ทันตแพทย์กำลังใช้เครื่องสแกน 3 มิติ สแกนจมูกของเด็กชายวัย 8 เดือน ผู้ป่วยโรคปากแหว่งเพดานโหว่ ที่เข้ารับบริการที่ศูนย์ผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

นี้เป็นหนึ่งในขั้นตอนการรักษาโรคปากแหว่งเพดานโหว่ ด้วยนวัตกรรมที่มีชื่อว่า CMU-ดันพอดี อุปกรณ์ดันปลายจมูกเฉพาะบุคคลสำหรับผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ ซึ่งใช้ในช่วงก่อน และหลังการผ่าตัดปิดรอยแยก เนื่องจากเด็กเล็กยังอยู่ในภาวะเจริญเติบโต แต่แผลเป็นที่เกิดจากการผ่าตัดไม่ได้ขยายขึ้นตามวัย ทำให้เนื้อเยื่อเกิดการดึงรั้ง CMU-ดันพอดี จะเป็นตัวช่วยค้ำยันไม่ให้จมูกผิดรูปไปจากที่ควรจะเป็น

CMU-ดันพอดี ออกแบบ และพัฒนาขึ้น โดยความร่วมมือของผู้เชี่ยวชาญจากคณะทันตแพทยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ และสถาบันวิศวกรรมชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
โดยนำภาพสแกนจมูก 3 มิติไปออกแบบอุปกรณ์ดันปลายจมูกในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ก่อนใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติ พิมพ์ชิ้นงานด้วยวัสดุ TPU ที่มีความยืดหยุ่นสูง ทนทาน และ มีความใสเหมาะสำหรับใช้งานจริง

รศ.ทพญ.มารศรี ชัยวรวิทย์กุล คณะทันตแพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่
รศ.ทพญ.มารศรี ชัยวรวิทย์กุล คณะทันตแพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่
รศ.ทพญ.มารศรี ชัยวรวิทย์กุล คณะทันตแพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่ เปิดเผยว่าการดูแลผู้ป่วยโรคปากแหว่งเพดานโหว่ในประเทศไทย เมื่อประมาณ 20 กว่าปีก่อนค่อนข้างมีข้อจำกัดมากเพราะบุคลากรมีจำนวนน้อย แต่ในปัจจุบันด้วยความร่วมมือจากสภากาชาดไทย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์การดูแลผู้ป่วยปากแหว่ง เพดานโหว่และความพิการแต่กำเนิดของศีรษะและใบหน้าต่างๆ รวมถึงหลายภาคส่วนในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ช่วยให้ปัญหานี้เบาบางลงไปมาก เด็กๆได้รับการดูแลแบบองค์รวมตั้งแต่แรกเกิดจนกระทั่งเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่

สำหรับ CMU-ดันพอดี เป็น 1 ในอุปกรณ์ที่ใช้ในการดูแลคนไข้เป็นตัวช่วยเสริมความผิดปกติของจมูกทั้งก่อน และ หลังการผ่าตัด โดยในช่วงก่อนการผ่าตัดอุปกรณ์นี้ช่วยปรับโครงสร้างกระดูกทำให้ศัลยแพทย์ตกแต่งทำงานได้ดีขึ้น ลดความตึงของรอยแผลเป็น และ หลังจากรับการผ่าตัดปิดรอยแยกแล้ว เนื้อเยื่อปกติของเด็กจะโตขึ้นตามวัย แต่เนื้อเยื่อที่เป็นรอยแผลเป็นจะไม่มีการขยายตัว ทำให้เกิดการดึงรั้ง อุปกรณ์ตัวนี้จะไปช่วยเสริม ดัน ต้าน แรงตึงของแผลเป็น ทำให้ความผิดปกติของจมูกน้อยลง แล้วหากจะต้องมีการผ่าตัดแก้ไข แพทย์ก็อาจจะทำทีเดียวเมื่อเด็กโตขึ้น ซึ่งจะช่วยลดความบ่อยในการผ่าตัดแก้ไข เป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย ที่สำคัญคือเด็กไม่ต้องรับความเจ็บในแต่ละครั้งที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด
CMU-ดันพอดี เป็นนวัตกรรมที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่นำมาใช้กับคนไข้ต่อเนื่องมามากกว่า 8 ปี มีการวิจัย เพื่อปรับปรุงชิ้นงาน และ ให้บริการกับคนไข้ทั่วประเทศโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพราะมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มุ่งมั่นที่จะพัฒนามาตรฐานการดูแลผู้ป่วยให้ได้ดียิ่งขึ้น พวกเราตั้งใจที่จะเปลี่ยนชีวิต ด้วยรอยยิ้ม

รศ.พญ.นันทิการ์ สันสุวรรณ คณะแพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่
รศ.พญ.นันทิการ์ สันสุวรรณ คณะแพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่
รศ.พญ.นันทิการ์ สันสุวรรณ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหูคอจมูกเด็ก คณะแพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่ ผู้ร่วมพัฒนาCMU-ดันพอดี ระบุว่าปัญหาสำคัญในการผ่าตัดรักษาอาการปากแหว่ง เพดานโหว่ คือ รูปทรงของจมูกที่ผิดรูปหลังการผ่าตัด อุปกรณ์ดันปลายจมูกที่ทำขึ้นเฉพาะรายบุคคลจากจมูกของแต่ละคน ช่วยลดการดึงรั้งจากแผลผ่าตัด และ ดันปลายจมูกให้มีรูปทรง 2 ข้าง สวยใกล้เคียงกับเด็กปกติมากที่สุด
ปากแหว่งเพดานโหว่จะมีผลต่อรูปทรงของจมูก และ พื้นของจมูกที่ต่อกับช่องปาก รวมทั้งการสบฟัน การแก้ไขจะไม่ใช่เรื่องของความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่จะเป็นเรื่องของคุณภาพชีวิตด้วย เพราะว่าทำให้หายใจได้ดี การพูดชัดเจน และ รับประทานอาหารได้ปกติด้วย
สำหรับขั้นตอนสำคัญของอุปกรณ์ CMU-ดันพอดี คือ การสร้างชิ้นงานจากภาพสแกนจมูกของผู้ป่วยโดยวิศวกรจากสถาบันวิศวกรรมชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ออกแบบอุปกรณ์ดันปลายจมูกด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ก่อนใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติที่สร้างขึ้นเอง พิมพ์ชิ้นงานขึ้น

รศ.นิพนธ์ ธีรอำพน ผอ.สถาบันวิศวกรรมชีวการแพทย์ ม.เชียงใหม่
รศ.นิพนธ์ ธีรอำพน ผอ.สถาบันวิศวกรรมชีวการแพทย์ ม.เชียงใหม่
รศ.นิพนธ์ ธีรอำพน ผอ.สถาบันวิศวกรรมชีวการแพทย์ ม.เชียงใหม่ เปิดเผยว่าการเลือกวัสดุที่ใช้ในการผลิตชิ้นงาน เป็นโจทย์ที่ท้าทายทางวิศวกรรมศาสตร์ โดยในครั้งแรกหลังได้รับโจทย์ว่าต้องการชิ้นงานที่มีความแข็งพอที่จะยกเนื้อเยื่อส่วนที่เป็นแผลเป็นได้ จึงเลือกใช้วัสดุเรซิ่น ซึ่งมีข้อดีคือ แข็งแรง แต่ข้อเสียคือความแข็งที่มากเกินไป อุปกรณ์จึงขูดกับเนื้อเยื่อทำให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บ รู้สึกไม่สบายตัว

จึงมีการปรับเปลี่ยนเป็นพลาสติกโพลิเมอร์ชนิดที่มีความนุ่ม และ มีสีขาวใกล้เคียงกับสีผิวมากที่สุด แต่ปรากฏว่าเมื่อผู้ป่วยใส่ไปโรงเรียน หรือ ไปพบปะผู้คนก็มักจะมีคนถามว่าใส่อะไร เพราะสีขาวตัดกับสีผิวหนัง ทำให้มองเห็นชัดเจน จึงพยายามแก้โจทย์ ปรับหาวัสดุที่เข้ากับผิวหนังได้มากกว่า เป็นที่มาของวัสดุโพลิเมอร์ TPU เพราะสามารถที่จะพิมพ์ชิ้นงานให้มีความใสมากที่สุด เมื่อสวมใส่แล้ว ไม่เป็นที่สะดุดตา

คณะทำงานยังเตรียมพัฒนาชิ้นงาน CMU-ดันพอดี จากองค์ความรู้ที่มากขึ้น หลังการผลิตชิ้นงานช่วยเหลือผู้ป่วยไปแล้วเกือบ 3,000 ชิ้น ทำให้วิศวกรพอที่จะทราบว่ารูปร่างของอุปกรณ์ดันปลายจมูก ควรมีขนาดประมาณไหนที่จะเหมาะกับน้องๆ แต่ละกลุ่ม
ในการทำชิ้นงาน ผู้ป่วยอาจไม่จำเป็นที่จะต้องเข้ามาวัดจมูกอีกต่อไป เพราะสามารถสร้างชิ้นงานที่สามารถเลือกใช้ได้เลยว่าเป็นไซส์ S M หรือ L หรือ จะเป็นการกรณีปากแหว่งเพดานโหว่ด้านซ้าย ด้านขวา หรือ เป็นทั้งสองข้าง เราก็จะมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นตัวเลือกได้ ส่วนผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอื่นๆ ที่สามารถจะต่อยอดได้ คือ การทำอุปกรณ์ปรับรูปจมูก สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุ หรือ การทำอุปกรณ์ เพื่อความสวยงามสำหรับบุคคลทั่วไป
CMU-Doneพอดี ได้รับรางวัลจากสถาบันต่างๆ มากมายทั้งใน และ ต่างประเทศ ล่าสุดได้รับรางวัลสิ่งประดิษฐ์ระดับเกียรติคุณ สาขาวิศวกรรมศาสตร์และอุตสาหกรรมวิจัย จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในพิธีมอบรางวัลการวิจัยแห่งชาติ โดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ถือเป็นหนึ่งในผลงานวิจัย และ สิ่งประดิษฐ์ ที่เกิดจากการพัฒนา นวัตกรรมในสาขาต่าง ๆ ซึ่งช่วยแก้ปัญหาให้แก่ผู้ป่วยโรคปากแหว่งเพดานโหว่ได้เป็นอย่างดี
รายงาน : พยุงศักดิ์ ศรีวิชัย ผู้สื่อข่าวอาวุโสไทยพีบีเอส ศูนย์ข่าวภาคเหนือ