วันนี้ (22 มี.ค.2568) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นำโดย พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ รอง ผกก.1 บก.ปทส. เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ศูนย์ข่าวกรองอาชญากรรมสัตว์ป่า และกองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา ร่วมกันจับกุม นายบรรพจน์ โดยกล่าวหาว่า "มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต" ภายในบริเวณบ้านพักย่านเขตหนองจอก กทม. พร้อมนำส่ง พงส.กก.1 บก.ปทส.ดำเนินคดี อีกทั้งยังได้ร่วมกันตรวจยึด
- นกเค้าจุด จำนวน 2 ตัว
- ลิงลมหรือนางอาย จำนวน 1 ตัว
- เต่าบึงหัวเหลือง จำนวน 1 ตัว
- เต่าหับ จำนวน 2 ตัว

สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. ได้รับร้องเรียนว่ามีการโพสซื้อขายสัตว์ป่าคุ้มครองผ่านสื่อออนไลน์ จากการสืบสวนของชุดสืบสวน ได้รวบรวมหลักฐานขออนุมัติศาลขอหมายค้นบ้านพักย่านหนองจอก กทม.
เมื่อวันที่ 21 มี.ค.2568 เวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. นำหมายค้นของศาลอาญามีนบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ศูนย์ข่าวกรองอาชญากรรมสัตว์ป่า และกองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา เข้าทำการตรวจสอบสถานที่ดังกล่าว
ผลการตรวจค้นภายในบ้านพักของ นายบรรพจน์ พบนกเค้าจุด จำนวน 2 ตัว, ลิงลมหรือนางอาย จำนวน 1 ตัว, เต่าบึงหัวเหลือง จำนวน 1 ตัว, เต่าหับ จำนวน 2 ตัว ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง จึงได้แจ้งข้อหา "มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต" และจับกุม นายบรรพจน์ พร้อมของกลาง ส่ง พงส.กก.1 บก.ปทส. ดำเนินคดีต่อไป ส่วนของกลาง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำ ส่งมอบให้กลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืชดูแลต่อ

จากสอบถาม นายบรรพจน์ ให้การว่าลิงลมได้ซื้อมาเลี้ยงนานแล้ว ส่วนสัตว์อื่น ๆ เก็บได้ แล้วนำมาเลี้ยง ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ขอประชาสัมพันธ์ ชี้แจงว่าลิงลม หรือ นางอาย เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองประเภท สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 และบัญชีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) ในบัญชีหมายเลข 1 (App. I) และตาม IUCN Red Data List จัดให้อยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์ (EN) และเป็นสัตว์ป่าที่ไม่สามารถครอบครอง เลี้ยง และเพาะพันธุ์ได้หากพบเห็นสัตว์ป่าพลัดหลง สัตว์ป่าบาดเจ็บ แจ้งได้ที่สายด่วน 1362 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
อ่านข่าวอื่น :