วันนี้ (10 เม.ย.2568) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยแผนการรื้อซากอาคาร สตง.เพื่อค้นหาผู้สูญหายในวันนี้จะเน้นใช้เครื่องจักรหนัก รื้อซากบริเวณจุดศูนย์กลาง ด้านบนสุด หรือโซน E ด้วยการเคลียร์เศษซากลงมาจากด้านบนให้ได้มากที่สุด และทั้งจุดระหว่างโซน B และ C ที่พบข้อมูลว่ามีผู้ติดค้างอยู่บริเวณนั้นอยู่ประมาณ 14 คน ประกอบกับเริ่มมีกลิ่นโชยออกมา
เครื่องมือสำคัญที่จะสามารถขึ้นไปรื้อซากด้านบนสุดได้คือรถแบคโฮขนาดใหญ่น้ำหนักประมาณ 120 ตัน ที่ได้เข้ามาสนับสนุนเคลื่อนย้าย และน่าจะสามารถช่วยเคลียร์พื้นที่ออกมาได้เร็วขึ้น เพราะมีช่วงแขนมีขนาดความยาว 30 เมตร เคลื่อนย้ายวัตถุด้านบนสุดออกได้ จะดำเนินการควบคู่กับการใช้เครื่องมือตัดเหล็ก
แต่การประกอบหรือเปลี่ยนอุปกรณ์อาจต้องใช้เวลา เพราะขณะนี้เป็นเครื่องมือเดียว ที่มีศักยภาพมากที่สุดในภารกิจรื้อถอนครั้งนี้
หลังจากที่ฝนตกลงมาเมื่อคืน นายชัชชาติยืนยันว่า ไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงาน ได้สั่งการให้สำนักการระบายเข้ามาตรวจวางระบบป้องกันความปลอดภัยแล้ว แต่อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดดินสไลด์ เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องเพิ่มความระมัดระวัง
ส่วนเจ้าหน้าที่กู้ภัยภาคพื้นพร้อมสุนัข K9 ยังคงต้องเข้าไปปฏิบัติงานอยู่ สลับกับการเดินเครื่องจักรหนัก เพราะเป็นส่วนสำคัญต่อการดมกลิ่นค้นหาผู้ติดค้างได้
ขณะที่ช่วงบ่ายวันนี้ได้นิมนต์พระสงฆ์จำนวน 103 รูปมาประกอบพิธีบริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงาน ญาติและผู้ประสบภัย
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น.ตัวเลขผู้เสียชีวิต 23 คน บาดเจ็บ 9 คน และอยู่ระหว่างการติดตาม 71 คน
ผู้ว่า สตง. เตรียมแถลง เหตุตึกถล่มหลังสงกรานต์
พล.อ.ชนะทัพ อินทามระ ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ระบุถึงกรณีตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ หรือ สตง. ถล่ม ขณะเกิดแผ่นดินไหว ตึกเดียวในประเทศไทยว่า หลังเกิดเหตุ สตง.ไม่ได้นิ่งนอนใจ รู้สึกเสียใจอย่างยิ่งกับความสูญเสียและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เตรียมแถลงข่าวอย่างเป็นทางการหลังเทศกาลสงกรานต์
พล.อ.ชนะทัพ อินทามระ ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน
พล.อ.ชนะทัพ อินทามระ ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน
พล.อ.ชนะทัพ ระบุว่า สาเหตุที่ผู้ว่า สตง. ออกมาชี้แจงช้า เนื่องจากต้องรอข้อมูลให้ถูกต้อง ทุกอย่างต้องมีความชัดเจนรอบคอบ หากชี้แจงเร็วผิดพลาดจะเกิดความเสียหาย ปกติ สตง.จะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบภายในอยู่แล้ว แต่เหตุการณ์ตึกถล่มที่เกิดขึ้นอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล จึงต้องใช้เวลาในการดำเนินการ เบื้องต้นจะต้องรอให้การตรวจสอบของรัฐบาลดำเนินการแล้วเสร็จ
จากนั้นทาง สตง.จะนำข้อมูลมาดำเนินการต่อ โดยตามกฎหมายคณะกรรมการมีอำนาจลงชื่อถอดถอนผู้ว่าฯ ได้ หากเกิดการทุจริตจะมีการรายงานให้ ป.ป.ช. ทราบ แต่ยอมรับว่าตามระเบียบใหม่ อำนาจในการตรวจสอบเป็นอำนาจของผู้ว่าฯ คณะกรรมการไม่สามารถก้าวก่ายได้
ขณะความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีบางส่วนเรียกร้องให้ ผู้ว่าฯ ลาออกจากตำแหน่ง พล.อ.ชนะทัพ ระบุว่า ต้องดูความรับผิดชอบไปแค่ไหนอย่างไร ตามลำดับ จะโยนมาทั้งหมดก็ไม่ได้
ส่วนกรณีมีชื่อของนายทหารเข้ามาเกี่ยวข้องในการก่อสร้างตึกที่ถล่มนั้น ยอมรับว่า รู้จัก เพราะทหารรู้จักกันทั้งหมด เพราะเป็นทหารมาทั้งชีวิต แต่ไม่ได้มีการช่วยเหลือกัน รวมถึงการเข้ามาเป็น ประธาน คตง. ก็เข้ามาถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ
อ่านข่าว :
เปิดโพรงโซน B และ C เชื่อมกัน ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม
รื้อซาก สตง.วันที่ 13 ยังไม่พบผู้สูญหาย นายกฯ สั่ง 90 วันหาสาเหตุ