ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ตึกสตง.ถล่ม-ศรัทธาพัง" คำถามที่ไร้คำตอบ 1 เดือน ใครรับผิด ?

อาชญากรรม
28 เม.ย. 68
18:07
109
Logo Thai PBS
"ตึกสตง.ถล่ม-ศรัทธาพัง" คำถามที่ไร้คำตอบ 1 เดือน ใครรับผิด ?

ครบรอบ 1 เดือนแล้ว ที่ตึกสตง.ความสูง 30 ชั้น งบประมาณ 2,136 ล้านบาท ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2568 พบผู้เสียชีวิตแล้ว 65 คน มีผู้สูญหายอีก 29 คนที่ยังอยู่ระหว่างการค้นหาร่างคืนกลับสู่ครอบครัว

แม้คดีนี้ดีเอสไอจะรับเป็นคดีพิเศษ ใน 3 ฐานความผิด คือ คดีนอมินี ตาม พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 การถือหุ้นอำพรางของคนไทย , การเสนอราคาหรือการแข่งราคาที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งอาจนำไปสู่การใช้วัสดุหรืออุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน 

แต่จนถึงขณะนี้ในส่วนของผู้กระทำความผิด โดยเฉพาะผู้กระทำการประมาท ผู้ออกแบบโครงการก่อสร้างและผู้ตรวจรับงาน ซึ่งอยูในความรับผิดชอบของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)ยังไร้วี่แววในการเอาผิดหรือถูกดำเนินคดีแต่อย่างใด

คงมีเพียงการออกหมายจับ 4 ผู้ต้องหา คือ นายชวน หลิงจาง, ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทไชนา เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย)จำกัด และ 3 นอมินีชาวไทย คือ นายโสภณ มีชัย, นายประจวบ ศิริเขตร และ นายมานัส ศรีอนันท์ และทั้งหมดได้รับการประกันตัวไปแล้ว

ก่อนหน้านี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากเหตุการณ์นี้สร้างความเสียหายไปทั่วโลก และขีดเส้นหาผู้กระทำความผิดให้ได้ภายใน 7 วัน

มีรายงานว่า ที่ผ่านมาสตง.ได้รวบรวมเอกสารจำนวนหลายพันแผ่น ส่งมอบให้คณะกรรมการฯ ไม่ว่าจะเป็นเอกสารจัดทำโครงการขออนุมัติงบประมาณ , อนุมัติงบประมาณเพิ่มเติม ข้อกำหนดดำเนินงาน ตามมาตรฐานการก่อสร้างอาคาร แบบแปลนการก่อสร้างอาคาร รวมถึงข้อกำหนดเงื่อนไขสัญญาต่าง ๆ

แต่จนถึงปัจจุบันเหตุการณ์ผ่านไปแล้ว 1 เดือน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำได้เพียงการพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้สูญหายที่เจอจากใต้ซากตึกอาคารบางส่วน และยังไม่มีการแจ้งข้อหาผู้ใด ไม่ว่าจะเป็นผู้ออกแบบและผู้แก้แบบโครงการ หรือแม้กระทั่งผู้ตรวจรับงาน

ล่าสุดมีเพียงคำชี้แจงจาก สตง.ในประเด็นการแก้แบบปล่องลิฟต์ว่า บางจุดเกิดขึ้นในช่วงการบริหารสัญญาระหว่างดำเนินการก่อสร้าง โดยผู้รับจ้างก่อ สร้างพบว่า แบบงานโครงสร้างขัดกับแบบงานสถาปัตยกรรมภายใน กล่าวคือ ขนาดของผนังปล่องลิฟต์บริเวณทางเดินเมื่อรวมกับวัสดุตกแต่งตามแบบ ทำให้ทางเดินมีความกว้างไม่เป็นไปตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 55 (พ.ศ. 2543) ออกตามความในพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 สตง.จึงดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบของทางราชการ และต่อมาในภายหลังได้มีการปรับลดเงิน 500,000 บาทหลังแก้แบบแล้ว

เมื่อวันที่ 19 เม.ย.2568 นายมานะ นิมิตมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์ รัปชัน (ประเทศไทย) ออกมาโพสต์ข้อความขอคำตอบจากรัฐบาลทวงถามความจริง กรณีตึก สตง. แห่งใหม่ถล่ม ภายในวันที่ 28 เม.ย. นี้ แต่เขาบอกว่า สิ่งที่ได้คือ ความเงียบที่ไม่สะทกสะท้านต่อเสียงของประชาชน

หนึ่งเดือนเต็ม หลังเหตุการณ์อาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่พังถล่ม นอกเหนือจากเงินภาษีจำนวน 2,136 ล้านบาทสูญหายไปในพริบตา ยังมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บกว่าร้อยคน ค่าใช้จ่ายในการค้นหากู้ชีวิตอีกมหาศาลที่ยังประมาณไม่ได้

จนถึงวันนี้ การรื้อซากตึกมีความคืบหน้าไปอย่างมาก แต่สิ่งที่ไม่คืบหน้าเลย คือ เสียงสำนึกความรับผิดชอบของรัฐบาล ศพและซากความเสียหาย ยังหาคนรับผิดชอบไม่ได้ มีแต่คำว่า กำลังสืบสวน ประหนึ่งการก่อสร้างอาคารไม่มีขั้นตอนที่เป็นมาตรฐานปฏิบัติ ไม่มีระบบตรวจสอบที่ถูกต้องชัดเจน

ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนล่าสุดชี้ชัดว่า 98% เชื่อว่าเหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชัน ไม่ใช่เพียง "ข้อกล่าวหา" แต่คือ สัญญาณเตือนว่า ศรัทธาของประชาชนต่อรัฐบาลกำลังพังถล่มลง เช่นเดียวกับตัวอาคาร

ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ระบุว่า ถ้าภายใน 15 วัน จากวันนี้ หากรัฐบาลไม่มีคำตอบ ประชาชนจะแสวงหาคำตอบเองตามข้อมูลที่ปรากฏ โดยขอแจกแจงประเด็นที่ต้องการคำตอบดังนี้

1.เปิดเผยรายชื่อวิศวกร สถาปนิก และผู้รับผิดชอบทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ คำนวณโครงสร้าง และควบคุมงานก่อสร้าง พร้อมเปิดเผย แบบก่อสร้างฉบับสัญญา แบบแก้ไข และแบบก่อสร้างจริง (As-Built Drawing) อย่างครบถ้วน เพื่อพิสูจน์ว่ามีการเปลี่ยนแปลงแบบหรือบกพร่องในขั้นตอนไหน

2.เปิดเผยผลการตรวจสอบวัสดุก่อสร้าง รายละเอียดการเก็บตัวอย่าง การทดสอบ และการรับรองคุณภาพวัสดุ ว่าเป็นไปตามสัญญาและมาตรฐานวิชาชีพหรือไม่

3.สอบสวนบทบาทของบริษัทที่ปรึกษาควบคุมงานอย่างละเอียดว่า ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด หรือมีการปล่อยปละละเลยจนเกิดหายนะ ทั้งในการตรวจงานก่อสร้าง และการตรวจสอบ ความถูกต้องของการแก้ไขแบบ

4.ประกาศตัวแทนรัฐบาลที่รับผิดชอบการสอบสวน พร้อมรายชื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และแผนการดำเนินงานที่มีกรอบเวลาชัดเจน

และหากภายใน 15 วันนับจากวันที่ออกจดหมายฉบับนี้ รัฐบาลยังคงนิ่งเฉย ไม่มีการชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างเป็นรูปธรรม องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ จำเป็นต้องดำเนินการยกระดับการติดตาม ตรวจสอบ และผลักดันทั้งในระบบและภาคประชาชนเพื่อให้รัฐบาลนำความจริงทั้งหมดออกมาเปิดเผย และเร่งดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นใครก็ตาม

เพื่อยุติวังวนแห่งการปล่อยผ่านความผิดพลาดที่นำไปสู่ความเสียหายใหญ่หลวงเช่นนี้ เพราะความเงียบ เท่ากับการสมรู้ร่วมคิด และความล้มเหลวในการพิทักษ์ความจริง เท่ากับการทรยศคดโกงความเชื่อมั่นต่อประชาชน

อ่านข่าว:

เปิดสายสัมพันธ์ “ชวนหลิง จาง - วู บิงลิน” ผ่าน ไชน่า เรลเวย์ No.10

รื้อ “ซิน เคอ หยวน” ทุนจีน “ผลิตเหล็กเส้นรายใหญ่” ในซากตึกสตง.

ขุดเบื้องลึก "ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ไทย)" ทุนจีนใหม่แผ่นดินใหญ่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง