“อนุทิน” โดนแซะหลังแก้ รธน.ถูกแช่เย็น ที่มาสนามกอล์ฟเขาใหญ่โดนจุดพลุสอบ

โดยระบุว่า ที่ดิน ส.ป.ก.กว่า 40,000 ไร่ ซึ่งมีมติ ครม.การใช้ที่ดินปฏิรูป ปี 2525 มีการออกโฉนดที่ดินเข้ามาเขต ส.ป.ก.บริเวณนิคมสร้างตนเองลำตะคอง

ทั้งพบว่า ที่ดินดังกล่าวกลายสภาพเป็นโรงแรม สนามกอล์ฟ โครงการจัดสรร แทบไม่มีเกษตรกรเป็นผู้ครอบครองหมดแล้ว ทั้งซัดไปถึงนักการเมืองใหญ่ในคณะรัฐมนตรี ที่มีการสนามกอล์ฟ รีสอร์หรู โดยอาศัยช่องโหว่ทางกฎหมาย

สะเทือนไปถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่มีกิจการสนามกอล์ฟและรีสอร์ทหรูตั้งอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว เท่ากับตกเป็นเป้าสำหรับการตรวจสอบของคณะนายธนดล หนำซ้ำ มีการเชิญกรมที่ดิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมคณะไปตรวจสอบด้วย

ร้อนถึงกรมที่ดิน ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ที่มีนายพรพจน์ เพ็ญพาส เป็นอธิบดี ต้องออกโรงปฏิเสธทันทีว่า ยังไม่ได้รับการประสานอย่างเป็นทางการ สำหรับลงพื้นที่ตรวจสอบ และซัดกลับว่า พื้นที่ที่อ้างถึง เป็นการออกโฉนดที่ดินจากหลักฐาน น.ค.3 เป็นเอกสารที่ออกต่อเนื่องจาก น.ค.1 ซึ่งเป็นหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตนิคมสร้างตนเอง

ออกโดยกรมประชาสงเคราะห์ หรือกรมพัฒนาสังคมฯ กระทรวงพัฒนาสังคมฯ ปัจจุบัน ออกให้กับบุคคลที่ได้รับการคัดเลือกเป็นสมาชิกนิคม จึงไม่เกี่ยวกับกรมที่ดิน และให้ไปตรวจสอบกับกรมพัฒนาสังคมฯ แทน

เป็นปมร้อน เพราะถูกปล่อยเป็นข่าวในระหว่างความขัดแย้งของพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย กำลังระอุ

ล่าสุดคือการประชุมรัฐสภาพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไข มาตรา 256 เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทยประกาศไม่ร่วมเป็นองค์ประชุม และมีส่วนทำให้การประชุมรัฐสภาพิจารณาวาระนี้ ล่มทั้ง 2 วันติดต่อกัน ท่ามกลางเสียงวิพากษ์ในวงกว้าง ถึงความรับผิดชอบและทำหน้าที่ของทั้ง สส.และ สว. ที่ละเลย ทั้งที่มีเงินเดือนและสวัสดิการมากมาย และนำไปสู่กระแสเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา นำโดยพรรคประชาชน

ไม่ใช่ครั้งแรกที่พรรคภูมิใจไทยเห็นต่าง หรือไม่เอากับรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย กระทั่งเคยถูกทั้งเหน็บจาก “นายใหญ่” ในพรรคเพื่อไทยหลายครั้ง การตรวจสอบที่ดินสนามกอล์ฟเขาใหญ่ จึงหลีกเลี่ยงไม่พ้นจะถูกมองว่า เกี่ยวโยงกับความขัดแย้งระหว่าง 2 พรรคใหญ่ และอาจเป็นการ “เอาคืน”

แม้สนามกอล์ฟแห่งนี้ จะเป็นที่ที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นำหลานๆ และคนในครอบครัวไปพักผ่อน โชว์ลูกคอร้องคาราโอเกะ โดยมีนายอนุทิน ทำหน้าที่ลูกคู่ และยังเป็นสนามที่ทั้งคู่ออกรอบร่วมกันบอสใหญ่ธุรกิจสำคัญของประเทศ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 ก่อนหน้าที่นายเศรษฐา ทวีสิน จะถูกสอยจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี

ความจริงเป็นเรื่องปกติและสมควร ที่ต้องมีการตรวจสอบความถูกต้อง ในเรื่องที่ไม่กระจ่างหรือสังคมค้างคาใจ รวมทั้งเรื่องที่มาของที่ดินสนามกอล์ฟ ที่นายอนุทินพยายามแจกแจงว่า เป็นกิจการของครอบครัว ได้มาตั้งแต่สมัย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล อดีตรัฐมนตรีมหาดไทย ซึ่งเป็นบิดา ยืนยันได้มาอย่างสุจริต เพราะซื้อจากชาวบ้าน มีโฉนดมีเอกสารสิทธิ์ครบ ตอนโอนก็ไปโอนที่กรมที่ดิน หากออกโฉนดที่ไม่ถูกต้อง ต้องไปไล่บี้กับคนที่ออกให้เมื่อ 60 ปีก่อน

ซึ่งการตรวจสอบจะก่อให้เกิดความกระจ่าง ว่าที่ดินดังกล่าว รวมทั้งที่ดินบริเวณใกล้เคียง ซึ่งเป็นทำเลทองโครงการแบบวีไอพี ท่ามกลางธรรมชาติสวยงาม ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวาง ติดทั้งบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และอุทยานแห่งชาติทับลาน ที่เพิ่งมีความพยายามจะเฉือนพื้นที่กว่า 2.6 แสนไร่ เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มนายทุนมาตลอดจริงหรือไม่ มีที่มาและการออกเอกสารสิทธิ์ถูกต้อง หรือมีปัญหาทับซ้อนกับที่ดิน ส.ป.ก.อย่างที่นายธนดล ระบุ

แต่ต้องเอาจริงเอาจัง ไม่ใช่ทำเป็นขึงขัง แค่ตอนแรกแล้วก็เหลวไม่เป็นท่า เพราะก่อนหน้านี้ การตรวจสอบรีสอร์ทและร้านกาแฟหรูที่ไร่ภูนับดาว อ.มวกเหล็ก สระบุรี ที่เกี่ยวโยงไปถึงคนในตระกูลใหญ่ เจ้าของกิจการให้กู้ยิมเงิน แต่มีชื่อคนในตระกูลเป็นผู้ได้รับที่ดิน ส.ป.ก. ตอนนี้ข่าวได้เงียบหายไป หลังจากมีข่าวว่า ถูกเบรกจากเจ้ากระทรวง อ้าง รมช.เกษตรฯ ขอไว้ เกรงจะถูกโยงว่า เป็นการกลั่นแกล้งการเมือง

กรณีนี้ หากเป็นเกมการเมืองอย่างที่นายอนุทินระบุ จะมีผลต่อประเด็นความเชื่อถือ และถูกวิพากษ์ในวงกว้างว่าเป็นเรื่องที่มีความสลับซับซ้อน เพราะมีปม “เจ้านายของเจ้านาย” มาเกี่ยวโยงแบบคนละพรรคแต่พวกเดียวกัน และจะเป็นประเด็นให้มีการวิพากษ์ในสภากาแฟและวงสนทนาของคอการเมืองทั้งหลาย แต่หากตรวจสอบแล้วไม่ใช้ จะเป็นผลดีต่อทุกฝ่าย

จึงถูกจับตาอย่างน่าสนใจว่า ทางเลือกและบทสรุปสุดท้ายเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร จะเข้าข่าย “มวยล้ม” หรือไม่ หรือสร้างความกระจ่างได้แบบหายกังขาและข้อสงสัยได้จริง ๆ

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส

อ่านข่าว : ทหารยันชายแดนไทย-กัมพูชาด้านช่องอานม้า สถานการณ์ยังปกติ

ชาวนาทั่วปท.เตรียมบุกทำเนียบ 20 ก.พ.นี้ ร้องราคาร่วงหนัก “พิชัย” สั่งประชุมด่วน

"กัณวีร์" แนะคัดกรอง "ผู้เสียหาย" แก๊งคอลเซนเตอร์ ช่วยสกัดขบวนการค้ามนุษย์