การผจญภัยในครั้งนี้เริ่มต้นที่จังหวัดน่าน เมื่อทีมนักสำรวจตื่นแต่เช้าตรู่ก่อน 6 โมงเช้าเพื่อเตรียมพบกับพี่เมธี นักวิจัยพันธุ์พืช ที่วัดพระธาตุแช่แห้ง ระหว่างทางได้แวะซื้อของฝากท้องถิ่นอย่างข้าวหลามและขนมเดือนเต็มดวง จากนั้นเดินทางมุ่งหน้าสู่อำเภอแม่จริม ผ่านเส้นทางโค้งคดเคี้ยวขึ้นเขาลงเขา สองข้างทางเป็นพื้นที่ธรรมชาติสลับกับพื้นที่เกษตรกรรม ทีมได้เดินสำรวจพื้นที่ป่าซึ่งมีทั้งพืชพรรณหลากหลายชนิด ระหว่างทางพบหมามุ่ยซึ่งเป็นพืชที่ทำให้คันเมื่อสัมผัส จึงต้องใช้ดินทาเพื่อบรรเทาอาการ นอกจากนี้ยังพบพืชที่น่าสนใจหลายชนิด เช่น แอปเปิ้ลป่าที่ชาวไทใหญ่นิยมนำมาขาย ซึ่งอยู่ในวงศ์เดียวกับกุหลาบ พืชในตระกูลปีกนางฟ้าที่มีกลิ่นเฉพาะตัว และพืชหายากอย่างพรหมคต
การเดินทางพาทีมมาถึงชายแดนไทย-ลาว บริเวณเทือกเขาหลวงพระบาง ซึ่งเป็นแนวเขตแดนธรรมชาติระหว่างสองประเทศ ใกล้กับหมู่บ้านอยู่เกาะ ที่นี่มีด่านท้องถิ่นที่ชาวบ้านใช้สัญจรไปมาหากัน ทีมได้พบพืชพรรณที่น่าสนใจหลายชนิด รวมถึงส้มปี้ที่ชาวบ้านนิยมนำมายำกับปลากระป๋องและใส่ในลาบ จากนั้นทีมเดินทางขึ้นสู่ภูเข้ ยอดเขาที่มีความสูงประมาณ 1,600 เมตรจากระดับน้ำทะเล ในเขตบ้านเปียงซอ ตำบลขุนน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน พื้นที่นี้เป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญ
หลังจากการสำรวจที่น่าน ทีมได้เดินทางมาที่สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อศึกษากระบวนการจัดเก็บและอนุรักษ์ตัวอย่างพืช โดยอาจารย์ดาว นักวิชาการพืชสวน ได้อธิบายว่าตัวอย่างพืชจะถูกแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือตัวอย่างอัดแห้งที่เก็บในหอพันธุ์ไม้เพื่อการศึกษาวิจัย และตัวอย่างมีชีวิตที่นำมาปลูกและขยายพันธุ์
การเดินทางสิ้นสุดที่จังหวัดพังงา ที่กำลังมีการจัดตั้งสวนพฤกษศาสตร์แห่งใหม่ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากชุมชนท้องถิ่น ที่นี่มีพืชพรรณที่น่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะรองเท้านารีขาวพังงา กล้วยไม้ที่พบเฉพาะในพื้นที่นี้เท่านั้น และมีความพิเศษตรงที่ใช้กลิ่นและความสวยงามหลอกล่อแมลงมาผสมเกสรโดยไม่มีน้ำหวานตอบแทน นอกจากนี้ยังพบว่าแมลงที่ช่วยผสมเกสรก็เป็นผึ้งชนิดใหม่ของโลกด้วย รองเท้านารีขาวพังงาพบได้เฉพาะในเทือกเขาอโลมาลียา เทือกเขาแฝกมโนราห์ และบริเวณที่จะจัดตั้งสวนพฤกษศาสตร์ ที่ระดับความสูง 350 เมตรขึ้นไป
ติดตามชมได้ในรายการ Navigator วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2568 เวลา 10.00 - 11.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live
การผจญภัยในครั้งนี้เริ่มต้นที่จังหวัดน่าน เมื่อทีมนักสำรวจตื่นแต่เช้าตรู่ก่อน 6 โมงเช้าเพื่อเตรียมพบกับพี่เมธี นักวิจัยพันธุ์พืช ที่วัดพระธาตุแช่แห้ง ระหว่างทางได้แวะซื้อของฝากท้องถิ่นอย่างข้าวหลามและขนมเดือนเต็มดวง จากนั้นเดินทางมุ่งหน้าสู่อำเภอแม่จริม ผ่านเส้นทางโค้งคดเคี้ยวขึ้นเขาลงเขา สองข้างทางเป็นพื้นที่ธรรมชาติสลับกับพื้นที่เกษตรกรรม ทีมได้เดินสำรวจพื้นที่ป่าซึ่งมีทั้งพืชพรรณหลากหลายชนิด ระหว่างทางพบหมามุ่ยซึ่งเป็นพืชที่ทำให้คันเมื่อสัมผัส จึงต้องใช้ดินทาเพื่อบรรเทาอาการ นอกจากนี้ยังพบพืชที่น่าสนใจหลายชนิด เช่น แอปเปิ้ลป่าที่ชาวไทใหญ่นิยมนำมาขาย ซึ่งอยู่ในวงศ์เดียวกับกุหลาบ พืชในตระกูลปีกนางฟ้าที่มีกลิ่นเฉพาะตัว และพืชหายากอย่างพรหมคต
การเดินทางพาทีมมาถึงชายแดนไทย-ลาว บริเวณเทือกเขาหลวงพระบาง ซึ่งเป็นแนวเขตแดนธรรมชาติระหว่างสองประเทศ ใกล้กับหมู่บ้านอยู่เกาะ ที่นี่มีด่านท้องถิ่นที่ชาวบ้านใช้สัญจรไปมาหากัน ทีมได้พบพืชพรรณที่น่าสนใจหลายชนิด รวมถึงส้มปี้ที่ชาวบ้านนิยมนำมายำกับปลากระป๋องและใส่ในลาบ จากนั้นทีมเดินทางขึ้นสู่ภูเข้ ยอดเขาที่มีความสูงประมาณ 1,600 เมตรจากระดับน้ำทะเล ในเขตบ้านเปียงซอ ตำบลขุนน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน พื้นที่นี้เป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญ
หลังจากการสำรวจที่น่าน ทีมได้เดินทางมาที่สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อศึกษากระบวนการจัดเก็บและอนุรักษ์ตัวอย่างพืช โดยอาจารย์ดาว นักวิชาการพืชสวน ได้อธิบายว่าตัวอย่างพืชจะถูกแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือตัวอย่างอัดแห้งที่เก็บในหอพันธุ์ไม้เพื่อการศึกษาวิจัย และตัวอย่างมีชีวิตที่นำมาปลูกและขยายพันธุ์
การเดินทางสิ้นสุดที่จังหวัดพังงา ที่กำลังมีการจัดตั้งสวนพฤกษศาสตร์แห่งใหม่ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากชุมชนท้องถิ่น ที่นี่มีพืชพรรณที่น่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะรองเท้านารีขาวพังงา กล้วยไม้ที่พบเฉพาะในพื้นที่นี้เท่านั้น และมีความพิเศษตรงที่ใช้กลิ่นและความสวยงามหลอกล่อแมลงมาผสมเกสรโดยไม่มีน้ำหวานตอบแทน นอกจากนี้ยังพบว่าแมลงที่ช่วยผสมเกสรก็เป็นผึ้งชนิดใหม่ของโลกด้วย รองเท้านารีขาวพังงาพบได้เฉพาะในเทือกเขาอโลมาลียา เทือกเขาแฝกมโนราห์ และบริเวณที่จะจัดตั้งสวนพฤกษศาสตร์ ที่ระดับความสูง 350 เมตรขึ้นไป
ติดตามชมได้ในรายการ Navigator วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2568 เวลา 10.00 - 11.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live