ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

“แพะ-ถูกทรมาน-อุ้มหาย” บังคับยุติธรรมเยียวยา “ศักดิ์ศรีมนุษย์”

อาชญากรรม
25 มี.ค. 68
18:29
81
Logo Thai PBS
“แพะ-ถูกทรมาน-อุ้มหาย” บังคับยุติธรรมเยียวยา “ศักดิ์ศรีมนุษย์”

ตลอด 39 ปีที่ผ่านมา นับจากเกิดแพะในคดีฆาตกรรม “เชอรี่แอน ดันแคน” เด็กสาวลูกครึ่ง เมื่อปี 2529 เหตุการณ์ในครั้งนั้น ถือเป็นปฐมบทสำคัญที่สร้างความสั่นสะเทือนต่อกระบวนการยุติธรรมไทย จนทำให้ต้องมีการออก “พ.ร.บ.ค่าตอบแทน และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2559) และบังคับใช้ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

เส้นทางชีวิตสำหรับผู้ต้องหาที่ตกเป็น “แพะรับบาป” เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง กว่าจะหาทางพิสูจน์ได้ว่า เป็นผู้บริสุทธิ์ หลาย ๆ ชีวิต นอกจากจะสิ้นเนื้อประดาตัว หาเงินทองมาวิ่งเต้นคดี ว่าจ้างทนายความแล้ว ชีวิตที่ขาดอิสรภาพ คุณภาพชีวิต สุขภาพจิต ที่สูญหายไประหว่างถูกจองจำ ทั้ง ๆที่ไม่ได้กระทำความผิด ไม่ต่างจากตายทั้งเป็น

แม้ตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญาฯจะมีเจตนารมย์ เพื่อเยียวยาผู้เสียหายที่ตกเป็น “เหยื่อ” ที่ได้รับความเสียหายถึงแก่ชีวิต ร่างกาย หรือจิตใจ ที่เกิดจากการกระทำความผิดอาญาของผู้อื่น โดยที่ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดก็ตาม และจำเลยหรือ “แพะ” ที่ถูกคุมขังในชั้นพิจารณา ซึ่งต่อมาศาลได้มีคำพิพากษายกฟ้องด้วยเหตุที่ฟังเป็นยุติได้ว่า จำเลยมิได้เป็นผู้กระทำความผิด หรือการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด

หากนับแต่กฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้พบว่า ได้มีการช่วยเหลือเยียวยา ผู้เสียหายและจำเลยไปแล้วกว่า 132,580 ราย เป็นจำนวนเงินกว่า 7,394 ล้านบาท

ข้อมูลจากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ระบุว่า แต่ละปีรัฐต้องจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ เสียหาย และจำเลยในคดีอาญา ปีละกว่า 400 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นผู้เสียหาย คือ เป็นเหยื่อในคดีอาชญากรรม และจำเลยในคดีอาชญากรรม (แพะ) ตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบัน ระบุว่า 

ปี 2563 มีผู้เสียหายที่ได้รับเงินเยียวยา จำนวน 8,770 ราย เงินที่ต้องจ่ายทั้งสิ้น 437,066,543 บาท ส่วนจำเลยในคดีอาชญากรรม (แพะ) มีจำนวน 60 ราย ได้มีการเบิกจ่าย 12,933,457 บาท

ปี 2564 มีผู้เสียหายที่ได้รับเงินเยียวยา จำนวน 7,248 ราย เงินที่ต้องจ่าย 365,521,845.44 บาท ส่วนจำเลยในคดีอาชญากรรม (แพะ) มีจำนวน 67 ราย ได้มีการเบิกจ่าย 15,702,941 บาท

ปี 2565 มีผู้เสียหายที่ได้รับเงินเยียวยา จำนวน 7,848 ราย เงินที่ต้องจ่ายทั้งสิ้น 389,813,351 บาท ส่วนจำเลยในคดีอาชญากรรม (แพะ) มีจำนวน 46 ราย ได้มีการเบิกจ่าย 10,186,649 บาท

ปี 2567 มีผู้เสียหายที่ได้รับเงินเยียวยา จำนวน 9,648 ราย เงินที่ต้องจ่ายกว่า 500 ล้านบาท

ปี 2568 มีผู้เสียหายที่ได้รับเงินเยียวยา จำนวน 2,544 ราย เป็นเงินกว่า 139 ล้านบาท

ทั้งนี้ จากการรวบรวมตัวเลขผู้เสียหาย และจำเลยในคดีอาชญากรรมของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ พบว่าในแต่ละปีจะมีผู้เสียหายมาขอยื่นรับเงินเยียวยามากกว่า 1 หมื่นราย ส่วนจำเลยมายื่นขอรับเงินเฉลี่ย 300-500 ราย/ปี สำหรับผู้เสียหาย และจำเลยในคดีอาชญากรรม (ศาลยกฟ้อง) นั้นขึ้นอยู่กับคณะ กรรมการ และการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ด้วย ถึงจะมีการเบิกจ่ายในที่สุด

คดีแพะมีการจ่ายเงินเยียวยาให้ผู้เสียหาย ค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญาฯ แล้ว ขณะที่การเยียวยาผู้เสียหายที่เกิดจากกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐก็มีความคืบหน้าเช่นเดียวกัน เมื่อ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ว่าด้วยการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูผู้เสียหาย พ.ศ. 2568

นางสาวเอมอร เสียงใหญ่ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวว่า ขณะนี้ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายว่าด้วยการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูผู้เสียหาย พ.ศ. 2568 มีผลใช้บังคับแล้ว

โดยระเบียบฯ นี้ได้นำหลักการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายตามมาตรฐานสากลมากำหนดไว้ เน้นการเยียวยาเชิงสิทธิมนุษยชน กระบวนการที่รวดเร็ว ไม่ต้องรอผลทางคดี อีกทั้งไม่ทับซ้อนกับการเยียวยาความเสียหายทางแพ่ง ถือเป็นการพลิกโฉมการเยียวยาแก่ผู้เสียหายของประเทศไทย

“การเยียวยาตามระเบียบฯ ดังกล่าว นอกจากจะได้กำหนดการเยียวยาในรูปแบบที่เป็นตัวเงินแล้ว ยังได้กำหนดให้มีรูปแบบการช่วยเหลือเยียวยาในรูปแบบอื่นด้วย เช่น การให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย ทางสังคม รวมถึงการแสดงความขอโทษด้วย” อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิกล่าว

สำหรับบุคคลที่มีสิทธิได้รับการเยียวยาและอัตราเงินช่วยเหลือเยียวยา แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ

1.ผู้เสียหายจากการถูกกระทำทรมาน ได้รับเงินช่วยเหลือจำนวน 500,000 บาท

2. ผู้เสียหายจากการถูกกระทำการที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ได้รับเงินช่วยเหลือจำนวน 100,000 – 250,000 บาท

3. ผู้เสียหายจากการถูกกระทำให้สูญหาย ได้รับเงินช่วยเหลือจำนวน 500,000 บาท

4. สามี ภริยา (คู่สมรส) ผู้บุพการี ผู้สืบสันดาน ผู้ซึ่งอยู่กินฉันสามีภริยา
ซึ่งมิได้จดทะเบียนสมรส ผู้อุปการะและผู้อยู่ในอุปการะของผู้ถูกกระทำให้สูญหาย ได้รับเงินจำนวน 100,000 บาท

ทั้งนี้ การพิจารณาตามระเบียบฯ อยู่ในหน้าที่และอำนาจของคณะอนุกรรมการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายจากการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ซึ่งมีอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิฯ เป็นประธานอนุกรรมการ ร่วมกับผู้แทนจากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานอัยการสูงสุด ศอ.บต. กรมบัญชีกลาง สภาทนายความ กองทุนยุติธรรม สำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายจำเลยในคดีอาญา ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนษุยชน แพทย์นิติเวช แพทย์จิตเวช และแพทย์หญิงเพชรดาว โต๊ะมีนา ซึ่งเป็นทั้งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวช และตัวแทนผู้เสียหาย เป็นอนุกรรมการด้วย

โดยวันที่ 26 มี.ค.68 นี้จะมีการประชุมเตรียมความพร้อม kick off ระเบียบเยียวยาฯ เพื่อพิจารณาหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติในการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายด้วย

อ่านข่าว 

 ปิดคดี "ลุงเปี๊ยก" ประเดิม พ.ร.บ.อุ้มหาย สั่งฟ้อง 8 ตำรวจทำทรมาน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง