ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ไซเบอร์รับคดี ภรรยาเอาผิดกลุ่มไลฟ์สดทำ "ด.ต." สามีป่วยพูดไม่ได้

อาชญากรรม
24 มี.ค. 68
17:08
235
Logo Thai PBS
ไซเบอร์รับคดี ภรรยาเอาผิดกลุ่มไลฟ์สดทำ "ด.ต." สามีป่วยพูดไม่ได้
อ่านให้ฟัง
03:29อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ภรรยาดาบตำรวจ สภ.พรหมบุรี ถูกไลฟ์สดขณะตั้งจุดตรวจความเร็ว จนเกิดอาการเส้นเลือดในสมองแตก เข้าแจ้งความกับตำรวจ สอท. เอาผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ด้านผู้บัญชาการ สอท.เร่งสอบปากคำ เทียบข้อกฎหมายเอาผิด

วันนี้ (24 มี.ค.2568) นางพิมพ์พัฒน์ อายุ 48 ปี ภรรยาของ ด.ต.ศุภมิตร พวงประเสิริฐ ผู้บังคับหมู่งานงานจราจร สภ.พรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี เดินทางมาพร้อมทนายความ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 เพื่อแจ้งความเอาผิดกับกลุ่มคนที่ถ่ายทอดสดผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ขณะ ด.ต.ศุภมิตร ปฏิบัติหน้าที่ตั้งจุดตรวจจับความเร็ว จนเกิดอาการป่วยเส้นเลือดในสมองแตก

นางพิมพ์พัฒน์ เปิดเผยว่า ที่เข้ามาแจ้งความในวันนี้ จะเอาผิดเรื่อง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เป็นหลัก เนื่องจากการถ่ายทอดสดของกลุ่มคนดังกล่าว มีลักษณะเป็นการกดดันเจ้าหน้าที่ในขณะทำงาน ซึ่งเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกดดัน ทำให้สามีของตัวเองมีอาการจนล้มป่วยจนเส้นเลือดในสมองแตก ถึงแม้ปัจจุบันอาการจะดีขึ้นถูกนำตัวออกจากห้อง ICU แล้ว
แต่ยังไม่สามารถพูดจาสื่อสารได้เป็นปกติ

ทางด้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ในส่วนของตำรวจ สอท. จะเน้นไปในเรื่องของการพิจารณาความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

เบื้องต้นเมื่อเปรียบเทียบข้อกฎหมายอาจเข้าข่ายการกระทำความผิดในมาตรา 14 นำเข้าข้อมูลที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท และ มาตรา 16 นำเข้าข้อมูลหรือภาพของผู้อื่นให้เสียชื่อเสียง ดูหมิ่น ถูกเกลียดชังหรือได้รับความอับอาย จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท

มอบหมายให้ทาง พ.ต.อ.ปณิธาน ยามานนท์ รองผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 เป็นผู้รับผิดชอบคดีนี้

พล.ต.ท.ไตรรงค์ เปิดเผยอีกว่า ถึงแม้ว่ากลุ่มผู้ถ่ายทอดสดดังกล่าว จะกล่าวอ้างว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายร่างกาย แต่เป็นเพียงการตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วยความบริสุทธิ์ใจก็ตาม ตำรวจมีหน้าที่ตรวจสอบเมื่อมีผู้เข้ามาแจ้งความ ซึ่งหากภายหลังการสอบปากคำและพิจารณาข้อกล่าวหาแล้ว จะให้ทางพนักงานสอบสวนใช้ดุลยพินิจว่าจะรับทำคดีเอง หรือนำส่งข้อมูลให้กับตำรวจในท้องที่ ที่รับผิดชอบสรุปสำนวนรวมไปกับข้อหาอื่น ๆ ที่ผู้เสียหายเขาแจ้งความเอาไว้ในพื้นที่สิงห์บุรีเพิ่มเติม

อ่านข่าวอื่น :

ปม “นิติกรรมอำพราง”-เลี่ยงภาษี ดอกแรกที่นายกฯ โดน “จุกอก”

ทอ.ส่ง "F-16" ลาดตระเวนชายแดน หลังพบเครื่องบิน MIG-29 เมียนมา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง