กรณี ด.ต.ศุภมิตร พวงประเสริฐ ผู้บังคับหมู่งานจราจร สภ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี มีอาการชักเกร็งจากสาเหตุเส้นเลือดในสมองแตก ระหว่างที่มีกลุ่มคนถ่ายทอดสดผ่านสื่อออนไลน์ ขณะปฏิบัติหน้าที่ริมถนนสายเอเชีย ต.บางน้ำเชี่ยว อ.พรหมบุรี
วันนี้ (20 มี.ค.2568) โรงพยาบาลตำรวจรับตัว ด.ต.ศุภมิตร จากโรงพยาบาลสิงห์บุรี มารักษาต่อที่โรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากมีอาการเลือดออกในสมองซีกซ้าย แขนซ้ายอ่อนแรง หลังเกิดความเครียดจากเหตุการณ์ดังกล่าว
พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ตำรวจไซเบอร์ รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งถูกนำไปเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ทุกช่องทาง เพื่อนำมาตรวจสอบ เนื่องจากพบว่ามีการตัดต่อคลิปและใส่ข้อความที่เป็นเท็จ บิดเบือนความจริง สร้างความเกลียดชังให้กับตำรวจ
ส่วนความผิดที่เกี่ยวข้องพบว่า พฤติกรรมของผู้ถ่ายคลิปเข้าข่ายความผิดก่อความเดือดร้อนรำคาญให้กับผู้อื่น และข้อหาขัดขวางการทำงานของเจ้าพนักงานขณะปฎิบัติหน้าที่

รอง ผบ.ตร. ระบุเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันการตรวจจับผู้ขับขี่รถด้วยความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด สามารถทำได้ 2 วิธี คือ การติดตั้งกล้องตรวจจับความเร็วอัตโนมัติไว้ตามจุดที่มีการประเมินพบว่ามีการขับรถเร็วเป็นประจำ แต่วิธีนี้ใช้งบประมาณในการติดตั้งสูง รวมทั้งผู้ใช้เส้นทางเป็นประจำจะคุ้นชินและจะลดความเร็วก่อนถึงช่วงที่มีการตรวจจับ จึงไม่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อีกวิธีคือการตั้งกล้องจับความเร็วที่มีตำรวจนั่งควบคุม สามารถเคลื่อนย้ายจุดที่จะสุ่มตรวจได้ง่าย ทำให้ผู้ใช้เส้นทางไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะถูกตรวจจับความเร็วบริเวณใด ซึ่งทั้ง 2 วิธีจะต้องใช้ควบคู่กัน เพื่อให้สามารถจับกุมผู้ขับขี่รถเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดได้มากที่สุด
ตำรวจไซเบอร์ตรวจสอบเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมฯ หรือไม่
ขณะที่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจสอบว่ากลุ่มบุคคลที่ถ่ายทอดสดผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เข้าข่ายการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์หรือไม่
ส่วนกรณีที่ไม่ให้การช่วยเหลือบุคคลที่มีอาการป่วยหรือได้รับบาดเจ็บ ต้องแยกการกระทำความผิดเป็น 2 ส่วน ซึ่งในส่วนของตำรวจ สอท. จะรับผิดชอบในเรื่องการกระทำความผิดเกี่ยวกับการนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ หรือการกระทำความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์เท่านั้น
ส่วนจะเป็นการขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ หรือเป็นการกระทำที่เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจหรือไม่นั้น ผู้บังคับบัญชาโดยตรงต้องพิจารณาตามข้อกฎหมายว่าเข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมายข้อใดบ้าง
แม้ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจะอยู่ในสภาพหรือมีอาการป่วยอยู่แล้วก็ตาม หากพฤติกรรมของกลุ่มบุคคลที่เข้าไปกดดันเจ้าหน้าที่จนส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ ก็อาจเข้าข่ายกระทำความผิดได้ แต่ยังต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงให้รอบด้าน
อ่านข่าว
"เมย์ วาสนา" ส่งทนายดำเนินคดี "ดิว อริสรา" ฐานยักยอกทรัพย์
ยึดบุหรี่ไฟฟ้านำเข้าจากจีน 1.2 แสนชิ้น มูลค่ากว่า 21 ล้าน
จับอดีตยากูซาหนีคดีซุกไทย ตั้งฐานคอลเซนเตอร์กัมพูชา-เวียดนาม