วันนี้ (24 มี.ค.2568) นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า กรมฯ ได้ติดตามการปราบปรามกลุ่มคอลเซนเตอร์ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งมีผลกระทบต่อการค้า มีการค้ารวม 17,470 ล้านบาท ลดลง 3.25 % เป็นการส่งออก 10,027 ล้านบาท ลดลง 0.6 % และนำเข้า 7,443 ล้านบาท ลดลง 6.6 % ซึ่งสินค้าส่งออกสำคัญที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ น้ำมันดีเซลและน้ำมันสำเร็จรูปอื่น ๆ มูลค่าการส่งออกลดลงเหลือ 510 ล้านบาท ลด 61.0 %

นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ
นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม การส่งออกชายแดนไปเมียนมาในกลุ่มสินค้าอื่น ๆ นอกเหนือจากสินค้าพลังงานในภาพรวมยังคงขยายตัว 7.1 % ซึ่งกรมจะติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนไทย-เมียนมาอย่างใกล้ชิด และพร้อมให้การสนับสนุนด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้า
ตลอดจนจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าชายแดน ภายใต้โครงการขยายการค้าการลงทุนชายแดนและเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ มหกรรมการค้าชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก ตามแผนงานโครงการที่วางไว้เพื่อกระตุ้นการค้าต่อไป
ขณะที่ ตัวเลขการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน เดือน ก.พ. 2568 มีมูลค่า 154,354 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.9 % เป็นการส่งออก 86,020 ล้านบาท เพิ่ม 20.8 % และการนำเข้า 68,334 ล้านบาท เพิ่ม 18.8 % ได้ดุลการค้า 17,686 ล้านบาท

ส่งผลให้ 2 เดือนของปี 2568 (ม.ค.-ก.พ.) การค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนมีมูลค่าการค้ารวม 299,494 ล้านบาท เพิ่ม 10.9 % เป็นการส่งออก 164,057 ล้านบาท เพิ่ม 12.1 % การนำเข้า 135,437 ล้านบาท เพิ่ม 9.6 % ได้ดุลการค้า 28,621 ล้านบาท
แต่หากแยกการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ เดือน ก.พ. 2568 มีมูลค่า 86,543 ล้านบาท เพิ่ม 8.9 % เป็นการส่งออก 50,820 ล้านบาท เพิ่ม 5.6 % การนำเข้า 35,723 ล้านบาท เพิ่ม 13.8 % ได้ดุลการค้า 15,097 ล้านบาท
โดยการค้าชายแดนกับ สปป.ลาว มีมูลค่าสูงสุด 28,078 ล้านบาท เพิ่ม 8.4 % รองลงมา คือ มาเลเซีย 25,401 ล้านบาท เพิ่ม 15.6 % เมียนมา 17,470 ล้านบาท ลด 3.3 % และกัมพูชา 15,594 ล้านบาท เพิ่ม 15.0 %

สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ น้ำมันดีเซล 3,355 ล้านบาท สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตรอื่น ๆ เช่น กากถั่วเหลือง นมผง 1,501 ล้านบาท และสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น อุปกรณ์เครื่องมือวัดสัญญาณไฟฟ้า กระเบื้องแผ่น 1,364 ล้านบาท ทั้งนี้ 2 เดือนของปี 2568 การค้าชายแดนมีมูลค่ารวม 170,340 ล้านบาท เพิ่ม 5.2 % เป็นการส่งออก 101,349 ล้านบาท เพิ่ม 3.1 % และการนำเข้า 68,992 ล้านบาท เพิ่ม 8.5 %
ด้านการค้าผ่านแดนไปประเทศที่สาม มีมูลค่า 67,811 ล้านบาท เพิ่ม 37.7 % เป็นการส่งออก 35,200 ล้านบาท เพิ่ม 52.4 % และการนำเข้า 32,611 ล้านบาท เพิ่ม 24.8 % เป็นการค้าผ่านแดนไปจีน มีมูลค่าสูงที่สุด 38,537 ล้านบาท เพิ่ม 55.5 % รองลงมาคือ สิงคโปร์ และเวียดนาม มีมูลค่า 10,102 ล้านบาท เพิ่ม 48.8 % และ 5,583 ล้านบาท เพิ่ม 20.6 % ตามลำดับ
ส่วนสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ ฮาร์ด ดิสก์ ไดรฟ์ 7,571 ล้านบาท ยางแท่ง TSNR 4,887 ล้านบาท และน้ำยางข้น 2,373 ล้านบาท ทั้งนี้ 2 เดือน การค้าผ่านแดนมีมูลค่ารวม 129,154 ล้านบาท เพิ่ม 19.5% เป็นการส่งออก 62,709 ล้านบาท เพิ่ม 30.5 % และการนำเข้า 66,445 ล้านบาท เพิ่ม 10.6 %
อ่านข่าว : "รัฐบาล" ประเมิน "ฝ่ายค้าน" ซักฟอกวันแรกยังไม่เห็นหมัดน็อก
สำลีก้อนละ 7 บาท! สอบ.ชี้ รพ.เอกชนอัปราคาเวชภัณฑ์สูงลิ่ว
ไทยลุ้นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 6-7 ปี หวังลดคาร์บอน เล็งต้นแบบเดนมาร์ก-ฝรั่งเศส