บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา ที่ช่องหินดาษ ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร มีเจ้าหน้าที่ ตชด.ประจำจุดสกัด จุดตรวจ โดยบริเวณใกล้เคียงเป็นถนนลูกรังและมีไม้กั้น

ส่วนอีกจุดหนึ่งเรียกว่า "ช่องหินหนู" มีการขุดร่องดินและวางลวดหีบเพลงขวางเส้นทางเข้า-ออก ซึ่งเป็นแนวชายแดนไทย-เมียนมาเช่นกัน ซึ่งทั้ง 2 จุด เป็นช่องทางแนวชายแดนใน ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ ที่มีถนน ยานพาหนะสามารถเข้าออกได้

อย่างไรก็ตามยังเป็นจุดที่ถูกกล่าวอ้างว่า เป็นเส้นทางที่ใช้ลำเลียงสินค้าเกษตร เช่น ปาล์มน้ำมัน ยางพาราและวัว จากเมียนมามาขายในไทย รวมทั้งเป็นช่องทางลักลอบนำพาแรงงานข้ามชาติไปประเทศที่ 3 เข้าสู่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
ก่อนหน้านี้มีคลิปภาพ "ค่ายลับ" ที่บันทึกโดยสายข่าวของผู้ตรวจการแผ่นดิน ร่วมกับ กอ.รมน.ภาค 4 เข้าตรวจพบค่ายพักพิงชาวโรฮิงญา ที่อ้างว่าหลบหนีจากการถูกทำร้ายจากทหารเมียนมา เข้ามาอยู่ในพื้นที่ปกครองของกระเหรี่ยง KTLA. และ KNU โดยมีกลุ่มทุน ข้าราชการในพื้นที่บางคน ร่วมกับกลุ่มกองกำลังไม่ทราบฝ่าย (กลุ่มนายสมานฯ) หรือ จ่าสมาน เป็นผู้คุ้มครองนำแรงงานต่างชาติกลุ่มนี้เข้าสู่ราชอาณาจักรไทย ผ่านไปประเทศที่ 3 เข้าสู่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ผ่านทางช่องทางธรรมชาติบริเวณช่องหินหมู ช่องหินดาษ ต.ท่าแซะ โดยคิดค่านำพา คนละ 40,000 บาท

สำหรับพื้นที่ดังกล่าวอยู่ห่างจากแนวเขตชายแดนไทยเข้าไปประมาณ 4-5 กม. หลังตกเป็นข่าวมีการย้ายค่ายลึกเข้าไปประมาณ 10 กม. ซึ่งค่ายนี้ยังไม่มีการเข้าตรวจสอบ
จากการสอบถามทหารกะเหรี่ยงที่อ้างว่าเป็นลูกน้องผู้การจอแอ ทหารกะเหรี่ยงที่รับผิดชอบพื้นที่ ให้ข้อมูลว่า จุดพักของชาวโรฮิงญาที่ปรากฏในคลิป ห่างจากฝั่งไทยประมาณ 20 กม. และจะเดินทางต่อไปยังมาเลเซีย ผ่านช่องทางธรรมชาติ เนิน 491 พร้อมยอมรับว่ามีการลักลอบนำสินค้าเกษตรเข้ามาขายจริง
เวลาเราบรรทุกยางพารา เราก็ติดต่อ ตชด.และทหารด้วย แบ่งกันกินบาท 2 บาท ไม่ใช่เราคนเดียว
อ่านข่าว
วันที่ 2 ส่งชาวจีนเหยื่อแก๊งคอลเซนเตอร์ ล็อต 2 กลับประเทศ
ชื่อนอกจังหวัดโผล่! ขอใช้สิทธิที่ดิน คทช.ท่าตะเกียบของนายทุนจีน
แม่ทีมแฉทุจริตเบิกยา ซัดทอด "พันเอกหญิง" บงการ-ข่มขู่ฟ้องกลับ