วันนี้ (28 เม.ย.2568) ที่กองอำนวยการร่วม สน.บางซื่อ ภายในห้างสรรพสินค้าเจเจมอล ถ.กำแพงเพชร ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายจากเหตุการณ์ตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ นายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อขอให้สภาทนายความช่วยเหลือด้านกฎหมายและดำเนินการเรียกร้องความยุติธรรมให้กับผู้ประสบภัยและญาติของผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้
สภาทนายความเคลื่อนไหว ช่วยเหลือฟรีทุกกรณี
นายวิเชียร ชุบไธสง กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า สภาทนายความขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้ประสบภัยทุกท่าน และยืนยันว่าไม่เคยเพิกเฉยต่อความเดือดร้อนของประชาชน ระบุได้จัดตั้ง ศูนย์ช่วยเหลือประชาชนด้านกฎหมาย ผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและตึกถล่ม บริเวณหน้าตึก สตง. ทันทีหลังเกิดเหตุ เพื่อเป็นจุดรับเรื่องร้องเรียนและให้คำปรึกษาโดยตรง
ศูนย์ดังกล่าวมีทีมทนายความประจำการเพื่อรับฟังข้อมูล สอบถามข้อเท็จจริง และเก็บข้อมูลจากผู้ประสบภัยและญาติ เพื่อนำไปวิเคราะห์แนวทางการดำเนินคดีอย่างรอบคอบ โดยอาจเป็นคดีแพ่งสามัญหรือคดีแบบกลุ่ม (Class Action) ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละกรณี นายวิเชียรย้ำว่า การช่วยเหลือด้านกฎหมายของสภาทนายความครั้งนี้ ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพื่อให้ผู้ประสบภัยทุกคนเข้าถึงความยุติธรรมได้อย่างเท่าเทียม
จนถึงขณะนี้ มีผู้ประสบภัยและญาติเข้ามาให้ข้อมูลกับศูนย์ช่วยเหลือแล้วประมาณ 21 ราย ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่
- กลุ่มผู้เสียชีวิต ครอบครัวที่สูญเสียสมาชิกจากเหตุตึกถล่ม
- กลุ่มผู้สูญหาย ญาติที่ยังไม่พบร่างผู้ประสบภัยและรอการค้นหา
- กลุ่มผู้บาดเจ็บ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งแรงงานไทยและแรงงานต่างด้าว
เมื่อถูกถามถึงความต้องการของญาติผู้เสียหาย นายวิเชียรเผยว่า ส่วนใหญ่ต้องการให้สภาทนายความช่วยเหลือด้านกฎหมายเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมและเงินชดเชยที่เหมาะสม เนื่องจากเงินเยียวยาที่ได้รับในปัจจุบันยังไม่สามารถทดแทนความสูญเสียที่เกิดขึ้นได้
น.ส.มาลินี วัชราสิน คณะทำงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านกฎหมายของสภาทนายความ เปิดเผยว่า ในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทีมงานได้พบปะทั้งผู้ประสบภัยและญาติ โดยแบ่งเป็นกลุ่มที่พบร่างผู้เสียชีวิตแล้วและกลุ่มที่ยังไม่พบร่าง สำหรับกลุ่มที่พบร่าง บริษัทที่ผู้เสียชีวิตทำงานด้วยได้จ่ายเงินเยียวยา 50,000 บาท ต่อราย ส่วนรัฐบาลมอบเงินเยียวยาเพิ่มเติม 100,000 บาท ให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม ญาติผู้เสียหายหลายรายมองว่าเงินเยียวยาจำนวนนี้ "ไม่เป็นธรรม" และไม่เพียงพอต่อความสูญเสียทั้งทางร่างกายและจิตใจ ส่วนกลุ่มที่ยังไม่พบร่างผู้ประสบภัยได้รับเพียงเงินช่วยเหลือค่าเดินทาง 3,000 บาท สำหรับการมารอรับร่างเท่านั้น และยังไม่สามารถขอรับเงินเยียวยาอื่น ๆ ได้
น.ส.มาลินีกล่าวเสริมว่า ผู้เสียหายบางรายที่ได้รับเงินเยียวยาไปแล้วไม่ทราบว่าสภาทนายความมีศูนย์ช่วยเหลือ จึงอยากใช้โอกาสนี้เชิญชวนให้ติดต่อกลับมาที่สภาทนายความเพื่อรับความช่วยเหลือด้านกฎหมายต่อไป
สถานทูตจีนเตรียมเจรจาค่าชดเชย
นายวิเชียรเปิดเผยข้อมูลสำคัญว่า เมื่อวันที่ 27 เม.ย.2568 เขาได้รับการติดต่อจาก ร.ต.อ. สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) แจ้งว่าในวันพรุ่งนี้ (29 เม.ย.2568) สถานทูตจีนจะส่งตัวแทนจากบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับตึก สตง. เข้ามาเจรจาเรื่องการชดเชยและเยียวยาให้กับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต โดยการเจรจานี้จะเป็นการจ่ายเงินเยียวยาเบื้องต้น โดยไม่ผูกพันทางกฎหมาย
เมื่อถูกถามถึงความหมายของการเยียวยาโดยไม่ผูกพันทางกฎหมาย นายวิเชียรอธิบายว่า เงินเยียวยาที่บริษัทผู้รับเหมาจะจ่ายในรอบนี้เป็นเพียงการช่วยเหลือเบื้องต้น ไม่ได้หมายความว่าคดีจะสิ้นสุดลง ญาติผู้เสียหายยังสามารถดำเนินคดีต่อไปได้หากต้องการเรียกร้องเพิ่มเติม โดยเงินเยียวยานี้จะมอบให้กับทุกครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ
สำหรับกรณีเงินเยียวยานี้เกี่ยวข้องกับกองทุน 120 ล้านบาท ที่ตัวแทนผู้รับเหมากล่าวถึงก่อนหน้านี้หรือไม่ นายวิเชียรตอบว่า ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นกองทุนเดียวกันหรือไม่ เนื่องจากรายละเอียดยังไม่ชัดเจน
นายวิเชียรเผยว่า สภาทนายความได้รับเชิญให้เข้าร่วมการเจรจากับตัวแทนสถานทูตจีนและบริษัทผู้รับเหมา ในฐานะตัวแทนของผู้เสียหาย เพื่อให้มั่นใจว่าการชดเชยจะเป็นธรรมและครอบคลุมทุกกลุ่ม อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขเงินเยียวยาที่จะตกลงกันได้ในขณะนี้ เนื่องจากต้องรอผลการเจรจาในวันที่ 29 เม.ย.
เราจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อปกป้องสิทธิของผู้ประสบภัย ไม่ว่าจะเป็นแรงงานไทยหรือต่างด้าว เป้าหมายคือให้ทุกคนได้รับความยุติธรรม และเงินชดเชยที่เหมาะสมกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น
อ่านข่าวอื่น :
"เอกนัฏ" เผยถอนสิทธิบีโอไอ "ซิน เคอ หยวน" ปิดโอกาสเปิดโรงงานใหม่
ผู้นำสูงสุดอิหร่านสั่งสอบเหตุ "ท่าเรือระเบิด" ยอดตายพุ่งเป็น 40 คน