ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

น้ำลดตอผุด ทุนจีนก่อสร้างสีเทา

ภัยพิบัติ
7 เม.ย. 68
15:12
327
Logo Thai PBS
น้ำลดตอผุด ทุนจีนก่อสร้างสีเทา
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ไม่เพียงสร้างความสูญเสีย ทั้งชีวิตผู้คน อาคารบ้านเรือน ล่าสุดกรมโยธาธิการและผังเมือง สั่งห้ามใช้อาคาร 52 แห่งทั่วประเทศ จากที่ตรวจสอบกว่า 6.2 พันแห่ง

หนักสุดคืออาคาร สตง.แห่งใหม่ สูงกว่า 30 ชั้นพังถล่มยับ ทับร่างคนงานค่อนร้อย ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัวผู้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ

สิ่งที่ถูกทิ้งไว้ ไม่ใช่เพียงสาเหตุการถล่มของอาคาร แต่ยังได้เปิดความจริงให้คนภายนอกได้รับรู้ ถึงการใช้จ่ายงบประมาณที่หรูหรา กับเครื่องอำนวยความสะดวกภายใน ทั้งเก้าอี้ห้องประชุม โต๊ะกินข้าวตัวละเฉียดแสน ยังมีครุภัณฑ์ ฝักบัวอาบน้ำ พรมห้องระดับบิ๊ก โอ่อ่าอลังการ์งานสร้าง

ไม่เพียงเท่านั้น ยังลุกลามขยายผลไปถึงกลุ่มก่อสร้างยักษ์ใหญ่จากจีน บริษัท ไชน่า เรลย์เวย์ นัมเบอร์ 10 ที่รับงานก่อสร้างตึก สตง.ร่วมกับยักษ์ใหญ่ของไทยแบบจอยท์ เวนเจอร์ หรือร่วมทุน แต่ตัวตนกลับเต็มไปด้วยปมคำถามปริศนา

ทั้งที่ตั้งบริษัท งบดุลที่ขาดทุน ลักษณะการประกอบการ ผู้ถือหุ้นคนไทยเพื่อให้เกินเกณฑ์ 51 % กระทั่งคุณภาพและมาตรฐานวัสดุก่อสร้างที่ใช้ ที่กำลังเป็นข้อสงสัย แม้แต่ในแวดวงวิศวกร

ข้อมูลจากดีเอสไอที่เข้ามารับทำคดีนี้ ยิ่งทำให้น่าตกใจมากขึ้น

บริษัท ไชน่า เรลเวย์ No.10 จดทะเบียนเป็นกิจการร่วมค้า เจตนาประมูลโครงการภาครัฐ ถึง 11 กิจการร่วมค้า ฟันงานประมูลภาครัฐไปถึง 29 โครงการ มูลค่า 2.7 หมื่นล้านบาท

ในทางลึก ดีเอสไอยังพบเป็นบริษัท 0 บาท เพราะไม่ได้นำเงินเข้ามาลงทุนในไทยจริง ตัวเลขงบดุลก็ขาดทุน และมักอ้างเป็นของคนไทย

ทำให้หวนนึกไปถึง “ทัวร์ 0 เหรียญ” ของกลุ่มกิจการทัวร์ของจีน ที่เคยเป็นข่าวคราวมาก่อนหน้านี้ คือเป็นกิจการที่ไม่ได้ก่อให้เกิดรายได้แก่ประเทศไทยเลย เพราะทุกอย่างเป็นนอมินีของคนจีน แต่สุดท้ายก็หลุดคดีจากหลายสาเหตุ หนึ่งในจำนวนนั้น คือได้รับการช่วยเหลือแนวทางสู้คดีจากกูรูทางกฎหมายของไทย

เป็นเหตุให้ดีเอสไอต้องวางแนวทางรับมือคดีนี้ โดยด้านหนึ่งคือ ตรวจหาคนไทย สมอ้างถือหุ้นเป็นนอมินีให้ ทั้งที่มีรายได้แค่หลักหมื่นบาทต่อเดือน และบางสำนักข่าว ขุดคุ้ยถึงขั้นใส่เสื้อผ้าแบบพนักงานของบริษัท

ส่อเค้าความไม่ปกติของกลุ่มทุนจีน ที่เข้ามาทำกิจการในไทย เฉพาะงานรับเหมาก่อสร้างโครงการภาครัฐมีมากกว่า 300 บริษัท

ที่สำคัญมีคนระดับ “บิ๊ก” ของไทย คอยเป็น “แบ๊คอัพ” ประสานเจรจาให้ โดยมีผลประโยชน์ต่างตอบแทน

ไม่เพียงการรุกคืบหลั่งไหลเข้ามาของกลุ่มรับเหมาประมูลงานเท่านั้น การลงทุนแยกประเภท อย่างกิจการเหล็กเส้นหรือเหล็กข้ออ้อยก็ไม่แตกต่างกัน

อาศัย “แบ๊คดี” และ “มือเติบ” ทำเม็ดเงินตกหล่นตามรายทางแค่นี้ด่านเจ้าหน้าที่รัฐก็เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ หนทางโล่งสะดวกแล้ว

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้ผลิตเหล็กบางราย แม้จะโดนคำสั่งปิดโรงงานผลิต แต่กลับฝ่าฝืนอยู่ต่อไปได้ ทั้งยังได้สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนจากบีโอไอ

ท่ามกลางการส่งสัญญาณเอาจริง ของรัฐมนตรีอุตสาหกรรม นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์

เข้าข่ายอุตสาหกรรม 0 บาทอีกหนึ่งประเภท

ความจริง เรื่องทุนจีนสีเทา เป็นเรื่องที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง เคยออกโรงแฉยิบ เป็นข่าวใหญ่ต่อเนื่องบนหน้าสื่อ แต่พอเจ้าตัวเกิดปัญหาสุขภาพต้องพักรักษาตัว เรื่องนี้ก็กลับเงียบไปด้วย

หากไม่เกิดแผ่นดินไหว คนทั่วไปจะมีโอกาสรู้ความจริงที่ยังซุกซ่อนอยู่ภายในเรื่องทุนจีนสีเทานี้อีกหรือไม่

แม้ทุนจีนที่เข้ามา ส่วนใหญ่อาจไม่ใช่ “ทุนสีเทา” ทั้งหมดก็ตาม แต่รัฐบาลไทยต้องพึงตระหนักและจริงใจสำหรับการรับมือเรื่องนี้อย่างเป็นระบบ

เพราะตอผุดหลังน้ำลดครั้งนี้ หากยังปล่อยไว้ สุดอันตรายเกินจะคิด

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส

อ่านข่าว : 10 วันกู้ซากตึก สตง.ถล่ม มท.1 สรุปผลสอบสวนต่อนายกฯ พรุ่งนี้

"กรมบัญชีกลาง" เตรียมปรับสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง-เพิ่มโทษผู้รับเหมา

ตร.ตั้งทีมสอบสวนเหตุตึก สตง.ถล่ม เข้าเก็บหลักฐาน 8 เม.ย.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง