่านตรวจ เชื่อว่าเทคโนโลยีนี้จะแก้ปัญหาจ่ายส่วยรถบรรทุกได้ในระดับหนึ่ง เป็นการลงทุนไม่มากและคุ้มค่า แต่สิ่งที่ควรทำคือการตรวจจับข้าราชการทุจริต และต้องปกป้องผู้ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ ทั้งประชาชน พ่อค้าคนกลาง และสื่อมวลชน
เรื่องส่วย เรื่องทุจริต ประชาชน-พ่อค้าคนกลางเขาเห็น แต่เห็นแล้วพูดไม่ได้ ทำอย่างไรเขาไม่ถูกข่มขู่ ไม่ไปฟ้องเขาว่าดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ดูหมิ่นองค์กรเสียหาย ถ้าปกป้องคนได้ เขาก็กล้าที่จะขุดคุ้ยมากขึ้น
นายมานะ กล่าวว่า เมื่อหน่วยที่ใช้อำนาจตรวจสอบเป็นคนทุจริตเสียเอง จึงเป็นเรื่องยากมากในการแก้ปัญหาภาพรวม ยกตัวอย่าง "ไปจับส่วย ตำรวจก็โกง และตำรวจก็ตรวจสอบกันเอง หน่วยงานอื่นก็ไม่กล้าก้าวก่าย" จึงเสนอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินย้อนหลังของตำรวจระดับผู้บังคับการทุกคน โดยเฉพาะผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เป็นหน่วยงานที่มีผลประโยชน์เกรดเอ มั่นใจว่าหากตรวจสอบย้อนหลังจะพบความผิดปกติ
เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ถึงการขยายผลไปยังผู้บังคับบัญชาระดับสูงกว่านี้ นายมานะ กล่าวว่า เงินส่วยอาจถูกใช้ไปแล้วในขั้นตอนการซื้อตำแหน่งของแต่ละคน และการส่งส่วยเพื่อสะสมความร่ำรวย เป็นการส่งตามขั้นตอนอยู่แล้ว รูปแบบจะส่งไปเรื่อย ๆ ตามสายการบังคับบัญชาเป็นรายเดือน ในยุคหนึ่งต้องจ่ายเงินเพื่อรักษาตำแหน่ง แต่ไม่รู้ว่าช่วงนี้วงการตำรวจยังมีอยู่หรือไม่
เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ กล่าวว่า ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และแผนการปฏิรูปประเทศ ระบุไว้ว่าข้าราชการต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน แต่ปรากฏว่า ป.ป.ช. และรัฐบาล ยังไม่ได้ทำอะไรในเรื่องนี้ โดยการตรวจสอบความร่ำรวยนั้น นอกจากการยื่นบัญชีทรัพย์สินแล้ว ยังตรวจสอบได้จากการเสียภาษีรายได้และภาษีทรัพย์สิน แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ไม่เคยทำเรื่องนี้
ตอนนี้ระดับนายพลก็ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน บางคนมีเงิน 50 ล้าน หรือหลายร้อยล้าน ก็ไม่มีหน่วยงานไปตรวจสอบที่มา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
รู้จัก "วิโรจน์" อุกกาบาตทลาย "ระบบส่วย"
เปิดราคาเก็บ "ส่วยสติกเกอร์" ค่าผ่านทางรถบรรทุก
สรุป ไทม์ไลน์ "วิโรจน์" เปิดโปง "ส่วยสติกเกอร์" ติดรถบรรทุก ผ่านฉลุย