“บิ๊ก สตง.” โผล่แจ้งปมตึกถล่ม ผิดหวังซ้ำสอง “โลกสวย” อื้อ

แต่การสื่อสารต่อสาธารณชนครั้งนี้ ถือเป็นไฟลท์บังคับไม่ใช่เจตนา เพราะเป็นผลจากไปแจกแจงต่อกรรมาธิการของสภาฯ การบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.พรรคประชาชน เป็นประธาน ได้เรียกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้บริหารสตง.เข้าชี้แจง นำโดย นายสุทธิพงษ์ บุญนิธิ รองผู้ว่าฯ ในฐานะโฆษก สตง. พร้อมรองผู้ว่าฯ อีก 1 คนและทีมงาน

ส่วนผู้ว่าฯ นายมณเฑียร เจริญผล เป็นการเปิดใจครั้งแรก หลังจากสื่อพยายามขอสัมภาษณ์ หลังเสร็จพิธีสวดพระพุทธมนต์ให้กับผู้สูญเสีย ภายในไซต์งานของ สตง. ยืนยันว่า มาที่จุดเกิดเหตุทุกวัน เดินผ่านหน้าผู้สื่อข่าว ที่ไปรอทำข่าวการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกวัน

นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)

แต่แปลกที่ไม่เคยเปิดตัวให้สัมภาษณ์ใด ๆ เลย ทั้งที่ญาติผู้สูญเสียและผู้คนทั่วไปต่างเฝ้ารอคอย ครั้นจะอ้างว่า รอแถลงอย่างเป็นทางการทีเดียว รอให้คณะกรรมการสอบสวนของรัฐบาลแถลงก่อน ดูเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เพราะในฐานะเจ้าของโครงการ ความกล้าแสดงความรับผิดชอบ น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด

อย่างไรก็ตาม จากถ้อยคำแจกแจงทั้งต่อที่ประชุม กมธ. ติดตามงบประมาณ และคำให้สัมภาษณ์สื่อของผู้ว่าฯ จะว่าไปแล้ว นับว่าเป็นความผิดหวังซ้ำสอง และน่าจะสร้างความชอกช้ำให้กับผู้คนที่รอคอยคำตอบจาก สตง.เสียมากกว่า เรื่องลับลมคมใน เรื่องความล่าช้า ปมปัญหา รวมทั้งพยายามอ้างเรื่องเทคนิคที่คนทั่วไปไม่เข้าใจ

ปมปัญหาทั้งขยายเวลาสร้างหลายครั้ง และหนึ่งในข้ออ้างยอดนิยม คือโควิด 19 แพร่ระบาด แต่คืบหน้ากลับช้ามาก กระทั่งกลางเดือนมีนาคม งานควรจะได้ 86 เปอร์เซ็นต์ กลับได้เพียง 33 เปอร์เซ็นต์ กระทั่งกลางเดือนมกราคม 2568 คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ มีมติให้บอกเลิกสัญญา แต่อยู่ระหว่างเสนอผู้บริหารที่ต้องเปลี่ยนชุดใหม่ จึงยังไม่ได้ยกเลิก

แปลกที่เรื่องแบบนี้ ไม่มีการบอกกล่าวแพร่งพรายสู่ภายนอกเพื่อเป็นแบบอย่าง ในฐานะ สตง.คือผู้ตรวจสอบการใช้จ่ายงบของหน่วยงานรัฐบาล เมื่อไม่ถูกต้องโปร่งใส ต้องยกเลิก

มิหนำซ้ำ ในคำชี้แจงกลับบอกว่า พอรู้จะถูกยกเลิกสัญญาปั๊บ มีเกณฑ์คนมาทำงานกันยกใหญ่ จึงน่าแปลกใจที่เมื่อมีมติให้บอกเลิกสัญญาแล้ว ไฉนให้ทำต่อ โดยใคร ไม่เพียงเท่านั้น ยังอ้างว่าดีใจ เพราะผู้ได้รับการว่าจ้างคือ บริษัท อิตาเลียนไทย หนึ่งในยักษ์ใหญ่แถวหน้าของประเทศ มีทั้งทุนทั้งเทคโนโลยี แต่ในการแจงต่อ กมธ. กลับอ้างว่า ไม่เคยรู้เรื่องบริษัทจีน ที่มาร่วมลงทุน เพราะ บริษัท อิตาเลียนไทยออกหน้ามาตลอด

คำแจกแจงยังอ้างถึงงบลงทุนก่อสร้าง ต่ำกว่าราคากลางที่ตั้งไว้ประมาณ 2,500 กว่าล้านบาท ช่วยรัฐบาลประหยัดงบได้มาก โดยไม่ได้ดูปัจจัยอื่นประกอบ อย่างประเด็นมาตรฐานวัสดุที่ใช้ เช่น เหล็ก ที่ส่วนหนึ่งตรวจสอบว่าต่ำกว่ามาตรฐาน รวมทั้งโอ่เรื่องจับมือกับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ประเทศไทย หรือ ACE นำโครงการนี้เป็นโครงการข้อตกลงคุณธรรม แต่ไม่ได้บอกว่า ผู้สังเกตุการณ์เข้าร่วมตรวจสอบได้ หลังจาก สตง. คัดเลือกผู้รับเหมา ผู้ควบคุมงาน และมี TOR พร้อมแบบก่อสร้างแล้ว

ไม่นับรวม เรื่องที่พยายามบอกว่า สตง.ส่งเจ้าหน้าที่ไปเป็นเจ้าภาพร่วมงานศพกับครอบครัวผู้สูญเสียทุกราย รวมทั้งส่งคนไปเยี่ยมให้กำลังใจผู้บาดเจ็บทุกรายที่โรงพยาบาล แล้วญาติ ๆ ต่างเข้าใจว่าเป็นเรื่องอุบัติเหตุ ไม่ได้ตั้งใจ เสมือนเป็นเรื่องเวนพรรม ไม่ต่างจาก สสส.และเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ได้เคยพยายามรณรงค์สู้กับคติความเชื่อของญาติ ๆ ที่ว่า คนตายจากอุบัติเหตุจากดื่มเหล้าเมาแล้วขับ เพราะทำบุญมาน้อย ซึ่งไม่ใช่ตรรกะที่ถูกต้อง แต่เป็นเรื่องคนอื่นประมาท

ส่วนอุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ เกรดดีราคาแพง ด้วยเหตุผลระดับ ผู้ว่า สตง.เทียบเท่ารัฐมนตรี ระดับรองผู้ว่าฯ เทียบเท่าระดับอธิบดี จึงต้องเลือกที่เหมาะสมกับตำแหน่ง ยิ่งสะท้อนให้เห็นวิธีคิดแบบโบราณ ทั้งยังฝันถึงตึกหลังใหม่ มูลค่าใกล้เคียงเดิม แต่จะสร้างเป็นแนวนอน แทนการสร้างเป็นอาคารสูง 30 ชั้น ด้วยเหตุที่มีเจ้าหน้าที่ถึง 4 พันคน

แต่จะฟังขึ้นแค่ไหนเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะกิจการเอกชนทั่วไป หรือบางหน่วยงานของรัฐเอง ก็มีสถานที่ทำงานจำกัด เพราะจะตัดสินกันที่ผลงาน และประชาชนให้การยอมรับ มากกว่าที่ทำงานที่โอ่อ่าหรูหรา

โดยรวมแล้ว ยืนยันการสร้างอาคาร สตง.ถูกต้องตามขั้นตอน เป็นโครงการใหญ่ ต้องจ้างออกแบบและจ้างควบคุมงาน ส่วนเรื่องป้องกันแผ่นดินไหว ต้องไปถามผู้ออกแบบ ซึ่งเขาก็บอกว่าได้ทำแล้ว แต่ไม่วายตัดพ้อ เพราะถนนทุกสายวิ่งมาที่ สตง. แม้แมลงวันบินผ่านก็ด่าได้

ลืมไปว่าที่โดนวิพากษ์จนเป็นที่จอดรถทัวร์ แม้แมลงวันบินผ่านยังด่านั้น เป็นเพราะผลงานและความรับผิดชอบของคนในสตง.เสียมากกว่า

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส

อ่านข่าว : บีโอไอเพิกถอนใช้สิทธิประโยชน์ "ซิน เคอ หยวน" ชั่วคราว

ด่วน! กู้ภัยพบแสงไฟมือถือ ใต้ซากตึกโซน B อินฟราเรดสแกนมี 2 คน

เปิดภาพ "นักธุรกิจจีน" ร่วมงานลงนามก่อสร้างอาคาร สตง.