มาตรการขึ้นรถไฟฟ้าและรถเมล์ฟรี จูงใจให้ประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวและหันมาเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค.และจะสิ้นสุดมาตรการในวันที่ 31 ม.ค.นี้ โดยกระทรวงคมนาคมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอขยายวงเงินจากงบกลาง นำมาจ่ายชดเชยให้กับเอกชนเดินรถ เพิ่มจาก 140 ล้านบาทเป็น 190 ล้านบาท
วันนี้ (30 ม.ค.2568) นายสุทธิพงษ์ บุญนิธิ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ในฐานะโฆษกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ระบุว่า โครงการนี้จะเป็นหนึ่งในโครงการของปีงบประมาณ 2568 ที่ สตง.จะเข้าไปตรวจสอบ แม้รัฐบาลจะมีเจตนาดี แต่การเบิกจ่ายงบประมาณรัฐจะต้องดำเนินการตามวัตถุประสงค์ และต้องมีตัวชี้วัดที่ประเมินผลได้ชัดเจนว่างบประมาณที่เบิกจ่ายไปสามารถแก้ปัญหาได้จริงและสมเหตุสมผล
ไม่มีอะไรฟรี รถไฟฟรี รถไฟฟ้าฟรี มันไม่ได้ฟรี แม้ไม่ได้จ่ายจากเรา แต่จ่ายจากเงินของแผ่นดิน เป็นเงินของประชาชนทั้งชาติ เอาเงินของรัฐบาลมาจ่ายแทน
โฆษกระบุอีกว่า งบประมาณ 140 ล้านบาทคือเงินที่รัฐบาลจ่ายแทน เพื่อชดเชยให้คนที่คิดจะทำดี คิดดี ไม่เป็นต้นเหตุในการปล่อยควันพิษ ให้เดินทางผ่านระบบรถโดยสารและรถไฟฟ้า
ขณะเดียวกัน สตง.ยังเปิดเผยผลการตรวจสอบการใช้งบประมาณโครงการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ของหน่วยงานภาครัฐ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2562-2567 จำนวน 6 โครงการ พบว่ามีข้อบกพร่อง ทำให้การใช้งบประมาณไม่เกิดประสิทธิผลและไม่คุ้มค่า และบางมาตรการล่าช้าไม่เกิดผลเป็นรูปธรรม เช่น โครงการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน, โครงการสร้างเครือข่ายควบคุมไฟป่า งบประมาณ 98.40 ล้านบาท และงบฯ อบรมให้ความรู้สมาชิก 27.10 ล้านบาท ขาดการติดตามประเมินผลการดำเนินงาน ทำให้การแก้ปัญหาไฟฟ้าไม่เกิดผลสัมฤทธิ์
ปีงบประมาณ 2564 ตรวจสอบกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและแก้ปัญหาไฟป่า งบประมาณ 47.60 ล้านบาท พบกิจกรรมลาดตระเวนป้องกันและดับไฟป่า จ้างดำเนินการช่วงที่เกิดไฟป่าน้อย เช่น ฤดูฝน กิจกรรมปลูกป่าเพิ่มพื้นที่สีเขียว ปลูกในพื้นที่ไม่เหมาะสม
โครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปี จ.เชียงใหม่ ปีงบประมาณ 2564-2567 งบประมาณ 43.61 ล้านบาท, โครงการบูรณาการสิ่งแวดล้อมและสาธารณภัย ปีงบประมาณ 2566 กลุ่ม "จังหวัดภาคเหนือตอนบนสอง" งบประมาณ 41.87 ล้านบาท, โครงการแก้ปัญหา PM2.5 ในกรุงเทพมหานคร งบประมาณ 435.46 ล้านบาท พบว่าการตรวจวัดคุณภาพอากาศไม่ต่อเนื่อง ทำให้ข้อมูลที่ตรวจวัดมีปัญหา
นอกจากนี้ยังพบว่าโครงการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ในภาคเกษตร โดยเฉพาะมาตรการลดการเผาอ้อย ไม่บรรลุเป้าหมาย ตั้งแต่ฤดูการผลิต 2562/63 ถึงปี 2566/67 โดยพบว่าอ้อยไฟไหม้ยังมีสัดส่วนสูงถึง 29.64% ส่วนการจ่ายเงินสนับสนุนเกษตรกรตัดอ้อยสด ใช้งบประมาณกว่า 20,000 ล้านบาท แต่พบว่าเกษตรกรที่ได้รับเงินสนับสนุนบางส่วนยังคงเผาอ้อยต่อในฤดูกาลผลิตถัดไป
อ่านข่าว
"นายกฯ" สั่ง "คมนาคม" ให้ประชาชนขึ้น "รถไฟฟ้า - รถ ขสมก." ฟรี 7 วัน พรุ่งนี้