ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"โรคทางจิตเวช" กับ "โรควิตกกังวล" แตกต่างกันอย่างไร

ไลฟ์สไตล์
10 มี.ค. 68
14:42
252
Logo Thai PBS
"โรคทางจิตเวช" กับ "โรควิตกกังวล" แตกต่างกันอย่างไร
อ่านให้ฟัง
06:19อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

หลายคนอาจสงสัยระหว่างคำว่า "โรคทางจิตเวช" กับ กับ "โรควิตกกังวล" เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร เป็นสิ่งเดียวกันหรือไม่ ในทางการแพทย์ ให้คำนิยามของทั้งสองคำนี้อย่างไร มาหาคำตอบกัน 

โรคทางจิตเวช คือ อะไร  

"โรคทางจิตเวช" เป็นกลุ่มของโรคที่ส่งผลต่อความคิด อารมณ์ พฤติกรรม และการรับรู้ของบุคคล อาจมีอาการรุนแรงจนส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การทำงาน หรือการเข้าสังคม

ตัวอย่างโรคในกลุ่มจิตเวช

  • โรคจิตเภท (Schi zophrenia) - ผู้ป่วยมีอาการหลงผิดหรือหวาดระแวง หูแว่ว ประสาทหลอน หากเป็นแล้วไม่รักษาตั้งแต่ต้น หรือปล่อยทิ้งไว้นาน จะทำให้การรักษามีความยุ่งยาก และผลการรักษาไม่ดีนัก  
  • โรคอารมณ์สองขั้ว (Bipolar Disorder) - จะมีอารมณ์ขึ้นลงรุนแรงเป็นช่วงๆ อารมณ์แปรปรวนรุนแรง มีช่วงซึมเศร้าและช่วงอารมณ์ดีผิดปกติ 

- ช่วงเวลาที่เป็น Manic Episode (ภาวะอารมณ์ดีผิดปกติ) ผู้ป่วยจะรื่นเริงสนุกสนานผิดปกติ มีพลังในการทำกิจกรรมต่างๆ ไม่มีเหน็ดเหนื่อย มีความมั่นใจมาก ขาดความยับยั้งชั่งใจ หากถูกห้ามหรือขัดขวางในสิ่งที่ต้องการจะหงุดหงิด ในรายที่มีความรุนแรงจะพบมีอาการหลงผิดคิดว่ามีพลังวิเศษ

- ช่วงเวลาที่เป็น Depressive Episode (ภาวะซึมเศร้า) ผู้ป่วยจะมีอาการเบื่อหน่าย ซึมเศร้า ร้องไห้ง่าย กินไม่ได้ นอนผิดปกติ(นอนตลดเวลา นอนไม่หลับ หรือไม่นอนเลย) รู้สึกหมดหวัง ชีวิตตัวเองไม่มีคุณค่า ไม่อยากทำอะไรเลย และอาจคิดฆ่าตัวตาย

  • โรคซึมเศร้า (Ma jor Depressive Disorder) - มีภาวะซึมเศร้ารุนแรง เบื่อหน่ายชีวิต มีอากการหดหู่ เป็นโรคทางจิตเวชด้านความผิดปกติของสารเคมีในสมอง สาเหตุอื่นๆ พันธุกรรม สารเสพติด ความเครียด การสูญเสียความรัก ความผิดหวัง ซึมเศร้ารักษาหายได้ด้วยยาหรือรักษาด้วยจิตบำบัด
โรคทางจิตเวชก็เหมือนกับโรคทางกายอื่นๆ ที่รักษาได้และอาการดีขึ้นเมื่อได้รับการดูแลที่เหมาะสม บุคคลที่มีปัญหาทางจิตเวชอาจต้องพบนักจิต วิทยาเพื่อทำจิตบำบัดและปรับพฤติกรรมร่วมด้วย

สาเหตุทั่วไปของการเกิดโรค

  • ปัจจัยโน้มเอียงที่มีอยู่ก่อน ได้แก่ พันธุกรรม พื้นอารมณ์ ลักษณะนิสัย และบุคลิกภาพ
  • ปัจจัยที่เร่งให้เกิดอาการ ได้แก่ ความเครียด ความวิตกกังวล ความผิดปรกติในการหลั่งฮอร์โมนและสารเคมีในสมอง รวมทั้งการที่สมองถูกกระทบกระเทือนหรือการทำงานของ สมองเสื่อมถอย
  • ปัจจัยที่ทำให้อาการป่วยดำเนินต่อไป ได้แก่ การ ไม่ได้รับการบำบัดรักษาที่เหมาะสมและต่อเนื่อง บรร ยากาศความตึงเครียด การขาดทักษะการจัดการอารมณ์และการสื่อสารที่ไม่ดี

โรควิตกกังวล 

โรควิตกกังวล (Anxiety Disorders) เป็นโรคที่อยู่ในกลุ่มของความผิดปกติทางอารมณ์ ผู้ป่วยจะมีจิตใจแปรปรวนอ่อนไหวง่าย ที่พบได้บ่อย คือ โรควิตกกังวลทั่วไป (general anxiety disorder) ลักษณะสำคัญคือมีความกังวล คนปกติอาจมีความวิตกกังวลในบางสถานการณ์ เช่น กังวลเรื่องลูกไปโรงเรียน หรือเริ่มงานใหม่ อาการเหล่านี้มักหายไปเองเมื่อเหตุการณ์ผ่านไป 

แต่ในผู้ที่เป็นโรควิตกกังวลทั่วไป จะมีอาการติดต่อกันนานกว่า 6 เดือน และมักคิดฟุ้งซ่าน กังวลหลายเรื่องในเวลาเดียวกัน ส่วนใหญ่มักเป็นเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น รู้สึกกลัวเกินเหตุ ใจลอย และตกใจง่าย ไม่สามารถหักห้ามใจไม่ให้คิดได้

นอกจากอาการทางจิตใจแล้ว ผู้ป่วยมักมีอาการทางร่างกายร่วมด้วยอย่างน้อย 3 อย่าง เช่น กระสับกระส่าย เหนื่อยง่าย ใจสั่น ปวดตึงกล้ามเนื้อโดยเฉพาะที่ต้นคอ ไหล่ หลัง ใจเต้นเร็วและแรง หายใจไม่อิ่ม ท้องเสีย ปัสสาวะบ่อย มือเท้าเย็น นอนไม่หลับ ไม่มีสมาธิ เป็นต้น

โรควิตกกังวลทั่วไปเกิดจากความผิดปกติทางจิตใจหรือความไม่สมดุลของสารสื่อประสาทในสมอง โรคนี้สามารถรักษาได้ด้วยยาและการบำบัดทางจิตสังคม ซึ่งช่วยปรับความคิดและพฤติกรรมควบคู่กัน

วิธีบรรเทาอาการวิตกกังวลเบื้องต้น

หากกำลังเผชิญกับความวิตกกังวล สามารถบรรเทาอาการได้ด้วยวิธีได้ดังนี้

  • ปรับพฤติกรรมการพักผ่อน นอนหลับให้เพียงพอและเป็นเวลา หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม และเครื่องดื่มชูกำลัง เพราะคาเฟอีนอาจกระตุ้นให้อาการแย่ลง
  • ใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์ หากแพทย์สั่งยา ควรรับประทานให้ครบถ้วนและต่อเนื่อง และหากต้องการซื้อยาหรือสมุนไพรเพิ่มเติม ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อน
  • ฝึกจิตใจให้ผ่อนคลาย ทำสมาธิ ฝึกการหายใจลึกๆ และฝึกปล่อยวาง เพื่อช่วยให้จิตใจสงบและลดความวิตกกังวลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 "โรคทางจิตเวช" และ "วิตกกังวล"

ดังนั้นจึงอาจพูดได้ว่า "โรคทางจิตเวช" เป็นกลุ่มโรคที่มีผลกระทบต่อความคิด การรับรู้ และพฤติกรรมอย่างรุนแรง อาจมีอาการหลงผิดหรือประสาทหลอน ส่วน "โรควิตกกังวล" เป็นกลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกับความเครียดและความกังวลมากเกินไป แต่ไม่มีอาการหลงผิดหรือประสาทหลอน

อ้างอิงข้อมูล : กรมสุขภาพจิต, โรงพยาบาลธัญญารักษ์สงขลา 

อ่านข่าว : ไมเกรน VS เส้นเลือดสมองแตก ปวดหัวแบบไหน อันตรายถึงชีวิต ?

รู้ได้อย่างไรเป็น "โรคอ้วน" ทำไม "น้ำหนัก" ถึงไม่ใช่แค่เรื่องของรูปร่าง

ยาทดแทน "ยาบ้า" รักษานักเสพ แก้วิกฤตนักโทษคดียาเสพติดล้นคุก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง