วันนี้ (19 มี.ค.2568) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่าด้วยการเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ (ฉบับที่..) พ.ศ…. โดยร่างนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงข้อกำหนดให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและเพิ่มความชัดเจนในการปฏิบัติ สาระสำคัญของการแก้ไข มีดังนี้
- แก้ไขข้อ 4 (4) การใช้สถานที่ในอุทยานฯ : ปรับถ้อยคำให้ชัดเจนและเหมาะสมยิ่งขึ้น โดยกำหนดว่า "การใช้สถานที่เพื่อการใด ๆ ต้องไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย ศีลธรรม หรือวัฒนธรรมอันดีงาม รวมถึงห้ามส่งเสียงดังอื้ออึง หรือกระทำการใดที่รบกวนหรือสร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่บุคคลหรือสัตว์ป่า"
- แก้ไขข้อ 5 (7) การใช้ยานไร้คนขับ : เดิมระบุเฉพาะการใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) แต่ร่างใหม่ขยายครอบคลุมยานไร้คนขับทุกประเภท เช่น ยานภาคพื้นดิน อากาศยาน เรือผิวน้ำ และยานใต้น้ำ โดยกำหนดว่า "การใช้ยานไร้คนขับต้องได้รับอนุญาตจากหัวหน้าอุทยานแห่งชาติ ใช้ได้เฉพาะในพื้นที่ที่กำหนด เพื่อไม่ให้รบกวนนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนหรือสัตว์ป่า และต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง"
- แก้ไขข้อ 6 (3) การจัดกิจกรรม : เพิ่มหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมอุทยานฯ กำหนด สำหรับการจัดกิจกรรม เช่น การแข่งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถจักรยาน วิ่งแข่งขัน วิ่งหรือเดินการกุศล และกิจกรรมอื่นในอุทยานฯ เพื่อประโยชน์ของทางราชการ
- แก้ไขข้อ 6 (7) การดื่มแอลกอฮอล์ : อนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้เฉพาะในบริเวณที่จัดไว้เป็น "สโมสร" และต้องได้รับอนุญาตจากหัวหน้าอุทยานแห่งชาติ โดยเน้นว่าไม่ใช่การเปิดเสรีสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป
- แก้ไขข้อ 8/1 อำนาจหัวหน้าอุทยานฯ : ให้หัวหน้าอุทยานฯ มีอำนาจออกประกาศเปิด-ปิดการท่องเที่ยว พักค้างแรม หรือห้ามกิจกรรมใด ๆ ในอุทยานฯ เพื่อรักษาและฟื้นฟูธรรมชาติ ระบบนิเวศ หรือทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ หรือป้องกันภัยพิบัติสาธารณะ โดยครอบคลุมกรณีฉุกเฉินที่ต้องดำเนินการทันที

ที่มา : กรมอุทยานฯ
ที่มา : กรมอุทยานฯ
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นได้เสร็จสิ้นแล้ว และร่างระเบียบนี้จะถูกส่งให้ตนลงนาม ก่อนส่งต่อไปยังสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายใน 2 เดือน เขากล่าวถึงจุดเด่นที่แตกต่างจากระเบียบเดิม โดยเฉพาะข้อ 6 (7) ที่อนุญาตให้ดื่มแอลกอฮอล์ได้ในบริเวณสโมสรที่หัวหน้าอุทยานฯ กำหนด โดยไม่ต้องสร้างสิ่งปลูกสร้างใหม่ อาจใช้ห้องประชุมหรืออาคารที่มีอยู่แล้ว เพื่อให้เป็นพื้นที่นันทนาการสำหรับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ เป็นหลัก รวมถึงรองรับกลุ่มที่มาจัดกิจกรรม เช่น คณะทัศนศึกษา ไม่ใช่การอนุญาตให้นักท่องเที่ยวทั่วไปดื่มได้ตามใจชอบ
นายอรรถพล อธิบายเพิ่มเติมว่า เป้าหมายคืออำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ได้ผ่อนคลายบ้าง เพราะที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ต้องออกไปสังสรรค์นอกพื้นที่ แล้วขับรถกลับมา ซึ่งเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ การกำหนดพื้นที่สโมสรต้องมิดชิด ไม่ส่งเสียงดังหรือรบกวนผู้อื่น และต้องขออนุญาตก่อนทุกครั้ง ข้อห้ามเดิมที่เข้มงวดมานานเริ่มไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะดื่มได้ตลอดเวลา ยังมีเงื่อนไขชัดเจน และหัวหน้าอุทยานฯ จะใช้ดุลพินิจพิจารณาคำขอ

ที่มา : กรมอุทยานฯ
ที่มา : กรมอุทยานฯ
การปรับปรุงระเบียบครั้งนี้จึงเน้นทั้งการควบคุมพฤติกรรมในอุทยานฯ ให้เหมาะสม และการผ่อนปรนบางส่วนเพื่อความสะดวกของเจ้าหน้าที่และกลุ่มที่ได้รับอนุญาต โดยยังคงรักษาความสงบเรียบร้อยและปกป้องทรัพยากรธรรมชาติเป็นหลัก
อ่านข่าวอื่น :
ชง “พระปรางค์ วัดอรุณฯ” สู่บัญชีชั่วคราว ดันขึ้นทะเบียนมรดกโลก