ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"อธิบดีกรมอุทยานฯ" สั่งสอบย้อนหลัง ปมฉีกตั๋วหมู่เกาะสิมิลัน

สิ่งแวดล้อม
27 มี.ค. 68
12:12
848
Logo Thai PBS
"อธิบดีกรมอุทยานฯ" สั่งสอบย้อนหลัง ปมฉีกตั๋วหมู่เกาะสิมิลัน
อ่านให้ฟัง
05:32อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
บิ๊กอุทยานฯ สั่งสอบย้อนหลังปมฉีกตั๋วอุทยานฯ สิมิลันไม่ตรงปก หากพบมีมูลสอบวินัยทันที ยอมรับช่องโหว่จัดเก็บรายได้ เร่ง E-Ticket ให้จบใน 6 เดือน

กรณีสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดตรัง ในฐานะชุดตรวจสอบมาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติ สุ่มตรวจสอบที่ เกาะสี่-เกาะแปด อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน และพบการจำหน่ายตั๋วส่อไม่โปร่งใส

วันนี้ (27 มี.ค.2568) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวถึงกรณีคำสั่งย้าย ว่าที่ ร.อ.ฤทธิกรณ์ นุ่นลอย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา ออกจากพื้นที่ โดยให้ไปประจำที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 นครศรีธรรมราช พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงทันที หากพบว่ามีมูล ก็จะต้องถูกสอบสวนทางวินัย และต้องดูต่อว่า เกิดความเสียหายกับอุทยานแห่งชาติมากแค่ไหน

หัวหน้าอุทยานฯ สิมิลัน เพิ่งย้ายไปประจำการในช่วงการโยกย้ายล็อตใหญ่ ในช่วงที่เข้ามาดำรงแหน่งจริง เป็นการนำเสนอรายชื่อมาจากสำนักอุทยานฯ  

นายอรรถพล กล่าวว่า นอกจากนี้มอบหมายให้คณะกรรมการติดตามการจัดเก็บเงินอุทยานแห่งชาติ ที่มีนายชิดชนก สุขมงคล รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ ฯ เป็นประธานร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิ และมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ตรวจสอบเงินรายได้ทุกอุทยานทั่วประเทศ โดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติทางทะเล ฝั่งอันดามันทุกแห่ง ต้องย้อนหลังว่า มีการจัดเก็บโปร่งใสหรือไม่ พร้อมทั้งประสานข้อมูลกับทาง ป.ป.ช.

อ่านข่าว ย้ายด่วน! หัวหน้า​ อช.หมู่เกาะสิมิลัน สอบปมขายตั๋วส่อไม่โปร่งใส  

ยอมรับว่าช่องโหว่การจัดเก็บเงินรายได้ในอุทยานแห่งชาติทางทะเลยังเกิดได้ ที่ผ่านมามีมาตรการป้องกัน โดยจะให้หัวหน้าย้ายไปประจำการแค่ปีละครั้ง เพราะถ้ามีผลประโยชน์จะล่อแหลมต่อหาประโยชน์ และคนจะได้แข่งกันทำงาน

อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวอีกว่า สำหรับการจัดเก็บรายได้ เนื่องจากยังต้องใช้ระบบการฉีกตั๋วแบบเดิม ตามเกาะท่องเที่ยวต่าง ๆ บริเวณเกาะ และบนเรือร่วมกับระบบ E-Ticket ซึ่งที่ผ่านมานำร่องในอุทยานแห่งชาติฯ ไปแล้ว 80 แห่งใช้งบประัมาณ 17 ล้านบาท และเฟสที่เหลือ 30 แห่งให้ครบ 150 แห่ง ยังอยู่ระหว่างประมูลจากเอกชน

คาดว่าจะใช้เวลาอีก 3 เดือนในการจัดซื้อจัดจ้างและใช้งานได้ทั้งหมดภายใน 6 เดือน ซึ่งเป็นการพยายามป้องกันการทุจริต ซึ่งทั้งหัวหน้าอุทยานฯ ก็ต้องคุมลูกน้องให้ได้ด้วย แต่พอเจอปัญหาต้องรีบแก้ไข

ส่วนการจัดเก็บเงินรายได้อุทยานฯ ในปี 2567 มีการเก็บเงินได้เพิ่มขึ้น 10% แต่ตอนนี้ผ่านมา 4-5 เดือนพบว่ารายได้ลดลง 4-5% บางพื้นที่ จัดเก็บเงินรายได้ 1,362 ล้านบาท จำนวนนักท่องเที่ยว 10,110,608 คน ส่วนปี 2567 รายได้ 1,306 ล้านบาท

ข้อมูลจากสำนักอุทยานแห่งชาติ พบว่ารายได้ 1-23 มี.ค.2568 จำนวน 157 ล้านบาท ลดลง 25 ล้านบาท คิดเป็น 13.93 %  นักท่องเที่ยว 1,171,082 คน ลดลง 58,906 คน คิดเป็น 4.79 % ขณะที่ 5 อันดับที่เงิยรายได้สูงสุด ดังนี้

  • อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี  49 ล้านบาท
  • อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน 16 ล้านบาท
  • อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ 10 ล้านบาท
  • อุทยานแห่งชาติเขาสก 8 ล้านบาท
  • อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา 7 ล้านบาท

ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช.ตรัง สุ่มตรวจบริเวณเกาะสี่ และเกาะแปด ซึ่งเป็นจุดเช็กอินนักท่องเที่ยวในระบบจำหน่ายบัตรค่าบริการอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Ticket ผลการตรวจสอบพบการจองตั๋วคนไทยในระบบ E-Ticket ไม่เกิน 10 คน ราคาคนไทย ผู้ใหญ่คนละ 100 บาท เด็กคนละ 50 บาท ต่อเรือ 1 ลำ เมื่อตรวจนับหน้าหาดกลับไม่มีคนไทยมาท่องเที่ยว แต่เป็นชาวต่างชาติ 50 คน

ซึ่งตามราคาชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่คนละ 500 บาท เด็กคนละ 250 บาท และพบเรือสปีดโบ๊ตอีก 10 ลำ ทำให้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ตั้งข้อสังเกตอาจเข้าข่ายการฉีกตั๋วผี มีค่าส่วนต่าง ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท

อ่านข่าว : เปิดเบื้องหลัง-สั่งย้าย! หน.อุทยานฯ หมู่เกาะสิมิลัน หลังพบตั๋วไม่ตรงจำนวนนักท่องเที่ยว

ย้ายด่วน! หัวหน้า​ อช.หมู่เกาะสิมิลัน สอบปมขายตั๋วส่อไม่โปร่งใส

ข่าวที่เกี่ยวข้อง