วันนี้ (23 ก.พ.2568) นายทักษิณ ชินวัตร ลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปี โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกฯ มาเลเซีย ซึ่งให้ความสำคัญกับการสร้างสันติภาพในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย
นายทักษิณได้กล่าวถึงสถานการณ์ในพื้นที่ พร้อมเน้นแนวทางการแก้ปัญหาภาคใต้ตามพระราชดำริของในหลวง รัชกาลที่ 9 ซึ่งมีหลักการสำคัญ "เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา" ซึ่งเป็นแนวทางที่มองว่ายังสำคัญและเหมาะสมในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่ภาคใต้
ระหว่างการลงพื้นที่ นายทักษิณได้กล่าวว่าตนเองมาในฐานะที่ปรึกษาของประธานอาเซียน นายอันวาร์ อิบราฮิม ซึ่งให้ความสำคัญกับสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ อยากมาดูสถานการณ์เอง เพราะในช่วงที่ผมเป็นนายกฯ ได้ทำงานเกี่ยวกับการแก้ปัญหาภาคใต้ไปแล้ว แต่ยังคงมีปัญหาที่ต้องการการแก้ไข เชื่อว่าสถานการณ์ในปัจจุบันเราสามารถหาทางออกได้ และการแก้ปัญหาจะต้องใช้หลักการที่ได้กล่าวไว้คือ เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา
การลงพื้นที่ครั้งนี้ได้รับการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เพิ่งเกิดเหตุระเบิดที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา และในช่วงเช้าเกิดเหตุระเบิดที่สนามบิน ซึ่งยืนยันว่าเหตุระเบิดทั้ง 2 จุดไม่กระทบต่อการเดินทาง
หนึ่งในจุดหมายของการลงพื้นที่คือการเยี่ยมชมวัดประชุมชลธารา ซึ่งเป็นวัดต้นแบบในการอยู่ร่วมกันระหว่างคนไทยพุทธและมุสลิม โดยเฉพาะเจ้าอาวาสวัดที่มีบทบาทสำคัญในการเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในพื้นที่ การเยี่ยมชมวัดประชุมชลธาราในครั้งนี้มีการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างละเอียด โดยเจ้าหน้าที่ใช้สุนัขดมกลิ่นในการตรวจสอบพื้นที่ภายในวัด และไม่อนุญาตให้มีรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์จอดในบริเวณวัดเพื่อป้องกันเหตุความรุนแรง
นายทักษิณได้กล่าวถึงการลงพื้นที่ครั้งนี้ว่า หลายคนในวันนั้นที่ได้ส่งตัวแทนมามาคุยกับผมที่ต่างประเทศก็ได้มาคุยกัน คิดว่าวันนี้แนวทางในการพูดคุย ยังเป็นแนวทางที่ถูกต้องอยู่ เราต้องพูดคุยในระดับระดับท้องถิ่นระดับชาวบ้าน จนถึง ระดับข้าราชการที่ต้องพูดคุยกัน นักการเมืองท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่นที่มีความใกล้ชิดกับกลุ่มเห็นต่าง นี่คือสิ่งที่ผมว่าเป็นแนวทางที่อยากเห็น
นายทักษิณยังได้กล่าวเสริมว่า การพูดคุยเป็นสิ่งที่จำเป็นในการหาทางออกสำหรับปัญหาของภาคใต้
ผมเชื่อว่าในการแก้ปัญหาภาคใต้ไม่ใช่แค่การใช้กำลังเท่านั้น แต่มันต้องเริ่มจากการพูดคุยกัน ทั้งกับผู้เห็นต่างและฝ่ายข้าราชการ
ทุกคนมีความตั้งใจที่จะแก้ปัญหาให้ดีที่สุด โดยเราจะต้องเริ่มพูดคุยในระดับท้องถิ่นระดับชาวบ้าน ไปจนถึงระดับข้าราชการและนักการเมืองท้องถิ่น
นอกจากนี้ นายทักษิณยังกล่าวถึงความสำคัญของการพูดคุยกับผู้เห็นต่างในต่างประเทศ ซึ่งเคยเกิดขึ้นในสมัยที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และระบุว่าในอดีตตนเองได้พูดคุยกับผู้เห็นต่างจากทั้งในไทยและมาเลเซีย ซึ่งหลายคนบอกว่าอยากกลับบ้านแล้ว เมื่อไหร่จะได้กลับ และวันนี้ก็ยังเชื่อว่าแนวทางการพูดคุยยังคงเป็นแนวทางที่ถูกต้องในการหาทางออก
ในส่วนของปัญหายาเสพติด นายทักษิณ ได้กล่าวว่า ยาเสพติดเป็นปัญหาที่ต้องได้รับการจัดการอย่างเร่งด่วน เมื่อเศรษฐกิจแย่ สิ่งที่เกิดขึ้นคือการระบาดของยาเสพติด ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจไม่ว่าชาวพุทธหรือมุสลิมก็อยากเห็นการแก้ปัญหานี้โดยเร็ว ทักษิณเน้นย้ำว่าเรื่องยาเสพติดต้องเป็นวาระสำคัญที่ทุกฝ่ายร่วมมือกันแก้ไข
อ่านข่าวอื่น :