วันนี้ (25 เม.ย.2568) ปัญหายาเสพติดยังคงเป็นภัยร้ายที่คุกคามความมั่นคงของชาติ ล่าสุด พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน (ศอ.ปชด.) ได้ประชุมด่วนร่วมกับ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เพื่อวางแนวทางสกัดกั้นสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ที่ใช้ผลิตยาเสพติด
พบว่ายังมีการลักลอบนำเข้าผ่านชายแดน ท่าเรือ และท่าอากาศยานอย่างต่อเนื่อง การประชุมครั้งนี้สอดรับกับนโยบายเร่งด่วนของ นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ที่กำหนดให้การปราบปรามยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ
จากการตรวจสอบพบว่า สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ที่ใช้ผลิตยาเสพติด เช่น ยาบ้า ไอซ์ และเฮโรอีน ยังคงถูกสั่งนำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะผ่านชายแดนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงมีการส่งต่อไปยังประเทศที่ 3 ผ่านท่าเรือและท่าอากาศยาน เพื่อแก้ปัญหานี้ ที่ประชุมได้กำหนดแนวทางเชิงรุก ดังนี้
- ปรับปรุงบัญชีสารต้องห้าม อัปเดตและเพิ่มรายการสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ให้ทันสมัย สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
- บังคับใช้กฎหมายเข้ม ใช้ทั้งกฎหมายไทย เช่น พ.ร.บ.ยาเสพติด และอนุสัญญาระหว่างประเทศ เพื่อปิดช่องโหว่การนำเข้า
- ควบคุมสารเฉพาะกรณี ออกมาตรการควบคุมสารบางชนิดที่มีความเสี่ยงสูงเป็นพิเศษ
- เพิ่มอำนาจเจ้าหน้าที่ ขยายขอบเขตอำนาจของผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เพื่อให้ปฏิบัติงานได้คล่องตัวยิ่งขึ้น
- ประสานงานระหว่างประเทศ แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรองกับมิตรประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสกัดกั้นขบวนการข้ามชาติ
พล.อ.ทรงวิทย์ ยังสั่งให้ ป.ป.ส. นำรายการสารตั้งต้นที่หารือไปจัดทำเป็นประกาศอย่างเป็นทางการ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยปฏิบัติตามแนวทางเดียวกัน พร้อมทั้งจัดการอบรมเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจจับและควบคุมสารเคมี นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้ ป.ป.ส. ประสานงานกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อพัฒนาระบบติดตาม (tracking) การขนส่งสารเคมีที่อาจใช้ผลิตยาเสพติด เพื่อป้องกันการรั่วไหลไปสู่ขบวนการผิดกฎหมาย
มติสภาความมั่นคง "ควบคุม" ชายแดนเข้มข้น
ที่ประชุมมีมติให้ ป.ป.ส. นำผลการหารือ ไปชี้แจงในที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อกำหนดเป็นมติควบคุมสารต้องห้ามในจังหวัดชายแดนที่ถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี และจังหวัดชายแดนภาคใต้ มตินี้จะเน้นการเพิ่มจุดตรวจเข้มตามแนวชายแดน การใช้เทคโนโลยี เช่น โดรนและ AI ในการเฝ้าระวัง และการประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาวและเมียนมา เพื่อตัดวงจรการลักลอบตั้งแต่ต้นทาง
ในส่วนของจังหวัดชายแดนภาคใต้ กองทัพบกโดย พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด หลังเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบที่สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงการโจมตีเป้าหมายอ่อนแอ เช่น ประชาชน ผู้นำศาสนา และพระภิกษุ ซึ่งมีเจตนาก่อความแตกแยกและหวาดระแวงในสังคม
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้สั่งการให้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และรองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เน้นย้ำมาตรการป้องกันเหตุรุนแรง โดยเฉพาะในพื้นที่เปราะบาง
กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ระดมกำลังทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เพื่อบังคับใช้กฎหมายอย่างเหมาะสม และเร่งนำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี โฆษกกองทัพบกยังเรียกร้องให้ประชาชนร่วมปฏิเสธความรุนแรงและใช้ความระมัดระวังในการรับข้อมูลข่าวสาร เพื่อป้องกันการตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่พยายามปลุกปั่นความขัดแย้ง
ผลงาน "ปราบปราม" สถิติสะท้อนความเข้มข้น
จากการรายงานของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ในช่วงเดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดได้ 348 คน พร้อมยึดยาบ้า 102.5 ล้านเม็ด ไอซ์ 3,752 กก. เฮโรอีน 2.5 กก. คีตามีน 420 กก. และฝิ่น 53 กก. นอกจากนี้ ยังจับกุมผู้นำเข้าเมืองผิดกฎหมาย 2,065 คน และยึดสินค้าหนีภาษี เช่น บุหรี่ 96,473 ซอง และน้ำมันดีเซล 14,255 ลิตร สะท้อนถึงความพยายามของกองทัพในการสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายตามแนวชายแดน
นโยบายปราบปรามยาเสพติดของ นายกฯ แพทองธาร เน้นการทำงานเชิงรุกและบูรณาการ โดยตั้งเป้าว่าพื้นที่ชายแดนต้องปลอดยาเสพติดถึงร้อยละ 90 ก่อนเทศกาลสงกรานต์ 2568 พร้อมสั่งให้ทุกหน่วยงานร่วมมือกันทั้งในด้านการป้องกัน ปราบปราม และบำบัดรักษา การประชุมครั้งนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว โดยมีเป้าหมายเพื่อคืนความปลอดภัยและความสุขให้กับประชาชน
อ่านข่าวอื่น :
กาชาดยืนยัน "ไม่มีซื้อขายอวัยวะ" ชี้ข่าวลวงทำผู้บริจาคกังวล
จบเกม! มัสก์ทิ้ง DOGE หลัง Tesla ร่วง 71% ทรัมป์เสียคู่หูคนสำคัญ
แท็กที่เกี่ยวข้อง: