วันนี้ (17 ก.พ.2568) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.สงขลา และจ.พัทลุง ในวันที่ 17–18 ก.พ.นี้ เพื่อประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2568 พร้อมตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย รับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ เพื่อผลักดันนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
โดยนายรัฐมนตรี จะตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ จ.พัทลุง ก่อนเดินทางต่อไปยังจ.สงขลา เพื่อติดตามกระบวนการผลิต และส่งออกอาหารทะเล การส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมทั้งติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างถนนเชื่อมด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ กับด่านบูกิตกายูฮิตัม ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นโครงการที่จะช่วยเพิ่มความรวดเร็วและอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าและการเดินทางของนักท่องเที่ยวอีกด้วย
ผ้าบาติก “ลายสมิหลา”
น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันที่ 18 ก.พ.นี้ ทางจ.สงขลา เตรียมมอบเสื้อให้ น.ส.แพทองธาร พร้อมครม.สวมใส่ ซึ่งเป็นเสื้อผ้าบาติกลายสมิหลาได้รับแรงบันดาลใจจากรูปปั้นนางเงือกทอง ณ ชายหาดสมิหลา อันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสงขลา มีทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติแวะเวียนมาเช็คอินกันอย่างไม่ขาดสาย
สีสันลวดลายบนผืนผ้า มาจากการผสมผสานระหว่างรูปปั้นนางเงือกทองและท้องทะเลอีกทั้งในกระบวนการผลิตยังได้นำเทคนิคการลงเกลือทะเลถึงสามชั้นเพื่อให้ผืนผ้ามีความสดใสเหมือนหนึ่งท้องทะเลและสีติดทนนานใครได้สวมใส่ผ้าผืนนี้เสมือนได้อยู่ท่ามกลางบรรยากาศท้องทะเลที่งดงามและเสียงเกลียวคลื่นกระทบฝั่ง ของชายหาดสมิหลา
เสื้อผ้าบาติกลายสมิหลาได้รับแรงบันดาลใจจากรูปปั้นนางเงือกทอง ณ ชายหาดสมิหลา ที่เตรียมมอบให้นายกรัฐมนตรี-คณะรัฐมนตรี ลงพื้นที่ครม.สัญจร 17-18 ก.พ.นี้
เสื้อผ้าบาติกลายสมิหลาได้รับแรงบันดาลใจจากรูปปั้นนางเงือกทอง ณ ชายหาดสมิหลา ที่เตรียมมอบให้นายกรัฐมนตรี-คณะรัฐมนตรี ลงพื้นที่ครม.สัญจร 17-18 ก.พ.นี้
ทั้งนี้กลุ่มมีนาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา รังสรรค์ผ้าผืนนี้เป็นกลุ่มที่ได้รับรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในการประกวดผ้าบาติกระดับประเทศ 3 ปีซ้อน
สำหรับการผลิตผ้าบาติกลายสมิหลานี้ ทางกลุ่มได้ผลิตเป็นครั้งแรกเพื่อแสดงถึงความภาคภูมิใจของชาวสงขลา ที่ได้รับเกียรติจากรัฐบาลใช้เป็นสถานที่การประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่เป็นจุดแรก ของปี พ.ศ.2568 อีกทั้งหาดสมิหลาได้รับการคัดเลือกให้เป็นแหล่งน้ำทะเลที่มีคุณภาพน้ำที่ดีที่สุดในประเทศไทย ประจำปี 2567
การทำผ้าบาติก จ.สงขลา
การทำผ้าบาติก จ.สงขลา
ลงพื้นที่ปาดังเบซาร์-ดูรถไฟรางคู่
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำสื่อมวลชนลงพื้นที่ ณ ด่านปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อศึกษาข้อมูลแนวทางรองรับรถไฟรางคู่ จากปาดังเบซาร์-หาดใหญ่ และติดตามเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียและชาติอื่นๆ เข้าไทยโดยการท่องเที่ยวทางราง
นายอนุกูล กล่าวว่า สงขลามีศักยภาพสูงในการรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางด้วยรถไฟ โดยเฉพาะจากประเทศมาเลเซีย KTM Berhad (การรถไฟมาลายา) ได้เปิดให้บริการรถไฟขบวนพิเศษ “MY Sawasdee” ตั้งแต่ปี 2565 บนเส้นทางกัวลาลัมเปอร์-หาดใหญ่-กัวลาลัมเปอร์ ได้รับความนิยมสูงจากนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย
สถานีปาดังเบซาร์ หนึ่งในจุดที่นายกรัฐมนตรี เตรียมลงพื้นที่ครม.สัญจร 17-18 ก.พ.นี้
สถานีปาดังเบซาร์ หนึ่งในจุดที่นายกรัฐมนตรี เตรียมลงพื้นที่ครม.สัญจร 17-18 ก.พ.นี้
โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา KTM Berhad ได้จัดเดินรถขบวนพิเศษ 16 เที่ยว รองรับผู้โดยสารกว่า 6,000 คน และในปีนี้มีแผนเพิ่มจำนวนเที่ยวเป็น 28 เที่ยว แบ่งเป็นเส้นทางกัวลาลัมเปอร์-หาดใหญ่-กัวลาลัมเปอร์ 25 เที่ยว และ เส้นทางกัวลาลัมเปอร์-สุราษฎร์ธานี-กัวลาลัมเปอร์ 3 เที่ยว คาดว่าจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในพื้นที่สงขลาและจังหวัดใกล้เคียง
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวมาเลเซียที่เดินทางผ่านบริษัททัวร์ โดยนิยมแวะเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวในจ.สงขลาก่อนเดินทางกลับ เช่น ย่านเมืองเก่าสงขลา หาดสมิหลา เจดีย์สแตนเลส ตลาดน้ำคลองแห ตลาดกิมหยง และแหล่งชอปปิงชื่อดังอื่น ๆ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่และสร้างเงินหมุนเวียน
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำสื่
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำสื่
มาเลเซียเที่ยวสงขลา 2.4 ล้านคน
จากข้อมูลของด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.สงขลา มาเลเซีย เป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาไทยมากที่สุดในปี 2567 มีจำนวนสูงถึง 2,479,427 คน ขณะที่เดือนม.ค.2568 เพียงเดือนเดียว มีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเดินทางเข้ามาถึง 222,988 คน
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในพื้นที่หาดใหญ่และสงขลา ได้แก่ เคเบิ้ลคาร์ สวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ เจดีย์สเตนเลส หาดสมิหลา เขาตังกวน ย่านเมืองเก่าสงขลา วัดพะโคะ ตลาดน้ำคลองแหที่จัดทุกเย็นวันศุกร์-อาทิตย์ รวมทั้งยังมีแหล่งชอปปิ้ง เช่น ตลาดพลาซ่า ตลาดกิมหยง และตลาดนัดกลางคืนในหาดใหญ่
ทั้งนี้ มูลค่าทางการค้า ปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ของด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ มูลค่าการค้ารวม 154,741.88 ล้านบาท โดยสินค้า 5 อันดับแรกที่ส่งออกมากที่สุด ได้แก่ ยางธรรมชาติ ยางสังเคราะห์ ไม้ที่เลื่อยหรือถากตามยาว ฝานหรือลอก ส่วนประกอบและอุปกรณ์ประกอบของยานยนต์ และเครื่องประมวลผลข้อมูลอัตโนมัติและหน่วยต่างๆ
สำหรับการจัดเก็บรายได้ ปีงบประมาณ พ.ศ.2567 รายได้ศุลกากรจัดเก็บรวมทั้งหมด จำนวน 2,943 ล้านบาท และขัอมูลล่าสุดในช่วงไตรมาสแรกของปีงบ 2568 (1 ต.ค. 2567-13 ก.พ.) จัดเก็บได้ 530 ล้านบาท