โค้งสุดท้ายของเลือกตั้ง อบจ. ได้มาถึงแล้ว ผู้สมัครทุกพรรคทุกกลุ่มต่างตบเท้าออกหาเสียงทิ้งทวนก่อนการเลือกตั้งจะมาถึง โดยเฉพาะบรรดาหัวเมืองใหญ่ที่มีความดุเดือดมากเป็นพิเศษ สืบเนื่องมาจากการมาของบ้านใหม่ที่หวังจะช่วงชิงคะแนนความนิยมจากบ้านใหญ่ยึดพื้นที่มาเป็นของตัวเอง รวมไปถึงการทวงคืนที่จากความพ่ายแพ้ที่เคยได้รับเมื่อ 4 ปีที่แล้ว
เราจึงได้เห็นบรรดาแกนนำจากพรรคใหญ่ลงพื้นที่หาเสียงกันแบบเต็มตัว ให้ความสำคัญในทุกพื้นที่ เพราะการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นในครั้งนี้ อาจเป็นหมุดหมายสำคัญในของการเลือกตั้งใหญ่ในอนาคต ดังนั้นเพื่อให้ติดตามการเลือกตั้ง อบจ. อย่างมีสีสันมากยิ่งขึ้น จึงอยากจะชวนทุกคนมาจับตาศึกบ้านใหญ่ ปะทะ บ้านใหม่ ใน 3 พื้นที่ยุทธศาสตร์จากทั่วประเทศ
เชียงใหม่ เพื่อไทยปะทะประชาชน
เป็นที่ทราบกันดีว่าภาคเหนือคือฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย แต่จากการเลือกตั้งใหญ่ครั้งที่ผ่านมากลับพลาดท่าเสียทีให้พรรคประชาชนกวาด สส. ไปได้ถึง 7 ที่นั่ง (จาก 10 ที่นั่ง) ดังนั้นการกลับมาช่วงชิงพื้นที่ผ่านการเลือกตั้งท้องถิ่นคือบทพิสูจน์สำคัญวัดความนิยมของพรรคเพื่อไทยว่าเสื่อมมนต์ขลังไปแล้วหรือยัง
ส่วนพรรคประชาชนอาจจะต้องหวังพึ่งพลังเสียงจากคนรุ่นใหม่ เพื่อล้มแชมป์เก่าเจ้าถิ่น ซึ่งบอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการเลือกตั้งท้องถิ่นนั้นไม่เหมือนกับการเลือกตั้งใหญ่ มีกลไลบ้านใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้อง ไหนจะการลงพื้นที่แบบเต็มตัวของ ทักษิณ ชินวัตร เดินสายขอคะแนนเสียงในฐานะอดีตนายกอู้กำเมือง สุดท้ายแล้วชัยชนะจะอยู่ที่ใคร ต้องติดตามกันให้ดี
นครพนม วัดขุมกำลังพรรคร่วมรัฐบาล
เลือกตั้ง อบจ. ครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยเผชิญศึกรอบด้าน นอกจากศึกกับฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาชนแล้ว ก็ต้องเผชิญหน้ากับพรรคร่วมรัฐบาลอย่างภูมิใจไทย โดยศึกนี้เป็นการทวงคืนพื้นที่สีแดงกลับคืนสู่อ้อมกอดอีกครั้ง เพราะเคยเสียทีให้กับนายกขวัญ ศุภพานี โพธิ์สุ เมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา
โดยนายกขวัญนั้นเป็นบุตรสาวของนายศุภชัย โพธิ์สุ อดีต สส.นครพนม เขต 1 พรรคภูมิใจไทย ดังนั้นจึงเป็นที่ทราบกันดีกว่านครพนมในตอนนี้คือพื้นที่ของพรรคสีน้ำเงินที่พรรคสีแดงพยายามจะทวงคืนให้ได้ สังเกตได้จากการลงพื้นที่ขอคะแนนกันทั้งนายก และอดีตนายก เรียกได้ว่าทุ่มสุดตัว หวังให้นครพนมเป็นพื้นที่สีแดงอีกครั้ง
พิจิตร ศึกสายเลือด ภัทรประสิทธิ์
นอกจากศึกระหว่างพรรคแล้ว ศึกระหว่างตระกูลที่น่าจับตามองก็มีเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะที่จังหวัดพิจิตรเกิดการปะทะกันเองของบ้านใหญ่ตระกูลภัทรประสิทธิ์ สืบเนื่องมาจากศึกภายในระหว่าง พ.ต.อ.กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ อดีตนายก อบจ. พิจิตร กับ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย ผู้เคยให้การสนับสนุนกันมาตั้งแต่การเลือกตั้ง อบจ. เมื่อปี 63
ผลของความคัดแย้งทำให้การเลือกตั้งในครั้งนี้ พ.ต.อ.กฤษฎา ในฐานะแชมป์เก่าจึงรวมกลุ่มกับผู้สนับสนุนกลุ่มใหม่หวังยึดฐานที่มั่นเดิมให้ได้เป็นสมัยที่ 2 ส่วนนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ ได้หันไปให้การสนับสนุนนายกฤษฏ์ เพ็ญสุภา ผู้มีศักดิ์เป็นหลานชาย ใช้กระแสความเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่มาล้มแชมป์เก่า
เรียกได้ว่าไม่น่าพลาดทุกสมรภูมิ ทุกพื้นที่ต่างมีเดิมพันสูง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่ต้องพยายามนำมาเป็นของตัวเองให้ได้ ดังนั้นขอให้จับตาดูให้ดีว่างานนี้ใครจะสมหวังใครจะผิดหวัง ส่วนประชาชนผู้ใช้สิทธิใช้เสียงอย่างเรา ๆ ก็ต้องคาดหวังกันต่อว่าผู้ได้รับเลือกจะทำตามสัญญาที่ได้ให้ไว้
ติดตามข่าวและเช็กผลคะแนนเลือกตั้ง อบจ. ทั่วประเทศ ทางเว็บไซต์ https://www.thaipbs.or.th/localelection