หากคุณเป็นแฟนการ์ตูนญี่ปุ่นหรือภาพยนตร์แนวโทคุซัตสึ (Tokusatsu) คงเคยได้ยินเสียงร้อง "กี้กี้" ที่ดังก้องอยู่ในความทรงจำของใครหลายคน เสียงนี้มักถูกเชื่อมโยงกับ "ลูกกระจ๊อก" หรือตัวละครสมุนตัวเล็ก ๆ ที่ปรากฏในสื่อบันเทิงญี่ปุ่น แต่ "กี้กี้" คืออะไรกันแน่ และทำไมมันถึงกลายเป็นสัญลักษณ์ที่ทั้งน่าขบขันและน่าสงสารในเวลาเดียวกัน ?
จุดกำเนิดของ "กี้กี้" จากโลกโทคุซัตสึ
คำว่า "กี้กี้" (Gi Gi) ไม่ได้เป็นเพียงแค่เสียงร้องสุ่ม ๆ แต่มีรากฐานมาจากซีรีส์แนวโทคุซัตสึของญี่ปุ่น โดยเฉพาะในยุคที่ภาพยนตร์และซีรีส์ซูเปอร์ฮีโรเริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
โทคุซัทสึ คือ ภาพยนตร์ที่แสดงด้วยมนุษย์จริงหรือละครโทรทัศน์ที่ใช้เทคนิคพิเศษ เนื้อหาส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับนิยายวิทยาศาสตร์ แฟนตาซี หรือสยองขวัญ เช่น ก็อตซิลลา, ขบวนการเซ็นไต มนุษย์ 5 สี, มาสก์ไรเดอร์ หรือ ไอ้มดแดง ฯลฯ
หนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนคือเหล่าสมุนตัวร้ายในชุดดำจากซีรีส์ Kamen Rider ซึ่งเป็นผลงานของ โชทาโระ อิชิโนะโมริ ที่เริ่มออกอากาศในปี 1971 เสียง "กี้กี้" มักถูกใช้โดยเหล่าสมุนขององค์กรชั่วร้ายอย่าง Shocker ก่อนเข้าฉากต่อสู้กับเหล่าฮีโร และกลายเป็นเอกลักษณ์ของ "ลูกสมุน" ที่มักถูกส่งมาสู้เป็นแนวหน้า ก่อนพ่ายแพ้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ คำว่า "กี้กี้" ยังถูกเชื่อมโยงกับภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่อง Matango ที่ฉายในปี 1963 หรือที่รู้จักในชื่อ "มนุษย์เห็ดมรณะ" ในภาษาไทย ซึ่งเป็นผลงานกำกับของ อิชิโระ ฮอนดะ แม้ว่าจะไม่ใช่ "กี้กี้" โดยตรง แต่ตัวละครสมุนในสื่อยุคใกล้เคียงกันนี้มักมีลักษณะคล้ายกัน คือออกมาร้องเสียงประหลาดก่อนถูกกำจัดอย่างง่ายดาย
เพจ ญี่ปุ่นปุ่นปุ่น ได้โพสต์อธิบายวิถีตัวกี๊ เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2024 ซึ่งตรงกับวันเด็กแห่งชาติของญี่ปุ่น ไว้ว่าเป็น ตัวลูกกระจ๊อกสัญลักษณ์ประจำซีรีย์ไอ้มดแดงที่สมัยก่อนเราเรียกกันว่า "ตัวกีกี้" จริง ๆ แล้วชื่อเรียกมันคือ "ช็อกเกอร์เซ็นโทอิง" (ショッカー戦闘員 - นักรบช็อกเกอร์, พลทหารช็อกเกอร์) ระดับพลังของพวกนี้ มันแค่ประมาณแข็งแรงกว่าคนธรรมดาสามัญทั่วไปเท่านั้นเอง เลยไม่แปลกที่ต่อให้ดาหน้ามาเยอะแค่ไหนก็ถูกไอ้มดแดงอัดร่วงเละเทะซะทุกที
และยังให้คำคมให้เชิงบวกไว้ว่า เป็นลูกผู้ชาย ต่อให้รู้ว่าแพ้ แต่บางครั้งมันก็ต้องสู้ !

ใช้ AI ในการผลิตกราฟิก
ใช้ AI ในการผลิตกราฟิก
"ลูกกระจ๊อก" บทบาทเล็ก ๆ แต่ขาดไม่ได้
ถึงแม้ว่า "กี้กี้" และเหล่าลูกกระจ๊อกจะดูเหมือนตัวละครที่ไร้ความสามารถ แต่ในแง่ของการเล่าเรื่อง พวกเขามีบทบาทสำคัญอย่างปฏิเสธไม่ได้ ลูกกระจ๊อกเหล่านี้เปรียบเสมือน "ตัวประกอบที่ขาดไม่ได้" ในการปูทางให้ตัวร้ายหลักหรือเหล่าฮีโรได้เฉิดฉาย การปรากฏตัวของพวกเขามักเป็นสัญญาณว่าการต่อสู้กำลังจะเริ่มต้น และถึงแม้จะดูอ่อนแอในสายตาผู้ชม แต่ก็ช่วยเพิ่มอรรถรสให้กับเนื้อเรื่องได้อย่างลงตัว
ข้อมูลของ Japan Media Studio ในปี 2020 ระบุว่า ในซีรีส์โทคุซัตสึ ลูกกระจ๊อกมักถูกออกแบบให้มีลักษณะตลกขบขัน เช่น ร้อง "กี้กี้" พร้อมท่าทางประหลาด ก่อนจะหายไปพร้อมควันดำหลังถูกโจมตี ความน่าสงสารและความตลกของพวกเขาทำให้เกิดความรู้สึกผสมผสานระหว่างการเอ็นดูและการสมเพชในหมู่แฟน ๆ
"กี้กี้" ในวัฒนธรรมสมัยใหม่
ในยุคปัจจุบัน เสียง "กี้กี้" และภาพลักษณ์ของลูกกระจ๊อกไม่ได้ถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลา กลับกัน มันกลายเป็นมุกตลกและสัญลักษณ์ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงในโซเชียลมีเดียอย่างแพร่หลาย ซึ่งสะท้อนว่าคำนี้ยังคงเป็นที่รู้จักในหมู่แฟน ๆ รุ่นใหม่ แม้แต่คนที่อาจ "เกิดไม่ทัน" ก็ยังรู้จักผ่านการเล่าขานหรือการรีรันสื่อเก่า ๆ
บางคนถึงกับเปรียบเทียบ "กี้กี้" กับชีวิตจริง โดยมองว่าพวกเขาเป็นตัวแทนของคนตัวเล็ก ๆ ที่พยายามทำหน้าที่ของตัวเอง แม้จะดูไร้ค่าในสายตาคนอื่น แต่ก็มีความสำคัญในแบบของตัวเอง
"กี้กี้" อาจไม่ใช่แค่เสียงร้องของลูกกระจ๊อกธรรมดา แต่มันคือส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมป๊อปญี่ปุ่นที่สะท้อนถึงความเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความหมาย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเสียงหัวเราะ ความสงสาร หรือแม้แต่การเป็นสัญลักษณ์ของความพยายามที่อาจไม่ได้รับการยอมรับ ลูกกระจ๊อกและเสียง "กี้กี้" ยังคงเป็นที่จดจำและถูกพูดถึงอย่างไม่เสื่อมคลายในวงการการ์ตูนและโทคุซัตสึ

ใช้ AI ในการผลิตกราฟิก
ใช้ AI ในการผลิตกราฟิก
ที่มา: "Kamen Rider Official Archives", Toei Company, Toho Special Effects Filmography", Toho Studios, บทวิเคราะห์จาก "The Art of Tokusatsu", Japan Media Studies, 2020, เพจ ญี่ปุ่นปุ่นปุ่น
ไทยพีบีเอส ถ่ายทอดสด ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทางไทยพีบีเอส ช่องหมายเลข 3 และ ชมสดออนไลน์ทาง
ถ่ายทอดสดอภิปรายไม่ไว้วางใจ 2568 วันที่ 2
ถ่ายทอดสดอภิปรายไม่ไว้วางใจ 2568 วันที่ 1
อ่านข่าวอื่น :
"วิโรจน์" ตั้งคำถามนายกฯ หนีภาษี เอาเปรียบประชาชน
ศึกซักฟอกเดือด "ประวิตร" จวกนายกฯ ไม่อาจไว้วางใจ - อิ๊งค์ ตอบ ไม่เป็นความจริง