ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

จับผู้ต้องหาระดับสั่งการส่งไอซ์ข้ามชาติ ยึดทรัพย์ 23 ล้านบาท

อาชญากรรม
28 ก.พ. 68
11:03
185
Logo Thai PBS
จับผู้ต้องหาระดับสั่งการส่งไอซ์ข้ามชาติ ยึดทรัพย์ 23 ล้านบาท
อ่านให้ฟัง
03:21อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ป.ป.ส.ขยายผลจับผู้ต้องหาระดับสั่งการในเครือข่ายส่งไอซ์ข้ามชาติ ใช้ไทยเป็นที่พัก เตรียมส่งต่อปลายทางประเทศที่ 3 พร้อมยึดทรัพย์ทั้งรถยนต์ นาฬิกาหรู คอนโดฯ รวมกว่า 23 ล้านบาทไว้ตรวจสอบ

วันนี้ (28 ก.พ.2568) เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ตรวจยึดรถยนต์ 2 คัน นาฬิกาหรู สินค้าแบรนด์เนม อาร์ตทอย คอนโดมิเนียม และกิจการร้านกัญชา มูลค่ากว่า 23 ล้านบาท ได้ที่บ้านพักอาศัยและกิจการร้านค้าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

หลังเจ้าหน้าที่ขยายผลจากขบวนการลักลอบส่งไอซ์ จำนวน 1.6 ตัน ซุกซ่อนในม้วนผ้าฝ้าย 33 ม้วน ส่งออกไปยังประเทศที่สาม ซึ่งเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.สามารถจับได้เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา พร้อมผู้ร่วมกระทำความผิดได้ 5 คน เป็นระดับลูกจ้างเครือข่าย

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลหมายจับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้ 4 คน สัญชาติไทยทั้งหมด เป็นถึงระดับผู้สั่งการ และตัวการใหญ่ และการเข้าตรวจค้นเป้าหมายเมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา สามารถจับผู้ต้องหาได้ 1 คน คือ นายปัญจกิตต์ ที่บ้านพักอาศัยย่านพระราม 3

นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพยานหลักฐานต่าง ๆ ภายในห้องพักอาศัย พบเอกสารการส่งออกพัสดุกัญชาไปยังประเทศอังกฤษ ถึง 3 ครั้ง มีหลักฐานเชื่อว่า นายปัญจกิตต์ ผู้ต้องหา เป็นถึงบุคคลสำคัญระดับผู้สั่งการ

ขณะที่ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยว่า นอกจากทรัพย์สินที่ยึดได้ในวันนี้ ยังตรวจพบเส้นทางการเงิน โดยเครือข่ายดังกล่าวนำทรัพย์สินไปลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล ประเภทบิตคอยน์ และคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งยอมรับว่ายังเป็นปัญหาที่เจ้าหน้าที่ไม่มีองค์ความรู้ แต่ปัจจุบันได้เริ่มพัฒนาเจ้าหน้าที่ให้มีความรู้ รวมถึงจะหาอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อใช้ในการยึดทรัพย์สินเหล่านี้จากเครือข่ายค้ายาเสพติด

ข้อมูลการสืบสวนยังพบว่า กระบวนการนี้มีการนำไอซ์เข้ามาจากประเทศทางฝั่งทวีปแอฟริกา ตรวจพบว่ามีปลายทางในประเทศอินเดีย แต่เนื่องจากมีปัญหาในการลักลอบขนส่งเข้าประเทศ จึงใช้ประเทศไทยเป็นจุดพักไอซ์ โดยมีกลุ่มผู้ต้องหาเป็นผู้ให้การช่วยเหลือ และอยู่ในขบวนการดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ในฐานความผิดสมคบการฟอกเงิน โดยจะเร่งติดตามผู้ต้องหาอีก 3 คนมาดำเนินคดี และจะร่วมบูรณาการกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายขยายผลเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติอย่างเป็นรูปธรรม

อ่านข่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง