"ติดแกลม" สังคมผลัก หรือใจสั่งทำ ?
"ชีวิตติดแกลม (Glamorous Lifestyle)" ไม่ใช่คำศัพท์ในตำราแพทย์ แต่เป็นคำที่คนยุคใหม่ใช้เรียกคนที่หมกมุ่นกับการใช้ชีวิตแบบหรูหราเกินฐานะจริง เช่น ซื้อของแพง ๆ เพื่อโชว์ฐานะ ถ่ายรูปคู่รถหรูที่เพิ่งผ่อน หรือกินอาหารมิชลินสตาร์เพื่อให้เพื่อนในโซเชียลอิจฉา ทั้งที่เงินในบัญชีแทบไม่เหลือ
งานวิจัยจากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ปี 2567 "พฤติกรรมติดหรูของคนไทย" พบว่า กลุ่มนี้ไม่ได้จำกัดแค่สินค้าแบรนด์เนม แต่รวมถึงการใช้จ่ายเกินตัวในทุกมิติ เช่น เทคโนโลยี ต้องเป็นโทรศัพท์มือถือรุ่นท็อป ของสะสมอาร์ตทอยหลากหลายคอลเลกชัน หรือแม้แต่ทริปท่องเที่ยวที่เกินงบ ที่น่าสนใจคือ ผู้ชายมีแนวโน้ม "ติดแกลม" มากกว่าผู้หญิงถึงร้อยละ 60 โดยเน้นซื้อของโชว์เทคโนโลยี เช่น นาฬิกาสมาร์ตวอตช์ หรือรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อสร้างภาพความสำเร็จ
โดยเฉพาะคน Gen Z และ Gen Y ที่ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์มากกว่าความมั่นคงทางการเงิน
ข้อมูลจากกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุขไทย ปี 2566 เสริมว่า พฤติกรรมนี้สัมพันธ์กับความกดดันจากสังคมโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงานที่อยู่ในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ซึ่งพบว่ามีผู้ป่วยจิตเวชจากความเครียดและภาวะซึมเศร้าที่เกี่ยวข้องกับหนี้สินเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 จากปีก่อนหน้า หรือราว ๆ 4,000,000 คนทั่วประเทศ สะท้อนว่าการ "ติดแกลม" ไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นผลจากวัฒนธรรมเปรียบเทียบที่คนไทยเผชิญในยุคดิจิทัล

ภาพประกอบข่าว
ภาพประกอบข่าว
โรคทางจิต หรือ แค่พฤติกรรมสุดขั้ว ?
มาถึงคำถามที่ทุกคนอยากรู้ แล้วชีวิตติดแกลม ลักซ์ชูสไตล์ นี่เป็นโรคหรือแค่พฤติกรรมกันแน่ ? งานวิจัยทางจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ในวารสาร Personality and Individual Differences ปี 2564 ชี้ว่า การอวดรวยเกินตัวมักเชื่อมโยงกับ "โรคหลงตัวเอง" หรือ Narcissistic Personality Disorder แต่ไม่ใช่แบบที่คนเข้าใจว่าคือการรักตัวเองมากเกินไป
ความจริงแล้วมันมาจากความรู้สึก "ขาดคุณค่า" หรือ Low Self-Esteem ลึก ๆ ในใจ ผู้วิจัยพบว่า คนกลุ่มนี้ใช้เงินและภาพลักษณ์เป็นเครื่องมือเพื่อให้คนอื่นยอมรับ เพราะกลัวการถูกมองข้ามหรือด้อยค่า การโพสต์รูปกระเป๋าแบรนด์เนม รุ่นลิมิเต็ดเอดิชัน หรือขับรถหรูคันละหลายสิบล้าน จึงไม่ใช่แค่การอวด แต่เป็นการ "พิสูจน์ตัวตน"

ภาพประกอบข่าว
ภาพประกอบข่าว
ถ้าพฤติกรรมนี้หนักขึ้นจนควบคุมไม่ได้ เช่น ใช้เงินจนหมดบัญชี หรือยอมกู้หนี้เพื่อรักษาภาพแกลม อาจเข้าข่าย "Impulse Control Disorder" (ICD) หรือความผิดปกติในการควบคุมแรงกระตุ้น ซึ่งคล้ายกับการติดพนันหรือชอปปิงแบบบ้าคลั่ง งานวิจัยจาก ดร.ไมเคิล แมคคัลล็อก มหาวิทยาลัยไมอามี อธิบายว่า สมองของคนกลุ่มนี้จะหลั่ง โดปามีน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุขออกมามากเกินความจำเป็น ทำให้ผู้มีพฤติกรรมนี้จะยิ่งมีความสุขทุกครั้งที่ได้ซื้อของแพงหรือถูกชื่นชมในโซเชียล
แต่เมื่อสารเคมีนี้หมดฤทธิ์ พวกเขาจะรู้สึกว่างเปล่าและต้องหาทางเติมใหม่ด้วยการใช้เงินมากขึ้น กลายเป็นวงจรที่หยุดยาก
กรมสุขภาพจิตของไทยยังระบุในรายงานประจำปี 2566 ว่า ผู้ที่มีพฤติกรรมใช้เงินเกินตัวจนเกิดหนี้สิน มีโอกาสสูงถึงร้อยละ 40 ที่จะพัฒนาไปเป็น "โรคซึมเศร้า" หรือ "โรควิตกกังวล" โดยเฉพาะกลุ่มที่อายุ 25-35 ปี ซึ่งมักเผชิญหนี้จากบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล สถิติจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (2567) เสริมว่า หนี้ครัวเรือนไทยพุ่งสูงถึง 16.4 ล้านล้านบาท และร้อยละ 30 ของหนี้เหล่านี้มาจากการบริโภคเกินตัว ซึ่งเชื่อมโยงกับพฤติกรรมติดแกลมโดยตรง
องค์การอนามัยโลก (WHO) จัดให้ "โรคติดการพนัน หรือ Pathological Gambling" เป็นโรคจิตเวช และพฤติกรรม "ติดแกลม" มีลักษณะคล้ายกัน เช่น รู้ว่าผิดแต่หยุดไม่ได้ เพราะสมองเสพติดการถูกชื่นชมหรือรู้สึกเหนือกว่า
สรุปว่า ถ้าคุณแค่ชอบโพสต์รูปสวย ๆ อวดเพื่อนบ้างเป็นครั้งคราว หรือซื้อของแพงเพื่อให้รางวัลตัวเอง นี่อาจเป็นแค่ "พฤติกรรม" ที่ได้รับอิทธิพลจากสังคม แต่ถ้าถึงขั้นหยุดไม่ได้ ใช้เงินจนล้มละลาย หรือรู้สึกชีวิตพังถ้าไม่ได้อวดรวย แบบนี้อาจเข้าข่าย "โรคทางจิต" เช่น Impulse Control Disorder หรือ Narcissism และพัฒนาเข้าข่ายภาวะซึมเศร้า

ภาพประกอบข่าว
ภาพประกอบข่าว
เช็กสิ ! ชีวิตช่วงนี้ "กินหรูอยู่แพงเกิน" ไปหรือเปล่า ?
- ฉันซื้อของแพง ๆ หรือใช้เงินเกินตัวเพื่ออะไร ? ถ้าคำตอบคือ "อยากให้คนอื่นเห็น" หรือ "รู้สึกดีแค่แป๊บเดียว" มากกว่าความจำเป็นหรือความสุขจริง ๆ อาจถึงเวลาต้องทบทวนตัวเอง
- ถ้าคุณรีบโพสต์รูปทุกครั้งที่ได้ของใหม่หรือไปสถานที่หรู ๆ และรู้สึกแย่เมื่อไม่มีอะไรอวด หรือไม่มีของไปเปรียบเทียบกับคนอื่น นี่อาจเป็นสัญญาณว่าคุณกำลังติดกับดัก "ติดแกลม"
- หลังการจ่ายเงินซื้อของแล้ว ถ้าคุณรู้สึกถึงความสุขแต่เพียงชั่วครู่ และตามมาด้วยความกังวลหรือกลัวคนไม่ชื่นชม อาจเป็นสัญญาณจากสมองส่วน Prefrontal Cortex ว่าคุณกำลังเสียการควบคุมอารมณ์และการตัดสินใจ
- เสียงทักท้วงจากคนรอบข้าง ? ถ้าเพื่อนหรือครอบครัวบอกว่า "ใช้เงินเยอะไปนะ" หรือ "ทำไมต้องโชว์ตลอด ?" ลองรับฟัง เพราะบางทีคนใกล้ตัวอาจมองเห็นสิ่งที่คุณมองข้าม
- ลองเอาโค้ดลับนี้ไป CHECK ดูว่า "กระเป๋าเต็ม แต่ใจว่างเปล่า ติดแกลมหรือแค่ตามเขา ?"
- C - Cash : เงินในกระเป๋าหมดไปกับความแกลมมากแค่ไหน ?
- H - Happiness : ความสุขมาจากของแพง หรือแค่ยอดไลก์ ?
- E - External : ใช้เงินเพื่อคนอื่นเห็น หรือเพื่อตัวเอง ?
- C - Comments : คนรอบตัวทักเรื่องใช้เงินบ่อยไหม ?
- K - Keep : ยังควบคุมตัวเองได้ หรือเริ่มหยุดไม่ได้ ?

ภาพประกอบข่าว
ภาพประกอบข่าว
How to หยุดความแกลม ก่อนกินแกลบ
- หยุดเปรียบเทียบ แล้วโฟกัสที่ตัวเอง ลดเวลาเสพโซเชียลมีเดีย แล้วลองจดบันทึกว่า "วันนี้ฉันมีความสุขจากอะไรบ้างที่ไม่ต้องใช้เงิน ? เพื่อเพิ่มความพอใจในชีวิตจริง ๆ กรมสุขภาพจิตระบุว่าการมีสติกับปัจจุบันช่วยลดความเครียดได้ถึงร้อยละ 30
- ตั้งงบประมาณชัดเจน ก่อนจะตัดสินใจซื้ออะไรสักอย่าง ถามตัวเองว่า "ฉันต้องการจริง ๆ หรือแค่อยากโชว์ ?" ตั้งงบสำหรับของฟุ่มเฟือยแต่ละเดือน และห้ามใช้เกินเด็ดขาด วิธีนี้ช่วยสร้างวินัยและควบคุมแรงกระตุ้นจากโดปามีนที่พุ่งสูงตอนชอปปิง
- หา "ความสุขจากสิ่งสำคัญ" ลองทำกิจกรรมง่าย ๆ เช่น อ่านหนังสือ ทำอาหาร หรือออกกำลังกาย หรือกิจกรรมกับสมาชิกครอบครัว
- คุยกับตัวเองหน้ากระจก อาจฟังดูแปลก แต่ได้ผลจริง! ยืนมองตัวเองแล้วพูดว่า "ฉันมีค่าพอ ไม่ต้องพิสูจน์ด้วยของแพง" การพูดเชิงบวกช่วยลดความรู้สึกขาดคุณค่าในตัวเองแล้วเชื่อว่าคุณค่ามาจากของแพง หรือการมีชีวิตติดหรู ลักซ์ชู every minutes
- ลองเอาโค้ดลับนี้ไป STOP สงบจิตสงบใจกันดู "แกลมแท้ไม่ต้องโชว์ ความสุขแท้ไม่ต้องโพสต์"
- S - Stop Comparing : หยุดเปรียบเทียบกับคนอื่น
- T - Take Control : ตั้งงบ คุมใจ ไม่ให้เกิน
- O - Own Happiness : หาความสุขจากสิ่งเล็ก ๆ ไม่ต้องแพง
- P - Positive Talk : คุยกับตัวเองในแง่ดี ฉันมีค่าโดยไม่ต้องอวด

ภาพประกอบข่าว
ภาพประกอบข่าว
ถ้าชีวิตติดแกลมเกินไป ก็พักได้นะ
ถ้าสังเกตแล้วรู้สึกว่าตัวเองเริ่มควบคุมพฤติกรรมติดแกลมไม่ได้ หรือเครียดหนักจนจิตใจเริ่มพัง ลองเปิดใจขอคำปรึกษาจากแหล่งในประเทศไทยเหล่านี้ดู อย่าอายที่จะยื่นมือขอความช่วยเหลือ เพราะการดูแลใจตัวเองสำคัญกว่าภาพแกลมที่สร้างขึ้นมาแน่นอน
- สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ของกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ให้คำปรึกษาฟรี 24 ชั่วโมง
- เว็บไซต์กรมสุขภาพจิต www.dmh.go.th
- เช็กสุขภาพจิตเบื้องต้นผ่านแอปพลิเคชัน "Mental Health Checkup"
- ถ้าอยากเจอหมอตัวเป็น ๆ แบบไม่แพง ลองไปที่โรงพยาบาลรัฐ อย่าง รพ.ศิริราช หรือ รพ.รามาธิบดี มีคลินิกจิตเวชในราคาย่อมเยา เริ่มต้นแค่ 200-500 บาท/ครั้ง
- ศูนย์ Knowing Mind Center ให้บริการปรึกษานักจิตวิทยาทั้งแบบเจอตัวและออนไลน์ เน้นปัญหาชีวิตและอารมณ์ เริ่มต้นประมาณ 1,000 บาท/ชั่วโมง
- ถ้าสะดวกออนไลน์ Ooca เป็นแพลตฟอร์มที่เริ่มต้น 450 บาท/30 นาที เหมาะกับคนไม่ว่างไปโรงพยาบาล
- ถ้าอยากระบายแบบไม่เปิดเผยตัวตน สายด่วนสะมาริตันส์ โทร 02-713-6793 ฟรี ช่วยได้ทุกเวลา

ภาพประกอบข่าว
ภาพประกอบข่าว
โชว์รวยแล้วไง ถ้าใจยังกลวง
สุดท้ายแล้ว ชีวิตติดแกลม อวดของแพงให้คนอื่นเห็น ไม่ใช่เรื่องน่าตำหนิอะไร บางคนซื้อกระเป๋าใบละแสน นาฬิกาหรูเรือนละล้าน ก็เป็นการให้รางวัลตัวเองที่ทำงานหนักมาทั้งปี หรือบางคนขับรถป้ายแดงคันใหม่เอี่ยมออกจากโชว์รูมเพื่อให้รู้สึกภูมิใจในความสำเร็จที่ตัวเองทุ่มเทมา มันก็เป็นความสุขที่เข้าใจได้
แต่ถ้าความติดแกลมมันพุ่งเกินขอบเขต ถึงขั้นต้องไปหยิบยืมเงินคนอื่นมาแต่งตัวให้ดูดี ถ่ายรูปลงโซเชียลเรียกยอดไลก์ ใช้จ่ายเกินตัวจนกลายเป็นหนี้ท่วมหัว แถมยังลากความเดือดร้อนไปให้ครอบครัวและเพื่อนฝูง อันนั้นแหละที่น่าจะต้องหยุดคิดสักนิด
เสียงชมจากคนอื่นที่บอกว่าเรารวย เรามีแต่ของแพง ใช้ชีวิตดี อาจฟังดูหูชื่นใจ
แต่คนที่รู้ความจริงทั้งหมดว่านั่นไม่ใช่ชีวิตดี ๆ ที่สร้างด้วยน้ำมือตัวเองเลย
ยังไงมันก็ไม่น่าภูมิใจ
คุณค่าของคนทุกคน ไม่ได้วัดจากของแพงที่ถือ หรือ ยอดผู้ติดตามในโซเชียล แต่มันอยู่ที่สิ่งที่เราสร้างขึ้นมาด้วยมือตัวเอง ความสุขที่แท้จริงและราคาไม่แพง แถมโชว์ได้เต็มที่ เช่น การเลี้ยงลูกให้เติบโตดี หรือนั่งหัวเราะกับสมาชิกครอบครัวแบบไม่ต้องประดิษฐ์อะไร

ภาพประกอบข่าว
ภาพประกอบข่าว
การยืนด้วยลำแข้งตัวเองอาจจะต้องเหนื่อย ต้องล้มบ้างเป็นธรรมดา แต่มันมั่นคงและจริงใจ ดีกว่าต้องคอยพิงเงาคนอื่นไปตลอดชีวิต แบบนั้นต่อให้ดูแกลมแค่ไหน สุดท้ายมันก็แค่ภาพลวงตาที่ไม่มีอะไรรองรับอยู่ดี

ภาพประกอบข่าว
ภาพประกอบข่าว
อ่านข่าวอื่น :
"เมย์ วาสนา" ส่งทนายดำเนินคดี "ดิว อริสรา" ฐานยักยอกทรัพย์
"เท่าพิภพ" เผย ปลดล็อก "กม.เหล้า - เบียร์" ช่วยหนุนธุรกิจแอลกอฮอล์ - ท่องเที่ยวโต