เช้ามืดเวลาตีสามของวันหนึ่งในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1925 ขณะที่หนุ่มเยอรมันอายุ 23 ปี เพิ่งจบปริญญาเอกฟิสิกส์ชื่อ เวิร์นเนอร์ ไฮเซนเบิร์ก (Werner Heisenberg) กำลังปีนเขาที่เกาะเล็กๆ เกาะหนึ่งในทะเลเหนือ นอกฝั่งเยอรมนี ชื่อ “เฮลโกแลนด์” (Helgoland) เพื่อรอดูดวงอาทิตย์ขึ้นจากน้ำ เขากำลังไม่สบายอย่างหนักจากโรคภูมิแพ้ คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ จาม แต่สมองของเขาไม่หยุดคิดโจทย์วิทยาศาสตร์ที่กำลังติดพันอยู่
แล้ว ไฮเซนเบิร์ก ก็นึกเห็นภาพหยาบ ๆ ของสมการคณิตศาสตร์แปลก ๆ ซึ่งต่อมา ก็รู้จักกันทั่วโลกเป็น “กลศาสตร์เมทริกซ์” (Matrix mechanics)
หลังพักรักษาตัวที่เกาะสิบวัน ไฮเซนเบิร์ก ก็กลับสู่แผ่นดินใหญ่ และในอีกไม่กี่วันต่อมา เขาก็เขียนสิ่งที่เขาคิดได้บนเกาะ แล้วส่งไปให้วารสาร Zeitschrift For Physik ซึ่งก็ได้รับการตีพิมพ์ในฉบับเดือนกันยายน ค.ศ. 1925
หนึ่งร้อยปีต่อมา คือ ปี ค.ศ. 2525 องค์การสหประชาชาติก็ประกาศให้ 2025 เป็นปีสากลแห่งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควอนตัม (2025 International Year Quantum Science and Technology)
“วิทยาศาสตร์ ทันโลก ทันชีวิต” วันนี้ ขอนำท่านผู้อ่านไปดูเรื่องราวที่มาของการประกาศให้ ปี 2025 เป็นปีสากลแห่งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควอนตัม ไปดูว่า ในปี ค.ศ. 2025 นี้ มีกิจกรรมเกี่ยวกับปีสากลแห่งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควอนตัมอะไรบ้างน่าสนใจเป็นพิเศษ แล้วไปส่องบางส่วนเรื่องราวชีวิตและบทบาทของนักฟิสิกส์โด่งดังที่สุดคนหนึ่งของโลกแห่งศตวรรษที่ยี่สิบ คือ เวิร์นเนอร์ ไฮเซนเบิร์ก ทั้งในเรื่องเกี่ยวกับฟิสิกส์ควอนตัม และบทบาทของเขาเกี่ยวกับการสร้างระเบิดอะตอม ที่มีการกล่าวว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะ เวิร์นเนอร์ ไฮเซนเบิร์ก โครงการแมนฮัตตันสร้างระเบิดอะตอมของสหรัฐอเมริกาก็ไม่เกิดขึ้น !”

กำเนิดที่มาของ “ฟิสิกส์ควอนตัม”
กำเนิดของฟิสิกส์ควอนตัมมิได้เริ่มต้นกับ เวิร์นเนอร์ ไฮเซนเบิร์ก !
จุดกำเนิดของฟิสิกส์ควอนตัมจริง ๆ เริ่มต้นกับ มักซ์ พลังค์ (Max Planck : ค.ศ. 1858-1947) ในปี ค.ศ. 1900 กับการศึกษาการแผ่รังสีของวัตถุดำ (black-body radiation) และพลังค์ เป็นคนตั้งคำ “quantum” หรือ “ควอนตัม” ขึ้นมาจากรากศัพท์ภาษาละตินแปลว่า “เป็นท่อน ๆ” หมายถึงลักษณะของพลังงานในเชิงควอนตัมจะมีลักษณะเป็น “ท่อน ๆ” มิใช่แบบ “ต่อเนื่อง” ดังฟิสิกส์คลาสสิกที่ใช้กันตลอดมา
แล้วทำไมสหประชาชาติจึงกำหนดให้ปี 2525 เป็นปีเริ่มต้นของ “กลศาสตร์ควอนตัม”
คำตอบอย่างเร็ว ๆ คือ จากปี ค.ศ. 1900 ที่พลังค์ ตั้งทฤษฎีควอนตัมขึ้นมา ควอนตัมถูกใช้ในฐานะเป็น “ฟิสิกส์แบบใหม่” โดยแนวคิดหลักพื้นฐาน คือ การรับหรือปลดปล่อยพลังงาน ดังเช่นของวัตถุดำ (หมายถึง วัตถุที่ดูดกลืนพลังงานทั้งหมดอย่างสมบูรณ์ และปลดปล่อยออกมาอย่างสมบูรณ์) ในลักษณะแบบเป็น “ควอนตัม” หรือ “ท่อน ๆ” มิใช่อย่างต่อเนื่อง
ตามมาด้วย “แบบจำลองอะตอมเชิงควอนตัม” ของ นีลส์ บอร์ (Niels Bohr : ค.ศ. 1885-1962) ที่กำหนดให้อิเล็กตรอนเคลื่อนที่ในตำแหน่งจำเพาะเป็นชั้น ๆ แน่นอนรอบนิวเคลียส และการเปลี่ยนตำแหน่งที่อยู่ของอิเล็กตรอน จะเกิดได้เฉพาะเมื่ออิเล็กตรอน “รับ” หรือ “ปล่อย” พลังงานออกมาเป็น “ท่อนพลังงาน” เท่ากับความต่างของระดับชั้นพลังงานเก่าที่อิเล็กตรอนอยู่ กับระดับชั้นพลังงานใหม่ที่อิเล็กตรอนไปอยู่
แล้วจึงมาถึงบทบาทของ เวิร์นเนอร์ ไฮเซนเบิร์ก ในปี ค.ศ. 1925 ที่เริ่มต้นจากความคิดเกิดขึ้นในขณะกำลังอยู่ที่เกาะเฮลโกแลนด์ แล้วต่อมาจึงเกิดเป็นกลศาสตร์ควอนตัมแบบเมทริกซ์
อย่างเป็นรูปธรรม กลศาสตร์เมทริกซ์ของไฮเซนเบิร์ก อาจเปรียบเสมือนกับ กฎการเคลื่อนที่ข้อที่สองของนิวตัน ซึ่งก่อนจะมีกฎข้อนี้ นักวิทยาศาสตร์รู้จัก แรง, มวล และความเร่งของการเคลื่อนที่ของวัตถุ แต่ก็ไม่สามารถนำความรู้นี้ไปสร้าง “สิ่งใหม่ ๆ” ได้ จนกระทั่ง นิวตัน สร้างกฎการเคลื่อนที่ข้อที่สอง F=ma ขึ้นมา นักวิทยาศาสตร์และนักเทคโนโลยีจึงสามารถนำความสัมพันธ์ของ แรง, มวล และความเร่ง ไปสร้างหรือทำให้เกิดเทคโนโลยีที่นำไปใช้งานหรือประโยชน์ได้จริง
เช่นเดียวกัน จากความรู้เกี่ยวกับ “ควอนตัม” ที่เริ่มจากทฤษฎีควอนตัมของ พลังค์ ซึ่ง บอร์ ก็นำไปใช้ในการสร้างแบบจำลองอะตอมเชิงควอนตัม…
แต่ก็เพราะการสร้าง กลศาสตร์ควอนตัม ของ ไฮเซนเบิร์ก จึงเปรียบเป็นการตั้งกฎข้อที่สองของนิวตัน ทำให้นักวิทยาศาสตร์และนักเทคโนโลยีสามารถนำความรู้เกี่ยวกับ “ควอนตัม” ไปใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมได้จริง...
วงการวิทยาศาสตร์และสหประชาชาติด้วย ก็จึงถือว่า กลศาสตร์ควอนตัมของ ไฮเซนเบิร์ก เป็นต้นกำเนิดของ “วิทยาศาสตร์ควอนตัม” อย่างเป็นรูปธรรม และทำให้ “เทคโนโลยีควอนตัม” กำเนิดขึ้นได้จริง
ดังนั้น เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ค.ศ. 2024 ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ จึงมีมติประกาศให้ 2025 เป็นปีสากลแห่งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควอนตัม เพื่อสร้างความตระหนักในบทบาทและความสำคัญของวิทยาศาสตร์ควอนตัมและเทคโนโลยีควอนตัม

ไฮไลต์ “2025 ปีสากลแห่งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควอนตัม”
ทั่วโลกตลอดทั้งปี ค.ศ. 2025 มี...หรือจะมี...กิจกรรมเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควอนตัมเกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในประเทศที่เป็นแหล่งกำเนิดวิทยาศาสตร์ควอนตัม หรือเป็นสถานที่มีความสำคัญต่อการก่อกำเนิดและการพัฒนาวิทยาศาสตร์ควอนตัม
สำหรับ “เรา” วันนี้ ผู้เขียนขอยก 2 กิจกรรม ที่ผู้เขียน “คัด” มาเล่าสู่ท่านผู้อ่าน คือ (1) “พิธีเปิด” ที่กรุงปารีส และ (2) การประชุมเชิงปฏิบัติการ “เฮลโกแลนด์ 2025”
หนึ่ง : พิธีเปิด “2025 ปีสากลแห่งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควอนตัม”
พิธีเปิด “2025 ปีสากลแห่งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควอนตัม” จัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ยูเนสโก (UNESCO) ในกรุงปารีส วันที่ 4-5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2025
ยูเนสโกเป็นหน่วยงานหลักขององค์การสหประชาชาติ สำหรับการบริหารจัดกิจกรรมต่าง ๆ ทั่วโลก “2025 ปีสากลแห่งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควอนตัม” บุคคลสำคัญในวงการวิทยาศาสตร์ไปร่วมงานกันอย่างคับคั่ง แต่สำหรับนักวิทยาศาสตร์ดังเช่นผู้เขียนเอง ไฮไลต์ที่อยากไปร่วมงานด้วย คือ ไปฟังการบรรยายโดยนักวิทยาศาสตร์ควอนตัมในพิธีเปิดนี้ ซึ่งมีนักวิทยาศาสตร์ระดับรางวัลโนเบลเป็นผู้บรรยายรวม 6 คน เช่น
• แอนท์ ลูอิลิเยร์ (Anne L’ Huillier) จากสวีเดน ได้รับรางวัลโนเบลฟิสิกส์ประจำปี ค.ศ. 2023 สำหรับผลงานฟิสิกส์ระดับอัตโตวินาที (attosecond)
• บิลล์ ฟิลลิปส์ (Bill Phillips) จากสหรัฐอเมริกา ได้รับรางวัลโนเบลฟิสิกส์ประจำปี ค.ศ. 1997 สำหรับผลงานการพัฒนาวิธีการใช้เลเซอร์ทำให้อะตอมเย็นและจับอะตอมได้
• อเลน อัสแปต์ (Alain Aspect) จากฝรั่งเศส ได้รับรางวัลโนเบลฟิสิกส์ประจำปี ค.ศ. 2022 สำหรับผลงานเกี่ยวกับการพัวพันเชิงควอนตัมของ โฟตอน (entangled photon) ผลงานบุกเบิกการถ่ายทอดข้อมูลข่าวสารเชิงควอนตัม
ในพิธีเปิด มีนิทรรศการ, การสาธิต, การบรรยาย, การประชุมกลุ่มและการประชุมเชิงปฏิบัติการมากมาย โดยโฟกัสที่ 3 เป้าหมายใหญ่ คือ
(1) การให้ความรู้ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ควอนตัม
(2) การประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์ควอนตัม คือ เทคโนโลยีควอนตัม ที่กำลังเกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน และที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคต
(3) การสร้างความตระหนักในบทบาทและผลกระทบ รวมถึงเรื่องของจริยธรรมในการใช้และพัฒนาเทคโนโลยีควอนตัม

สอง : การประชุมเชิงปฏิบัติการ “เฮลโกแลนด์ 2025”
ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2025 กิจกรรมหนึ่งสำหรับ “2025 ปีสากลแห่งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควอนตัม” ที่ได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ คือ การประชุมเชิงปฏิบัติการ “เฮลโกแลนด์ 2025” (Workshop : Helgoland 2025) ระหว่างวันที่ 9-14 มิถุนายน ค.ศ. 2025 เพื่อฉลอง 100 ปี กำเนิดกลศาสตร์ควอนตัมของ ไฮเซนเบิร์ก
Helgoland เป็นคำภาษาเยอรมันแปลว่า “Holy Land” (ดินแดนศักดิ์สิทธิ์) เป็นเกาะขนาดเล็กมีพื้นที่เพียง 1.7 ตร.กม. มีประชากร 1,307 คน (วันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 2020) อยู่ห่างจากฝั่งแผ่นดินใหญ่ 46 กม. อยู่ห่างจากเมืองใหญ่ ฮัมบูร์ก (Hamburg) 155 กม.
กิจกรรม “เฮลโกแลนด์ 2025” หลัก ๆ จะประกอบด้วย การบรรยาย , การประชุมกลุ่ม หรือการประชุมเชิงปฏิบัติการ และการแสดงผลงานในรูปแบบของโปสเตอร์
ไฮไลต์สำคัญ คือ การพบปะและฟังการบรรยายโดยนักฟิสิกส์รางวัลโนเบลอย่างน้อย 5 คน คือ
(1) เดวิด ไวน์แลนด์ (David Wineland) ชาวอเมริกัน ได้รับรางวัลโนเบลฟิสิกส์ประจำปี ค.ศ. 2012 สำหรับผลงานการพัฒนาวิธีการวัดและจัดการแต่ละระบบควอนตัม
(2) เซิร์จ ฮาโรช (Serge haroche) ชาวฝรั่งเศส ได้รับรางวัลโนเบลฟิสิกส์ประจำปี ค.ศ. 2012 ร่วมกับ เดวิด ไวน์แลนด์ สำหรับผลงานเดียวกัน
(3) อเลน อัสแปต์ นักฟิสิกส์รางวัลโนเบลที่ไปร่วมพิธีเปิดงาน “2025 ปีสากลแห่งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควอนตัม” ที่กรุงปารีส
(4) จอห์น เคลาเซอร์ (John Clauzer) ชาวอเมริกัน ได้รับรางวัลโนเบลในปีเดียวกัน และสำหรับผลงานร่วมกันกับ อเลน อัสแปต์
(5) อันตวน ไซลิงเกอร์ (Anton Zeilinger) ชาวออสเตรีย ได้รับรางวัลโนเบลในปีเดียวกัน และสำหรับผลงานร่วมกันกับ อลัน แอสแปต์ และ จอห์น เคลาเซอร์
กิจกรรม “เฮลโกแลนด์ 2025” เริ่มวันที่ 9 มิถุนายน ค.ศ. 2025 โดยการบรรยายที่โรงแรมในเมืองฮัมบูร์ก เช้าวันที่ 10 มิถุนายน เดินทางโดยเรือเฟอร์รี ไปสู่เกาะ เฮลโกแลนด์
วันที่ 10-14 มิถุนายน ร่วมกิจกรรมบนเกาะเฮลโกแลนด์ แล้วเดินทางกลับโดยเรือเฟอร์รีสู่แผ่นดินใหญ่ และเมืองฮัมบูร์ก วันที่ 14 มิถุนายน
เนื่องจากเฮลโกแลนด์เป็นเกาะขนาดเล็ก มีโรงแรมและที่พักจำกัด แต่ก็มีพื้นที่สำหรับตั้งแคมป์พักส่วนตัวได้

ไฮเซนเบิร์กกับรางวัลโนเบลและฮิตเลอร์
ไฮเซนเบิร์ก เสนอ กลศาสตร์ควอนตัมแบบเมทริกซ์ของเขาในขณะมีอายุเพียง 23 ปี ในปี ค.ศ. 1925 สองปีต่อมา คือในปี ค.ศ. 1927 ไฮเซนเบิร์กก็เสนอ “The Uncertainty Principle” หรือ “หลักความไม่แน่นอน” ซึ่งมีสาระสำคัญว่า เราไม่สามารถจะวัด “ตำแหน่ง” และ “โมเมนตัม” ของอนุภาคใด ๆ ให้ได้อย่างแม่นยำตามใจชอบ กล่าวคือ ถ้าเราจะวัดตำแหน่งของอนุภาคให้ได้อย่างแม่นยำ เราก็จะต้องสูญเสียความแม่นยำในการวัดโมเมนตัม ทั้งนี้ มิได้ขึ้นอยู่กับเครื่องมือหรือวิธีการวัด แต่เป็น “สมบัติเชิงควอนตัม” ของอนุภาคเอง
จากสองผลงานนี้ ทำให้ไฮเซนเบิร์กได้รับรางวัลโนเบลฟิสิกส์ประจำปี ค.ศ. 1932 ในขณะมีอายุเพียง 31 ปี และเป็นนักฟิสิกส์หนุ่มที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศเยอรมนี และของโลก
ต่อมา ฮิตเลอร์ ขึ้นมามีอำนาจในเยอรมนี ปี ค.ศ. 1933 และโลกวิทยาศาสตร์ก็สะเทือน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเยอรมนี
นักฟิสิกส์เชื้อสายยิว ดังเช่น มักซ์ บอร์น (Max Born : ค.ศ. 1882-1970) ผู้เป็นอาจารย์ของ ไฮเซนเบิร์ก รวมทั้งของ โรเบิร์ต เจ. ออปเปนไฮเมอร์ (Robert J. Oppenheimer) ด้วย ก็ต้องหนีออกจากเยอรมนี
แล้วสงครามโลกครั้งที่สองก็ระเบิดขึ้นในปี ค.ศ. 1939 เปิดฉากการแข่งขันระหว่างฝ่ายสัมพันธมิตรกับเยอรมนี ในการสร้างระเบิดอะตอม
ทางฝ่ายสัมพันธมิตร ประเทศอังกฤษมีโครงการสร้างระเบิดอะตอมอย่างลับ ๆ เดินหน้าอย่างช้า ๆ เพราะภาวะสงครามระหว่างอังกฤษกับเยอรมนี
จนกระทั่งโครงการแมนฮัตตันเพื่อสร้างระเบิดอะตอมของฝ่ายสัมพันธมิตร นำโดยสหรัฐอเมริกาเกิดขึ้น มี ออปเปนไฮเมอร์เป็นหัวหน้าโครงการฝ่ายนักวิทยาศาสตร์ ประสบความสำเร็จในปี ค.ศ. 1945 กับการทดลองระเบิดอะตอมลูกแรกของโลก กับปฏิบัติการ “ทรินิตี” (Trinity) เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 1945

ไฮเซนเบิร์กกับระเบิดอะตอม
แล้วไฮเซนเบิร์กเกี่ยวข้องกับเรื่องการสร้างระเบิดอะตอมอย่างไร ?
มีการกล่าวกันว่า “ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะไฮเซนเบิร์ก โครงการแมนฮัตตันก็ไม่เกิดขึ้น” แม้แต่กับจดหมายจากไอน์สไตน์ถึงประธานาธิบดี แฟรงคลิน ดี. รูสเวลต์ ลงวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1939 ซึ่งก็ไม่มีการเอ่ยชื่อของ ไฮเซนเบิร์ก เลย และโครงการแมนฮัตตัน ถูกตั้งขึ้นมาอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 13 สิงหาคม ค.ศ. 1942 หลังจดหมายลงชื่อโดย ไอน์สไตน์ ถึงประธานาธิบดีรูสเวลต์เป็นเวลาถึงสามปี
คำตอบสำหรับบทบาทของไฮเซนเบิร์กในการสร้างระเบิดอะตอม ซึ่งจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ที่ไฮเซนเบิร์กได้จากโลกไปแล้วเป็นเวลา 49 ปี (ไฮเซนเบิร์กมีชีวิตอยู่ระหว่างปี ค.ศ. 1901-1976) ก็ยังเป็นประเด็นถกเถียงกันอยู่ เพราะมีทั้งข้อมูลเก่าและใหม่ที่เพิ่งเปิดเผยหรือรับทราบกัน ตั้งแต่การยุติของสงครามโลกครั้งที่สองในปี ค.ศ. 1945 และประเด็นถกเถียงกันในหนังสือเบื้องหลังการสร้างระเบิดอะตอมของทั้งฝ่ายสหรัฐอเมริกา และฝ่ายเยอรมนี ที่แพร่หลายรู้จักกันมากที่สุดเล่มหนึ่ง คือ Brighter Than A Thousand Suns โดยนักเขียนชาวออสเตรีย โรเบิร์ต ยังค์ (Robert Jungk) ตีพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษครั้งแรกในปี ค.ศ. 1958 ซึ่งยกให้ ไฮเซนเบิร์กเป็นฮีโร่ของฝ่ายไม่อยากเห็นฮิตเลอร์มีระเบิดอะตอม แต่ก็ทำให้ ไฮเซนเบิร์กไม่สบายใจนักกับบทบาทของเขาตามปรากฏในหนังสือ
สำหรับวันนี้ ประมวลจากข้อมูลต่าง ๆ ที่ผู้เขียนได้ศึกษา ผู้เขียนขอสรุปอย่างสั้น ๆ ว่า สำหรับคำกล่าว “ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะไฮเซนเบิร์ก โครงการแมนฮัตตันก็ไม่เกิดขึ้น” นั้น ไม่ถูกไปเสียทั้งหมด แต่ก็ไม่ผิดไปเสียทั้งหมดเช่นกัน เพราะจุดเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวสำหรับการสร้างระเบิดอะตอมของฝ่ายสหรัฐอเมริกา ก็คือ จดหมายของไอน์สไตน์ถึงประธานาธิบดีรูสเวลต์ แต่โครงการแมนฮัตตันมิได้เกิดขึ้นอย่างทันที เพราะประธานาธิบดีรูสเวลต์ก็ฟังไอน์สไตน์อย่างจริงจัง และก็สั่งการให้มีการดำเนินการอย่างรวดเร็วในการตรวจสอบข้อมูลและความเป็นไปได้ตามที่ไอน์สไตน์ระบุในจดหมาย ซึ่งก็เป็นการดำเนินงานอย่างรวดเร็วในเชิงลับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การระดมความคิดของนักวิทยาศาสตร์ชั้นยอดของฝ่ายสัมพันธมิตรว่า การสร้างระเบิดอะตอมจะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ และที่ได้ข้อมูลอย่างเด่นชัด ก็คือ โครงการสร้างระเบิดอะตอมของเยอรมนี เริ่มต้นมาตั้งแต่ก่อนการระเบิดขึ้นของสงครามโลกครั้งที่สอง โดยที่ชื่อของ ไฮเซนเบิร์กก็ถูกชี้เป้าว่าเป็น “หัวหอก” สำคัญของการสร้างระเบิดอะตอมของเยอรมนี ถึงแม้ในข้อเท็จจริง ไฮเซนเบิร์กจะมิได้เป็นหัวหน้าฝ่ายนักวิทยาศาสตร์เยอรมันในการสร้างระเบิดอะตอม แบบเดียวกับออปเปนไฮเมอร์ เพราะเยอรมนีมิได้มีโครงการสร้างระเบิดอะตอมเพียงโครงการเดียว และก็มีการแข่งขัน-ปกปิดข้อมูล-กันเองด้วย
แต่ภาพรวมที่ปรากฏ โครงการสร้างระเบิดอะตอมของเยอรมนีมีจริง และมีไฮเซนเบิร์กเป็นกำลังสำคัญ หรือเป็นนักวิทยาศาสตร์คนสำคัญของโครงการสร้างระเบิดอะตอมของเยอรมนีจริง ดังนั้น ถึงขณะนี้ ผู้เขียนจึงขอสรุปยืนยันว่า มิใช่เป็นเพราะไฮเซนเบิร์ก โครงการแมนฮัตตันจึงเกิดขึ้น แต่ไฮเซนเบิร์กก็มีส่วนอย่างสำคัญผลักดันให้โครงการแมนฮัตตันเกิดขึ้น

เรื่องราวชีวิต , ความคิดและบทบาทของไฮเซนเบิร์ก ทั้งในโลกวิทยาศาสตร์จริง ๆ และสงครามโลกครั้งที่สอง น่าสนใจและน่าศึกษาอย่างยิ่ง แต่สำหรับวันนี้ ผู้เขียนคงเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับไฮเซนเบิร์กได้เพียงเท่านี้
ถ้าถามต่อไปว่า สำหรับผู้เขียนแล้ว อยากไปร่วมกิจกรรม “2025 ปีสากลแห่งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควอนตัม” ที่ไหนมากที่สุด ผู้เขียนก็มีคำตอบทันที คือ อยากไปที่เกาะเฮลโกแลนด์ ไปดูจุดที่ไฮเซนเบิร์กปีนเขาเวลาตีสาม เพื่อรอดูดวงอาทิตย์ขึ้นจากขอบน้ำ
แล้วท่านผู้อ่านล่ะครับ สนใจเรื่องชาวฟิสิกส์ควอนตัมหรือไม่ ? แค่ไหน ? และอยากไปร่วมกิจกรรมสำหรับ “2025 ปีสากลแห่งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควอนตัม” ที่ไหน...อะไร...และอย่างไร ?
อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech