แหลงใต้ ไม่เป็นยังรักอยู่ไหม
ประโยคแรกที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีพูดคุยกับประชาชนที่มารอต้อนรับ บริวณจุดชมวิวน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ก่อนขอบคุณชาวพัทลุงที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
โดยระบุว่า ก่อนลงพื้นที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ทำการบ้านมาก่อนพบปะชาวบ้านในพื้นที่ เมื่อได้ลงพื้นที่รู้สึกดีใจที่ได้ฟังปัญหาทั้งจากผู้ว่าราชการจังหวัด และคนในพื้นที่ รู้ปัญหาดีที่สุด และยังมีการเสนอวิธีการแก้ปัญหาเพิ่มรายได้ให้ตัวเองได้
ถ้าประชาชนรวย รัฐบาลและประเทศก็อยู่ได้ พร้อมกันนี้ยังขอบคุณที่ยังนึกถึงนายกทักษิณ ซึ่งถือว่าเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาพื้นที่ด้วย
โดยนายกรัฐมนตรี และเยี่ยมชมป้อนอาหารให้ควายน้ำ สัญลักษณ์ของทะเลน้อย พร้อมรับฟังปัญหาของผู้เลี้ยงควายน้ำ ที่ระบุว่า มีปัญหาด้านการตลาด ไม่มีแหล่งขาย โดยเฉพาะช่วง 3 ปีที่ผ่านมาแทบขายควายไม่ได้
อ่านข่าว เช็กคิวครม.สัญจรนัดแรกลุยสงขลา-พัทลุง 17-18 ก.พ.
นอกจากนี้ยังมีปัญหาวัชพืชในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลน้อย ที่มีปริมาณมาก และต้องการให้ครม.สัญจรพรุ่งนี้ (18 ก.พ.) พิจารณาอนุมัติงบกว่า 200 บาท เพื่อขุดลอกและกำจัดวัชพืชทั้งระบบพื้นที่กว่า 3,000 ไร่ เพื่อเพิ่มพื้นที่รองรับน้ำและทำให้อัตราการระบายน้ำเร็วขึ้นในช่วงน้ำหลาก
นอกจากนี้ ยังเป็นการพัฒนาด้านการท่องเที่ยว หากกำจัดวัชพืชออกจากพื้นที่ จะทำให้ดอกบัวแดง สามารถเติบโตได้เหมือนในอดีต
อ่านข่าว "ภูมิธรรม" ปัดรอยร้าวรัฐบาล หลัง "อนุทิน" ถูกตรวจสอบสนามกอล์ฟเขาใหญ่
นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมบูธสินค้าโอท็อปที่นำมาจัดแสดง ทั้งด้านอาหารและเสื้อผ้า มีการเยี่ยมชมการพิมพ์ผ้าจากธรรมชาติ และได้ทดลองทำตอกสีบนผ้า
นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมบูธสินค้าโอท็อปที่นำมาจัดแสดง ทั้งด้านอาหารและเสื้อผ้า มีการเยี่ยมชมการพิมพ์ผ้าจากธรรมชาติ และได้ทดลองทำตอกสีบนผ้า
ก่อนเดินทางกลับ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลอยากแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนให้หมดไป ไม่ใช่แก้ได้ปีเดียว พร้อมกันนี้ขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพ และขอเป็นกำลังใจให้ประชาชนทุกคน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของประเทศ
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมบูธสินค้าโอท็อปที่นำมาจัดแสดง ทั้งด้านอาหารและเสื้อผ้า มีการเยี่ยมชมการพิมพ์ผ้าจากธรรมชาติ และได้ทดลองทำตอกสีบนผ้า
รวมทั้งเยี่ยมชมทักทายชาวบ้านที่แสดงการผลิตกระจูดในสมัยอดีต ก่อนจะทักทายชาวบ้านในพื้นที่อย่างเป็นกันเอง และชมการแสดงมโนราห์ตัวอ่อน ของเด็กๆ ที่มาแสดงเป็นการต้อนรับ
อ่านข่าว "พริษฐ์" ลั่น 44 สส.ชงแก้มาตรา 112 ไม่ผิดจริยธรรม
เล็งของบพัฒนาท่องเที่ยว-แก้น้ำท่วมรวม 700 ล้าน
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าววว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2568 ในวันพรุ่งนี้ (18 ก.พ.) จะมีการอนุมัติงบในพื้นที่ภาคใต้ทั้งฝั่งอันดามันและฝั่งอ่าวไทย โดยแบ่งเป็น จ.สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ซึ่งจะของบประมาณเพื่อฟื้นฟูสาธารณูปโภคหลังถูกอุทกภัย รวมวงเงิน 302 ล้านบาท ขณะเดียวกันจะมีการพิจารณาส่งนักเรียนที่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เพื่อไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย
นอกจากนี้จ.สงขลา จะมีการพิจารณาพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวงบกว่า 400 ล้านบาท ทั้งการดูแลโลมาอิรวดี ในทะเลสาบสงขลา โดยเป็นแผนระยะเวลา 5 ปี ขณะเดียวกันจะมีการส่งข้อมูลท่าอากาศยานเบตง จ.ยะลา ให้กับนายกรัฐมนตรีด้วย เนื่องจากมีเครื่องบินพาณิชย์ มาลงครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนพ.ย.2566
โดยพรุ่งนี้ นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปที่ด่านสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา เวลา 15.00 น. เพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินการและกรณีที่ด่านสะเดาแห่งใหม่ ยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้ เนื่องจากจะต้องสร้างถนนเชื่อมต่อไปอีก 300 เมตร
ก่อนหน้านี้องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เคยเสนอของงบไว้แล้ว 28 ล้านบาท ดังนั้นหาก ครม.พิจารณาก็จะเปิดใช้บริการได้ เพื่อลดความแออัดของด่านด้านนอก
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกรัฐบาล
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกรัฐบาล
ส่วนกรณีที่จะต้องมีการยกระดับรถไฟรางคู่เป็นรถไฟนานาชาติ บริเวณสถานีปาดังเบซาร์ นายจิรายุ กล่าวว่า ถือเป็นจุดสำคัญที่จะต้องพัฒนา เพราะจะทำให้เกิดการเชื่อมต่อคมนาคมขนส่งสินค้าจากสิงคโปร์ มาเลเซีย มายังพื้นที่ภาคใต้ และผ่านไปยังประเทศในอินโดจีน ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรี เคยสั่งการไว้แล้ว และจะรายงานให้ ครม.รับทราบในวันพรุ่งนี้ (18 ก.พ.)
ขณะที่โครงการแลนด์บริดจ์ หลังจากที่นายกรัฐมนตรี เชิญชวนนักลงทุนจากสจีน ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งศึกษา และถอดแบบให้ชัดเจน เพื่อต่อ ยอดจากรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี
อ่านข่าว
ศาลสงขลาเลื่อนอ่านคำพิพากษา คดีบุกรุกโบราณเขาน้อย เป็นวันที่ 25 ก.พ.