ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เปิด 9 คกก.แก้กำแพงภาษีสหรัฐฯ กับแนวทางเจรจา "ทรัมป์"

การเมือง
8 เม.ย. 68
15:32
1,567
Logo Thai PBS
เปิด 9 คกก.แก้กำแพงภาษีสหรัฐฯ กับแนวทางเจรจา "ทรัมป์"
อ่านให้ฟัง
04:42อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

หลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากทุกประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งจะถูกสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 36 เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา

โดยอัตราภาษีร้อยละ 36 แบ่งเป็น ในช่วงแรก สหรัฐฯ จะเริ่มเก็บภาษีเพิ่มตั้งแต่เวลา 00:01 น. ของวันที่ 5 เม.ย.2568 (เวลาสหรัฐฯ) ในอัตราร้อยละ 10 กับสินค้านำเข้าทั้งหมดจากทุกประเทศ

ส่วนสินค้าที่ ขนลงเรือหรือยานพาหนะแล้วและอยู่ระหว่างเดินทางมายังสหรัฐฯ ก่อนเวลาดังกล่าว จะยังไม่ถูกเก็บภาษีดังกล่าว ก่อนเวลา 00.01 น. ของวันที่ 27 พ.ย.2568 ทั้งนี้ ภาษีร้อยละ 10 จะเป็นการเก็บเพิ่มจากอัตราภาษีที่ เรียกเก็บอยู่แล้ว รวมทั้งอากร ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายอื่นๆ

หลังจากนั้น ในช่วงที่สอง ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 9 เม.ย.2568 สหรัฐฯ ก็จะเริ่มเก็บ ภาษีศุลกากรต่างตอบแทน ตามอัตราเฉพาะที่กำหนดสำหรับแต่ละประเทศ ซึ่งประเทศไทยจะถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 36 โดยจะเก็บเพิ่มจากอัตราภาษีที่เรียกเก็บอยู่แล้ว แต่สำหรับสินค้าที่ขนลง เรือหรือยานพาหนะแล้วและอยู่ระหว่างเดินทางมายังสหรัฐฯ ก่อนเวลาดังกล่าว ก็จะยังได้รับยกเว้นไม่ถูกเก็บภาษีร้อยละ 36

ทั้งนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามมาตรการด้านการค้ากับสหรัฐอเมริกา มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว

การกำหนดแนวทางความร่วมมือภาครัฐ-เอกชน เพื่อรับมือผลกระทบอย่างเป็นระบบ โดยรัฐบาลพร้อมหารือกับรัฐบาลสหรัฐฯ ในโอกาสแรก เพื่อปรับดุลการค้าให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายและจัดเตรียม ข้อเสนอเพื่อปรับดุลการค้ากับสหรัฐฯ ที่มีสาระสำคัญเพื่อให้สหรัฐฯ ได้เจรจากับไทย ที่เหมาะสม

นอกจากนี้คณะกรรมการยังได้เร่งประสานเอกชนปรับโครงสร้างการผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวให้อุตสาหกรรมไทย และวางมาตรการรองรับในการเยียวยาและบรรเทาผลกระทบต่อผู้ส่งออกไทยที่มีตลาดสหรัฐฯ เป็นตลาดหลัก แสวงหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดเดียว

โดยนายกรัฐมนตรีได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐอเมริกา เพื่อติดตามสถานการณ์การขึ้นภาษีของสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 6 ม.ค.2568 ซึ่งประกอบด้วย

1.นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ประธานที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี
2.นายศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี
3.นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์
4.นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
5.นายฉันทานน์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
6.น.ส.โชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
7.น.ส.ใจไทย อุปการนิติเกษตร รองอธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้
8.นางขวัญนภา ผิวนิล นักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ
9.นายโอม บัวเขียว คณะทำงานประธานที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี และผู้ที่เกี่ยวข้อง

โดยมีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง หัวหน้าทีมคณะการค้ากับสหรัฐฯ ที่จะนำคณะไปเจรจากับทรัมป์

และสิ่งที่ไทยเตรียมไปเจรจากับสหรัฐ มี 3 มาตรการหลัก คือ 1.ปรับลดภาษีสินค้านำเข้าบางรายการ 2.เพิ่มการนำเข้าสินค้าบางรายการที่ยังไม่เคยนำเข้า 3.ลดเงื่อนไขที่เป็นอุปสรรคต่อการนำเข้า 

อ่านข่าว :

กลยุทธ์ไทยโต้ภาษี "ทรัมป์" นักวิชาการแนะอาเซียนผนึกกำลังต่อรอง

จับตา "อาเซียน" ผนึกกำลังฝ่าวิกฤตกำแพงภาษีทรัมป์

ทรัมป์สุมไฟเพิ่ม! ขู่ไม่คุยจีน ขึ้นภาษีรวม 104% หากไม่หยุดตอบโต้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง