วันนี้ (25 ก.พ.2568) นายชีวะภาพ ชีวะธรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา โดยที่ประชุมได้เชิญตัวแทนจากฝ่ายเกี่ยวข้องประกอบด้วย ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ, อธิบดีกรมป่าไม้ และ ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ฉะเชิงเทรา แต่ปรากฏว่า ปลัดกระทรวงฯ และอธิบดีมอบหมายเจ้าหน้าที่จากกรมป่าไม้ และ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาแทน
โดยที่ประชุมใช้เวลาซักถามนานร่วม 2 ชั่วโมง ถึงการติดตามเบื้องหลังของกลุ่มทุนใหญ่จากทางกรมป่าไม้เจ้าของพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ที่ทุนจีนเทาเข้าไปบุกรุกว่า เป็นบริษัทใด มีรายละเอียดการเข้าประกอบกิจการเมื่อใด อย่างไร และได้รับมอบที่ดินจากใคร แต่ทางกรมป่าไม้ยังตอบไม่ได้ ทราบแต่ว่า ชื่อ บริษัทมูซังคิง แต่รายละเอียดอื่นยังไม่มีชี้แจงกับ กมธ. บอกแต่เพียงติดตามผ่าน เฟซบุ๊กของบริษัทเท่านั้น ซึ่ง กมธ.ได้แนะนำให้ไปหาข้อมูลล้วงลึกมากกว่านี้ เพราะจะมีผลต่อการฟ้องร้องดำเนินคดีทั้งทางอาญา และทางแพ่ง ที่กรมป่าไม้จะต้องแจ้งความเอาผิดหลังจากนี้
ขณะเดียวกันวันนี้ การนำบุกตรวจค้นสวนทุเรียนทับที่ป่าสงวนฯ ที่ผ่านมา ใน จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อสัปดาห์ก่อน นำโดย นายพัชร์ภารุจ สุคนธร ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งวันนี้ ยังได้นำหลักฐานประกอบด้วยภาพถ่าย และภาพจากการบินสำรวจ แสดงให้ กมธ.ดูด้วย
โดยปรากฏภาพที่มีเสาไฟฟ้า เรียงรายในพื้นที่ถนนทางเข้าสวนทุเรียน ซึ่งนายชีวะภาพ ได้แจ้งให้ทางกรมป่าไม้ สอบถามเพิ่มเติมไปที่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.ฉะเชิงเทรา ว่าได้ติดตั้งเสาไฟฟ้าและเดินกระแสไฟเข้ามาบริเวณสวนทุเรียนตั้งแต่เมื่อใด และค่าไฟที่เกิดขึ้น ใครเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย รวมถึงการให้สอบถามไปยังสำนักงานทรัพยากรน้ำบาดาลถึงการขุดเจาะน้ำบาดาล เพื่อวางระบบท่อฉีดน้ำสวนทุเรียน มีการขออนุญาตหรือไม่
"ข้อสำคัญที่ขอให้ตรวจสอบ เพราะอยากให้เกิดการตรวจสอบและฝ่ายเกี่ยวข้องดำเนินการแจ้งความเอาผิด บริษัท และบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยขอย้ำว่า กรมป่าไม้อย่าเอานอมินีมาเป็นคนผิด ขอให้ไปตรวจสอบและแสวงหาข้อเท็จจริงว่า ตัวการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องแบบนี้ เป็นใครกันบ้าง ทั้งกลุ่มทุน เจ้าหน้าที่ หรือ แม้กระทั่งชาวบ้าน ที่ได้รับการจัดสรรที่ดินจากทาง จ.ฉะเชิงเทรา แล้วเอาไปปล่อยต่อ หรือขายต่อให้บริษัททุนข้ามชาติ ไม่ควรปล่อยไว้เหมือนกัน ต้องโดนดำเนินคดีให้เป็นแบบอย่างด้วย" นาย ชีวะภาพ กล่าว
ทั้งนี้ ที่ประชุมเสร็จสุดในเวลาประมาณ 18.00 น. โดยมีมติให้เชิญตำรวจ พนักงานสอบสวน สภ.ท่าตะเกียบ มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมในการประชุมครั้งถัดไปและรายละเอียดที่ได้แจ้งตัวแทนจากกรมป่าไม้ไปแล้ว เพื่อขยายผลถึงประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้น รวมถึงมาตรการและข้อเสนอแนะต่อฝ่ายเกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ไม่ให้เกิดขึ้นอีก รวมถึงมาตรการถอนรากถอนโคนต้นทุเรียนที่ได้ปลูกไปแล้ว
พร้อมเร่งตรวจสอบการปลูกทุเรียนรุกป่าสงวนในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา จันทบุรี และตราด โดยเชิญฝ่ายที่เกี่ยวข้องชี้แจง
อ่านข่าว :
แกะรอย "นอมินีทุนจีน" ปลูกทุเรียนพันธุ์ "มูซังคิง"กลางป่าไทย
"ชีวะภาพ" เล็งดำเนินคดีทุนจีนบุกรุกพื้นที่ปลูกทุเรียนจันทบุรี-ตราด